นางจะไม่ใส่ใจกับอารมณ์ของผู้ป่วยให้มากนัก ไม่เช่นนั้นคงจะเป็นการทำร้ายตนเอง นี่คือหลักการทั่วไปของเฟิ่งชิงเฉิน
ไม่ใช่ว่านางเลือดเย็นไร้ความปรานี แต่ในโลกนี้มีทั้งคนและสิ่งต่างๆ มากมายที่ควรค่าต่อการเห็นอกเห็นใจ นางไม่อยากจะทำตัวเหมือนกับหลินเม่ยเม่ย ที่แต่ละวันอยู่กับความเศร้าโศกเสียใจน้ำตาไม่เคยหยุดไหล เมื่อพบเห็นกับความเกิดแก่เจ็บตาย มีสิ่งใดอีกที่นางจะไม่อาจปล่อยวางได้......
นางสวมหน้ากากอนามัยแล้วไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมาอีก นางเพิกเฉยต่อความคาดหวังและความรอคอยอันเล็กน้อยในสายตาของห้าวถิง เนื่องจากหากว่านางจะได้ทำการตรวจ นางจะไม่กล้าให้คำสัญญาใดกับผู้ป่วยเลย
เวลามีจำกัด หลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินทำการจับชีพจรแล้วก็ได้ทำการตรวจร่างกายเบื้องต้นให้แก่ห้าวถิง แน่นอนว่าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะของนางได้ถูกเปิดออกแล้วก่อนหน้านี้ มิใช่ว่านางเอาแต่พึ่งพาเทคโนโลยีสมัยใหม่ แต่อาการเจ็บป่วยบางอย่างไม่ใช่สิ่งที่ตรวจมองได้จากภายนอกด้วยสายตา อีกอย่างผู้ป่วยตรงหน้านี้ก็ไม่ให้ความร่วมมือกับนางสักเท่าไหร่
เฟิ่งชิงเฉินตรวจดูรูม่านตาของห้าวถิง จากนั้นก็พิจารณาถึงอัตราการเต้นของหัวใจรวมไปถึงการหายใจด้วยความระมัดระวัง ก่อนจะถามเขาว่ามีส่วนใดที่รู้สึกไม่สบาย และสามารถรับประทานอาหารนอนหลับใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติหรือไม่?
จากคำพูดของห้าวถิงประกอบกับประสบการณ์ทางเทคนิคที่นางมี เฟิ่งชิงเฉินรู้ได้ทันทีว่านางกำลังพบกับปัญหาใหญ่เข้าแล้ว การแข่งขันในครั้งนี้จะชนะหรือไม่ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาใหญ่ก็คือนางอาจสามารถรักษาห้าวถิงให้หายได้หรือไม่
“คุณชายห้าวถิง ข้าต้องการจะนำเลือดของท่านออกมาสักหยด” เฟิ่งชิงเฉินไม่รอให้ห้าวถิงปฏิเสธ นางก็ได้หยิบเข็มเล่มเล็กออกมาจากกล่องยาแล้วแทงไปที่ปลายนิ้วของห้าวถิง
ห้าวถิงรู้สึกเจ็บปวดแต่ไม่ได้เคลื่อนไหว แล้วยอมให้เฟิ่งชิงเฉินเจาะเลือดของเขาไป ขนตาเรียวยาวของเขาขยับเล็กน้อย หลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินใส่เลือดลงไปในขวดบรรจุเรียบร้อยแล้วเขาจึงได้เอ่ยถามขึ้นว่า “หมอเฟิ่ง ข้าเป็นโรคอะไรกันแน่ เหตุใดบัดนี้จึงไม่มีผู้ใดตรวจพบโรคของข้าได้เลย”
“บัดนี้ข้ายังไม่รู้ อีกประเดี๋ยวรอให้ข้ากลับไปและนำเลือดของเจ้าทำการทดสอบแล้วจึงจะรู้ได้” เฟิ่งชิงเฉินเปิดกล่องยาออกแล้วถอดถุงมือและหน้ากาก ยัดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของตน เซี่ยหว่านรีบหยิบผ้าขนหนูเปียกผืนหนึ่งเข้ามา แล้วทำการเช็ดนิ้วมือทั้งสิบของเฟิ่งชิงเฉินให้อย่างสะอาดสะอ้าน
สาวใช้ที่ฉลาดหลากแหลมเช่นนี้ นางสังเกตเห็นลักษณะนิสัยอันเคยชินเล็กๆ น้อยๆ ของตน บ่าวที่มาจากจวนอ๋องเก้าไม่ธรรมดาทีเดียว
เฟิ่งชิงเฉินหันไปพยักหน้าให้แก่เซี่ยหว่านเป็นความหมายว่านางยอมรับ เซี่ยหว่านดวงตาเป็นประกายด้วยความปีติยินดี
หลังจากจัดการทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็เดินหันหลังกลับไปมองเห็นซูหว่านที่อยู่ตรงนั้นทำท่าทางเสแสร้งตรวจจับชีพจรของผู้ป่วยหมายเลขแปด แล้วเอ่ยถามคำถามที่โดยมากหมอจะเอ่ยถามคนไข้ ท่าทางที่ซูหว่านแสดงออกมานั้นเกรงว่าหลายวันมานี้นางเองก็คงจะฝึกฝนไม่น้อย
ในการแข่งขัน แพ้ชนะทุกครั้งวัดกันไม่ใช่ที่ความสามารถ แต่วัดกันที่กลยุทธ์ ดังเช่นการแข่งขันฉิน คัดลายมือ วาดภาพและหมากรุกทั้งสี่นั้น ที่นางเอาชนะซูหว่านมาได้
สำหรับกลยุทธ์การจัดการของหนานหลิงจิ่นฝานและซูหว่าน เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้สนใจและโกรธเคืองแต่อย่างใด เพราะนี่คือความสามารถของพวกเขา
เฟิ่งชิงเฉินเผยอยิ้มขึ้นอย่างนุ่มนวลแล้วหันไปคารวะองค์รัชทายาทและคนอื่นๆ “ฝ่าบาท บัดนี้ชิงเฉินได้ทำการวินิจฉัยโรคของเขาแล้ว หากไม่มีเรื่องใดอื่นชิงเฉินขอตัวก่อน”
“ชิงเฉินวินิจฉัยโรคของคุณชายผู้นั้นได้แล้วหรือ จำเป็นต้องเขียนใบสั่งยาหรือไม่?” องค์รัชทายาทไม่ใช่คนโง่ เฟิ่งชิงเฉินสามารถมองเห็นความผิดปกติไปของซูหว่านได้ แน่นอนว่าเขาก็ค้นพบมันเช่นกัน การที่เขากล่าวออกมาเช่นนี้เป็นการเปิดโอกาสให้เฟิ่งชิงเฉินกล่าวถึงกลยุทธ์ในการแข่งขันครั้งนี้ออกมา แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับไม่สนใจ ในสายตาของเฟิ่งชิงเฉินแล้วนั้น การใช้กลยุทธ์ต่างๆ ในการแข่งขันเป็นเพียงเรื่องปกติ
“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ใส่ใจ บัดนี้ชิงเฉินยังไม่อาจทราบได้ว่าคุณชายผู้นี้เป็นโรคอะไร ชิงเฉินจำเป็นจะต้องใช้เวลากลับไปครุ่นคิดก่อน” แม้นางจะมีข้อสงสัยที่ตั้งเอาไว้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นางจะรอผลการตรวจเลือดออกมาก่อน หากยังตรวจไม่พบ นางจะไม่มีสิทธิ์กล่าวคำใด เพราะก่อนที่จะมั่นใจ หมอไม่สามารถคาดเดาอาการต่อหน้าคนไข้เช่นนี้ได้ หากว่านางวินิจฉัยผิดและทำให้คนไข้ตกใจก็คงแย่
“ข้าได้ยินมาว่าทักษะทางการแพทย์ของคุณหนูเฟิ่งยอดเยี่ยมยิ่งนัก ยังมีโรคที่คุณหนูเฟิ่งไม่อาจวินิจฉัยออกมาได้ด้วยหรือ?” หนานหลิงจิ่นฝาน ทำท่าทางเหมือนตนเป็นแมลงสาบ ไม่ว่าเจ้าจะชอบหรือไม่ ข้าก็จะคอยปรากฏตัวอยู่ข้างกายเสมอ
เฟิ่งชิงเฉินเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจแล้วกล่าวอย่างไร้ความอดทนว่า “การที่ชิงเฉินยังไม่อาจวิเคราะห์อาการเจ็บป่วยของคุณชายผู้นี้ออกมาได้ องค์ชายสามคาดว่าคงจะรู้ดีว่าเป็นเพราะเหตุใด ส่วนที่องค์ชายสามกล่าวว่าทักษะทางการแพทย์ของชิงเฉินยอดเยี่ยมนั้นเป็นเพียงแค่ข่าวลือ เฟิ่งชิงเฉินมีความคุ้นเคยกับการรักษาบาดแผลภายนอกเท่านั้น”
จะใช้กลยุทธ์ใดนั้นย่อมได้ แต่การเปิดเผยกลยุทธ์พร้อมด้วยท่าทางอันน่าขยะแขยงเช่นนั้นนางรู้สึกรังเกียจยิ่งนัก ทำเรื่องผิดเอาไว้แต่ยังแสร้งทำเป็นคนดี เฟิ่งชิงเฉินไม่อยากจะสนทนากับอีกฝ่ายหนึ่งให้เสียเวลานางจึงได้กล่าวออกมาปิดปากเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...