ความผิดปกติไปของซูหว่านทำให้เฟิ่งชิงเฉินไม่อาจละเลยได้ เนื่องจากการแข่งขันในวันนี้ไม่ใช่สิ่งที่ซูหว่านถนัด แต่นางกลับไม่ตื่นตระหนกแต่อย่างใด เมื่อเผชิญหน้ากับการกระทำทุกอย่างของเฟิ่งชิงเฉินนางกลับยังคงรับเอาไว้ได้ด้วยท่าทางสง่างาม ดุจดั่งสตรีขั้นสูง เรื่องนี้ดูเหมือนจะผิดปกติไป
ต้องรู้ว่าสำหรับการปฏิบัติต่อเฟิ่งชิงเฉินแล้ว ซูหว่านไม่ได้มีทีท่าสงบเสงี่ยมดุจดั่งสตรีที่มีมารยาท เรื่องใดก็ตามแต่ซึ่งผิดปกติไปรับรองว่าจะต้องมีความลับซ่อนอยู่ เฟิ่งชิงเฉินแอบเตือนตนเองให้ระมัดระวัง อย่าได้ตกในหลุมพรางของหนานหลิงจิ่นฝานและซูหว่าน
หากว่าซูหว่านไม่มั่นใจว่าจะชนะในการแข่งขันครั้งนี้ ก็คงจะเป็นเพราะไม่ใส่ใจกับการพ่ายแพ้ นางพ่ายแพ้มาถึงสามสนามติดต่อกัน ชื่อเสียงของซูหว่านแพร่ออกไปมากมาย และนางจะแพ้ไม่ได้ เฟิ่งชิงเฉินเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าคงจะเป็นเพราะประการแรกมากกว่า ซูหว่านจะไม่ยอมแพ้ให้แก่นางง่ายๆ แน่ แต่ซูหว่านน่าจะกำลังมีความสุขเนื่องจากนางจะชนะตนได้ในการแข่งขันที่ตนถนัด
เฟิ่งชิงเฉินกะพริบตาเบาๆ ก่อนจะซ่อนความคิดอันลึกล้ำเหล่านี้ลงไปแล้วหันไปเหลือบมองผู้คนมากมายที่นั่งอยู่ตรงนั้น แต่ทุกคนที่นั่งอยู่ที่นั่น ล้วนเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถขั้นสูง ประกอบกับความสามารถของเฟิ่งชิงเฉินใช่ว่าจะวิเคราะห์ออกมาผิดได้ง่ายๆ ดังนั้นจึงไม่น่าจะเกิดปัญหาขึ้นได้อย่างง่ายดาย
องค์รัชทายาทไม่พึงพอใจต่อท่าทางของหนานหลิงจิ่นฝาน แต่องค์รัชทายาทก็รู้ดีว่าการที่จะวิวาทกับหนานหลิงจิ่นฝานจะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ ด้วยเหตุนี้จึงเสแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินและไม่เข้าใจคำพูดของหนานหลิงจิ่นฝาน เขาหันไปโบกมือให้ขันทีส่งสลากไปตรงหน้าเฟิ่งชิงเฉินและซูหว่าน “คุณหนูซูหว่าน ผู้ใดเดินทางมาล้วนเป็นแขก เราขอเชิญให้คุณหนูซูหว่านได้จับฉลากก่อน”
ขันทีเดินตรงไปอย่างนอบน้อมหยุดอยู่ตรงหน้าซูหว่าน ความรู้สึกไม่สบายใจของเฟิ่งชิงเฉินรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุผลบางประการนางสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติไปแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด
เฟิ่งชิงเฉินเหลือบมองดูทุกการกระทำของขันทีซึ่งทำให้นางไม่ทันได้เห็นแววตาอันเป็นประกายเจ้าเล่ห์ของหนานหลิงจิ่นฝานที่ปรากฏขึ้น
“ขอบพระทัยฝ่าบาท” ซูหว่านลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง นางไม่แม้แต่จะเหลือบตามองก็เอื้อมมือไปหยิบสลากใบหนึ่งออกมา “หมายเลขแปด”
หมายเลขแปด คือสตรีนางหนึ่งที่มีหน้าซีดเผือด ดูไม่มีชีวิตชีวาแม้แต่น้อย เพียงแค่ดูสีหน้าก็รู้ได้ว่าอาการไม่เบา แต่เฟิ่งชิงเฉินดูเหมือนจะเห็นแววตาของผู้ป่วยนั้นได้อย่างชัดเจน อาการเจ็บป่วยแท้จริงของสตรีหมายเลขแปดนี่ไม่ได้หนักหนาดั่งที่นางแสดงออกมา
หากกล่าวว่าการที่ซูหว่านจับได้หมายเลขแปดเป็นเรื่องบังเอิญหรือเป็นเพราะโชคชะตาล่ะก็ เช่นนั้นเรื่องที่เฟิ่งชิงเฉินจับได้หมายเลขเก้าซึ่งเป็น เด็กหนุ่มผู้ที่มีสีหน้าแดงก่ำแลดูอิ่มเอิบ แต่ดวงตากลับดูหมองคล้ำราวกับชีวิตหมดสิ้นความหวัง คงไม่อาจจะใช้คำว่าโชคชะตาหรือความบังเอิญมาอธิบายในเรื่องนี้ได้
นางหันป้ายในมือที่จับสลากได้เมื่อครู่ไปทางหนานหลิงจิ่นฝาน และสบตากับเขาด้วยท่าทางอันสงบนิ่งแต่แฝงไปด้วยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ นางต้องการจะบอกกับหนานหลิงจิ่นฝานว่านางรู้ดีถึงกลอุบายในเรื่องนี้ แต่ไม่เป็นไรข้าสามารถยอมแพ้ได้อย่างใจกว้างขวาง
ไม่ใช่ว่าเฟิ่งชิงเฉินมักจะคิดถึงเรื่องต่างๆ ในด้านลบ แต่ในโลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญเช่นนั้นเกิดขึ้นหรอก ภายในสิบคนของผู้ป่วย ซูหว่านจับได้ผู้ที่มีสีหน้าซีดเผือดที่สุด และเฟิ่งชิงเฉินกลับจับได้ผู้ที่ดูสีหน้าปกติที่สุด ให้ตายสิ!
ไม่ใช่ว่าเฟิ่งชิงเฉินเลือกผู้ป่วย แต่หมอก็คือหมอ นางอาจจะเข้าไปต่อสู้กับมัจจุราชก่อนที่คนไข้จะจากไปได้ แต่ก็ใช่ว่าทุกครั้งนางจะสามารถเอาชนะเทพแห่งความตายได้เช่นนั้น
ไม่ว่านางจะชนะหรือแพ้ นางก็จำเป็นจะต้องรับผิดชอบต่อผู้ป่วยของตน นางจะไม่ผลักไสผู้ป่วยของตนไปอย่างแน่นอน นางไม่ใช่เทพเจ้านางไม่อาจจะรับประกันได้ว่าผู้ป่วยทุกคนจะรอดชีวิต แต่นางจะทำได้เพียงสัญญาว่าจะรักษาคนไข้ของตนอย่างสุดกำลัง
เมื่อเผชิญหน้ากับดวงตาอันเฉียบคมของเฟิ่งชิงเฉิน หนานหลิงจิ่นฝานก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อยไปชั่วขณะ และรู้สึกว่าตนเป็นดั่งเช่นตัวตลก เดิมที เขารู้สึกภาคภูมิใจและคิดว่าเฟิ่งชิงเฉินจะโกรธโมโหจนบ้าคลั่ง แต่คิดไม่ถึงว่านางจะรู้อยู่ก่อนหน้าแล้ว ทว่าถึงอย่างไรหนานหลิงจิ่นฝานก็คือหนานหลิงจิ่นฝาน เพียงชั่วพริบตาเดียวเขาก็หันกลับไปยิ้มให้กับทางเฟิ่งชิงเฉินราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
เฟิ่งชิงเฉินรู้แล้วอย่างไรเล่า? นางไม่มีความสามารถในการตรวจสอบเรื่องนี้หรอก ส่วนผู้ที่มีความสามารถเพียงพอบัดนี้กลับกำลังป่วยหนัก หนานหลิงจิ่นฝานรู้สึกขอบคุณเสด็จอาเก้าที่ป่วยหนักเหลือเกิน ทำให้เขามีช่องว่างเพียงพอที่จะสอดแทรกคนของเขาเข้าไปจัดการในเรื่องนี้
“บัดนี้ทั้งสองฝ่ายได้ทำการเลือกผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว คนอื่นจงออกไปเถิด การรักษาผู้ป่วยหาใช่ว่าวันสองวันจะหายได้ ตามกฎของการแข่งขันทักษะการรักษาผู้ป่วยแล้วนั้น มีเวลาให้ทั้งสองคนสิบห้าวัน และภายในสิบห้าวันนี้ คุณหนูทั้งสองจะได้รับสิทธิเช่นเดียวกับหมอหลวง ซึ่งสามารถเข้าออกสำนักหมอหลวงได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...