นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 495

สายตาที่หนานหลิงจิ่นฝานจ้องมองเฟิ่งชิงเฉิน ไม่ต่างจากงูหลามยักษ์จ้องมองเหยื่อ มันช่างดูโหดเหี้ยมเหลือเกิน ทำเอาเฟิ่งชิงเฉินไม่กล้าหายใจแรง หนึ่งเพื่อป้องกันฮ่องเต้หาเรื่องนาง สองเพื่อป้องกันหนานหลิงจิ่นฝานทำร้ายนาง

ดีที่วันนี้หนานหลิงจิ่นฝานเพียงแค่หยอกเฟิ่งชิงเฉินเท่านั้น เมื่อเขาเห็นนางทำหน้าตาเคร่งขรึมก็หยุดหัวเราะและกล่าวอย่างอิ่มอกอิ่มใจว่า "เด็กก็คือเด็ก ต่อให้เอาชุดผู้ใหญ่มาใส่ก็กลบความเป็นเด็กไว้ไม่ได้หรอก แม่นางชิงเฉิน เจ้ายังเป็นเด็กอยู่แท้ๆ ไยต้องมาสวมชุดผู้ใหญ่ด้วย ชุดนี้ไม่เหมาะกับเจ้าเลย เจ้าใส่แล้วเสียบุคลิกมาก มองอย่างไรก็ไม่เข้ากันเลย"

"ใครๆก็รู้ดีว่าเสด็จอาเก้าไม่ยุ่งเรื่องผู้หญิง เขาไม่ชอบใกล้ชิดกับหญิงใด เจ้าไม่เห็นต้องเสียสละตัวเองเพื่อเขาขนาดนี้เลยนี่นา หากคุณชายใหญ่มารู้เข้าก็คงจะหดหู่ไม่น้อย อย่าว่าแต่คุณชายใหญ่เลย แม้แต่ข้าเองก็ยังสงสารเจ้า เกียรติของสตรีนั้นมีค่ายิ่งนัก เจ้าอย่าได้สละเกียรติของตัวเองเพื่อมาปกป้องเสด็จอาเก้าเลยนะ"

หนานหลิงจิ่นฝานพูดพล่ามอย่างสะใจ แถมยังคิดแทนเฟิ่งชิงเฉินเสียด้วย คำพูดของเขาแต่ละคำ ล้วนแดกดันว่าเสด็จอาเก้า "ไม่เอาไหน" คำพูดเช่นนี้คงมีแต่หนานหลิงจิ่นฝานที่กล้าพูด และยังพูดอย่างลอยหน้าลอยตา

มีคนเริงรื่นย่อมมีคนระทมทุกข์ แต่หนานหลิงจิ่นฝานไม่ได้ระบุชื่ออย่างชัดเจน คนอื่นๆก็ไม่กล้ามายุ่งเกี่ยว ได้แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

เฟิ่งชิงเฉินถอนหายใจพลางนึกปลอบใจตัวเองว่า วาจาหยาบช้าของหนานหลิงจิ่นฝานจะต้องมีสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับนาง ซึ่งอีกไม่นานก็คงโผล่ให้เห็นแล้ว

ฮ่าๆๆ......

เฟิ่งชิงเฉินนึกสะใจ แต่นางไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า นางยังคงแสร้งทำเป็นสุขุม "องค์ชายสามตรัสเกินไปแล้วเพคะ สิ่งที่องค์ชายสามตรัสมา ก็เป็นแค่เพียงเรื่องเสื้อผ้าเท่านั้น องค์ชายสามทรงคิดมากเกินไปแล้ว"

คำพูดเหล่านี้เหมือนจะแสดงให้เห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินร้อนตัว แล้วเผลอๆอาจจะช่วยไปยืนยันคำพูดของหนานหลิงจิ่นฝาน ทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันคิดไปต่างๆนานา ดูท่าทางเสด็จอาเก้าคงจะ "ไม่เอาไหน" จริงๆ

รัชทายาทอยากช่วยแก้ต่างให้เสด็จอาเก้า แต่เรื่องแบบนี้หากเขาพูดไปทั่วก็เกรงว่าจะยิ่งทำให้เรื่องราวบานปลาย รัชทายาทลังเลอยู่สักพัก ในขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปาก ก็เห็นเฟิ่งชิงเฉินส่งสายตามาห้ามไว้ เขาจึงจำต้องถอดใจ ถึงอย่างไรเรื่องนี้ เขาก็ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอยู่ดี

คนอื่นจะรู้สึกเช่นไรตงหลิงจื่อลั่วไม่รับรู้ รู้แค่ว่าตอนนี้เขาดีใจถึงขีดสุด ราวกับผุดขึ้นจากนรกแล้วทะยานสู่สวรรค์ ที่แท้เขาก็ยังมีโอกาส ที่แท้เขาก็ยังไม่พลาดไป

เขาเคยพลาดเรื่องเหยาหวาไปแล้ว คราวนี้จะมาพลาดเรื่องเฟิ่งชิงเฉินอีกไม่ได้เป็นอันขาด ตงหลิงจื่อลั่วกำหมัดและตั้งปณิธานกับตัวเอง

ที่นี่คือแผ่นดินตงหลิง จักรพรรดิของตงหลิงยังอยู่ ต่อให้หนานหลิงจิ่นฝานจะทำตามที่หวังได้ แต่ก็ไม่มีทางมาเกี่ยวโยงกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน "แม่นางชิงเฉินบอกว่าข้าพูดไปเรื่อย จะว่าเช่นนั้นก็ได้นะ แต่ข้าอยากบอกเจ้าจริงๆว่าเจ้าแต่งตัวเช่นนี้แล้วไม่งามเลยจริงๆ"

"ชิงเฉินจะสวมใส่อะไรคงไม่ต้องรบกวนองค์ชายสามมาช่วยออกความคิดเห็นหรอกเพคะ วันนี้ชิงเฉินมาเพื่อแข่งขันกับคุณหนูซูหว่าน ไม่ได้มาถกเถียงเรื่องการแต่งกาย ชิงเฉินจะแต่งกายอย่างไรก็ไม่ส่งผลต่อการแข่งขันหรอกเพคะ" เฟิ่งชิงเฉินสะบัดแขนเสื้อเพื่อแสดงออกว่าไม่อยากพูดให้มากความ ทำเอาซีหลิงเทียนเหล่ยและตงหลิงจื่อลั่วต้องเงียบกริบในทันที

กว่าจะปะทะคารมกันแล้วเสร็จ ความโกรธของฮ่องเต้ก็ลดลงไปมากแล้ว ถึงจะยังมีความโกรธอยู่บ้าง แต่พระองค์ก็ไม่ทรงบังคับให้ถอดชุดเฟิ่งชิงเฉินในตอนนี้

แม้ซีหลิงเทียนเหล่ยและหนานหลิงจิ่นฝานจะช่วยโวยวายเรื่องชุดแทนฮ่องเต้ไปแล้ว แต่ฮ่องเต้ก็ไม่คิดที่จะสั่งถอดชุดเฟิ่งชิงเฉินอีก เพราะนี่เป็นปัญหาภายใน

จะให้ฮ่องเต้ต้องมาทรงขายหน้าเพราะเรื่องนี้ได้อย่างไร

ฮ่องเต้ตรัสปราศรัยไม่กี่คำแล้วจึงพาฮองเฮาเดินออกไป ก่อนไปก็มิวายทรงหันมาแย้มพระสรวลให้เฟิ่งชิงเฉินด้วย

เฟิ่งชิงเฉินหนาวสะท้าน นางรู้สึกว่ารอยยิ้มนั่นอำมหิตเหลือเกิน สิ่งที่นางมั่นใจในตอนนี้ก็คือ คนที่จะซวยไม่ใช่นางแน่ๆ แต่ว่าเป็นเสด็จอาเก้าต่างหาก

เหอะๆ ฮ่องเต้เสด็จออกไปแล้ว ประธานในพิธีย่อมต้องเป็นรัชทายาท รัชทายาทไม่รอช้า เขาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวกลางแล้วออกคำสั่งให้เริ่มการแข่งขันได้

กติกาการแข่งขันทักษะทางการแพทย์ง่ายมาก โดยสำนักหมอหลวงจะหาคนไข้มาให้ทั้งหมด 10 คน ซูหว่านและเฟิ่งชิงเฉินจะต้องจับฉลากเลือกออกมา 1 คน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ