ความทนงตนและความหยิ่งผยองเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ความจองหองคือการที่คนเรามองตนเอง ในขณะที่ความหยิ่งผยองนั้นคือการสนใจว่าคนอื่นมองเรายังไง
เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้ว่าซูหว่านเป็นแบบแรกหรือแบบที่สอง เฟิ่งชิงเฉินรู้เพียงว่าแม้ว่านางจะมีความหยิ่งผยงเล็กน้อย แต่ว่าตนนั้นสนใจว่าตัวเองมองตัวเองยังไงมากกว่า
ดังนั้นเมื่อองค์รัชทายาทกล่าวว่า " จะหาคนไปตามหาเสด็จอาเก้าหรือไม่นั้น” เฟิ่งชิงเฉินส่ายหน้าและปฏิเสธ "มิต้องหรอกเพคะ ไม่จำเป็นต้องไปเชิญเสด็จอาเก้าเพียงเพราะการแพ้ชนะของการแข่งขันหรอก”
นางรู้ว่าแผนภาพโครงกระดูกมนุษย์ที่นางวาดเป็นมาตรฐานและสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่ว่านางไม่สนใจว่าจะชนะหรือแพ้ แต่มันไม่คุ้มค่าที่จะทำแบบนั้น
เสด็จอาเก้าไม่สบายแต่ละครั้งลำบากอย่างมาก นางไม่ต้องการทำลายแผนของเสด็จอาเก้าเพียงเพราะเรื่องของตัวเอง ถึงเวลานั้นสิ่งที่ตนต้องชดใช้อาจมากกว่าตอนนี้
ยังคงประโยคเดิม มาถึงขั้นนี้แล้ว คนที่แพ้ไม่ได้คือซูหว่าน ไม่ใช่เฟิ่งชิงเฉิน นางแพ้แค่หนึ่งตามันไม่ส่งผลอะไรต่อผลรวม
สิ่งที่ทำให้เฟิ่งชิงเฉินไม่เข้าใจคือ เหตุใดจักรพรรดิจึงคิดที่จะเรียกนางและซู่หว่านไปที่พระราชวัง หากเป็นเพราะแผนภาพโครงกระดูกมนุษย์นั้น หลังจากการแข่งขันจบลง จักรพรรดินำมันไปก็สิ้นเรื่องแล้ว
คุณต้องรู้ว่าการแข่งขันระหว่างนางกับซูหว่านนั้น เป็นเพียงการแข่งขันระหว่างหญิงสาวตัวเล็กตัวน้อย จักรพรรดิ ให้ความสนใจในวันแรกถือว่าให้เกียรติกันอย่างมากแล้ว เพราะจักรพรรดิไม่มีเวลามาสนใจเรื่องเล็กๆเหล่านี้หรอก
เฮ้อ... เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้ว่าการแทรกแซงของจักรพรรดิในเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับแผนภาพโครงกระดูกมนุษย์ของนางจริงๆ
หนานหลินจิ่นฝานได้รับข่าวจากทางราชบัณฑิตยสถาน จึงรีบเข้าวัง โดยขอให้จักรพรรดิจะเชิญซูหว่านและ เฟิ่งชิงเฉินเข้ามาในวังเพื่อที่พวกเขาจะได้เจรจาต่อหน้า
หนานหลิงจิ่นฝาน ไม่เชื่อว่าเฟิ่งชิงเฉินสามารถวาดแผนภาพโครงกระดูกมนุษย์ได้ แน่นอน ถ้ามันเป็นความจริง เขาคงไม่สูญเสียอะไรมาก แผนภาพโครงกระดูกมนุษย์เป็นประโยชน์ต่อเขาเช่นกัน ในการรบนั้น การสูญเสียกองกำลังที่มากที่สุดไม่ใช่เพราะตายในสนามรบ แต่เพราะรักษาไม่ถูกวิธี และตายหรือพิการของอาการบาดเจ็บ
หากแผนภาพโครงกระดูกมนุษย์นี้เป็นของจริง ยังไงเขาก็ต้องเอามาทำสำเนา ทางที่ดีควรได้ถามเรื่องที่มีประโยชน์ต่างๆ และเอาสิ่งเหล่านี้ไปให้หมอทหาร คนเหล่านั้นสามารถลดจำนวนการสูญเสียกองกำลังได้
ต้องยอมรับว่าหนานหลินจิ่นฝานเป็นคนฉลาดเช่นกัน จักรพรรดิคิดเรื่องนี้ได้หลังจากที่เขาออกคำสั่งแล้ว แต่จักรพรรดิไม่ได้โกรธหนานหลิงจิ่นฝาน ท่านโกรธเคืองเฟิ่งชิงเฉิน เพราะของดีแบบนี้เอามามอบให้กันลับๆมิได้หรือ? เหตุใดจึงต้องทำเป็นเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ ทำให้ท่านเสียข้อได้เปรียบไป
แต่เรื่องนี้มาถึงจุดนี้แล้ว จักรพรรดิไม่มีทางเปลี่ยนแปลง ทำได้แค่เตรียมการล่วงหน้าเท่านั้น
ขันทีผู้ประกาศพระราชกฤษฎีกามาพร้อมกับหมอหลวงที่มีนามสกุลว่าหลิว หมอหลวงหลิวถนัดเรื่องการรักษาภายนอก ด้านการต่อกระดูกนั้นเขาได้รับฉายาว่าที่หนึ่งแห่งเมือง
หมอหลวงหลิวนำภาพวาดของ เฟิ่งชิงเฉินไปทันทีที่มาถึง จักรพรรดิขอให้เขาตรวจสอบตำแหน่งของโครงกระดูกที่เฟิ่งชิงเฉินวาดออกมาว่าถูกต้องและสมบูรณ์หรือไม่ ก่อนทที่จะเข้าพระราชวังหรือไม่ ในเวลาเดียวกันให้เขาคัดลอกภาพวาดนี้เอาไว้
เฟิ่ง ชิงเฉินรู้ดีว่าภาพโครงกระดูกมนุษย์ที่สมบูรณ์หมายถึงอะไร ทั้งที่รู้ว่าหมอหลวงหลิววางแผนทำอะไร แต่เฟิ่ง ชิงเฉินก็ไม่ปฏิเสธ ภาพนี้มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยมากที่สุด และนี่ไม่ใช่ของนาง นางจะเสียดายไปเพื่อการใด
เนื่องจากหมอหลวงหลิวต้องวาดภาพคัดลอกบนรถม้า และต้องตรวจสอบความถูกต้องของภาพวาด พวกเขาจึงเดินทางช้าอย่างมาก และเป็นที่สนใจอย่างมาก
ตอนนี้ข่าวลือเปลี่ยนเป็น เมื่อหมอหลวงมาถึง มันสายมากแล้ว ซูหว่านถูกเฟิ่งชิงเฉินเฆี่ยนจนตาย และตอนนี้จักรพรรดิต้องการลงโทษเฟิ่งชิงเฉิน ตงหลิงและหนานหลิงอาจมีสงครามกัน
ทำไมไม่มีใครพูดว่า เฟิ่งชิงเฉินถูกซูหว่านทุบตีจนตาย?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...