เฟิ่งชิงเฉินคิดว่า หยุนเซียวมีจุดประสงค์บางอย่างในการพานางออกจากงานเลี้ยงอาหารค่ำของเจ้าชายหยวนซี แต่นางไม่ต้องการให้ หยุนเซียวไม่พูดถึงคำใด ๆ ระหว่างทางหลังจากแนะนำตัวเองง่ายๆ แล้วส่งนางกลับบ้าน เมื่อเขาลงจากรถม้าเขาก็มอบจี้หยกให้นาง
“เจ้าหนูชิงเฉิน หากพกจี้หยกนี้ติดตัวไปที่ร้านยาทั่วทั้งจิ่วโจว เจ้าหนูจะสามารถหายาได้ทุกชนิด”
คาดว่าเฟิ่งชิงเฉินจะปฏิเสธ หยุนเซียวจึงกล่าวเสริมว่า "เจ้าหนูชิงเฉินเอาไปเถอะ จี้หยกนี้ไม่แพง หากเจ้าหนูไม่มีจี้หยกนี้เจ้าหนูจะต้องจ่ายราคายาเช่นเดียวกับราคาขายตามท้องตลาด”
สมุนไพรที่ดีนั้นหายาก และนี่ถือได้ว่าเป็นการปลอมตัวของเฟิ่งชิงเฉิน
“ขอบเจ้ามาก หยุนเซียว” เฟิ่งชิงเฉินหยิบจี้ออกมา ของกำนัลดังกล่าวไม่เบาหรือหนัก ดังนั้นมันจึงยากที่จะปฏิเสธ
หยุนเซียวคนนี้วางตัวดีกว่าจิ่นหลิง อาจมาจากภูมิหลังทางธุรกิจ และคุ้นเคยกับการติดต่อกับคนทุกประเภทตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก
หยุนเซียวหยิบพัดออกมาพัดเบาๆ “เจ้าหนูชิงเฉินสุภาพ ค่ำแล้ว หยุนเซี่ยวจะไม่รบกวนเจ้าชิงเฉินให้พักผ่อน”
หยุนเซียวหันหลังกลับไปขึ้นรถม้า ทันทีที่ก้าวขึ้นรถ หยุนเซียวดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่าง หันไปหาเฟิ่งชิงเฉินและกล่าวว่า “เอาล่ะ เจ้าชิงเฉิน คนไข้ที่เจ้ารักษาในวันนี้มีความสัมพันธ์ดีกับเจ้าชายหยวนซี”
ละทิ้งคำพูดเหล่านี้ หยุนเซียวหันหลังกลับ และเข้าไปในรถม้า ไม่ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะเข้าใจหรือไม่ก็ตาม
เฟิ่งชิงเฉินยืนอยู่หน้าประตูจนกระทั่งรถม้าของหยุนเซียวหายไป จากนั้นก็หันหลังกลับและเดินไปห้องหนังสือในจวน
ห้องหนังสือของเฟิ่งชิงเฉินเป็นเหมือนเป็นห้องพยาบาลเล็กๆ ทุกมุมของห้องหนังสือเต็มไปด้วยยาและเครื่องมือ
แม้ว่าชุดเครื่องมือทางการแพทย์อันชาญฉลาดจะดี แต่ก็มีบางครั้งก็ไม่สะดวก
ทันทีที่นางมาถึงห้องหนังสือ เฟิ่งชิงเฉินก็สั่งไม่ให้ใครรบกวน นางต้องการทดสอบหยดเลือดของชุยห้าวถิง นางสงสัยว่าอาการป่วยของห้าวถิงไม่ใช่เรื่องง่าย
ก่อนการตรวจสอบ เฟิ่งชิงเฉินดูที่ผลการวินิจฉัยจากชุดเครื่องมือแพทย์อันชาญฉลาด และก็เป็นไปตามคาด ชุดเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะตรวจพบว่าห้าวถิงเป็นโรคเกี่ยวกับเลือด และจำเป็นต้องมีการทดสอบเพิ่มเติม
เฟิ่งชิงเฉินเปิดใช้งานชุดเครื่องมือทางการแพทย์อันชาญฉลาด จากนนั้นนำอุปกรณ์ทดสอบออกมา และเริ่มทดสอบหยดเลือดลงแผ่นทดสอบ การทดสอบเลือดของนางไม่ยากสำหรับนาง
หลังจากการทดสอบและเปรียบเทียบซ้ำแล้วซ้ำเล่า เฟิ่งชิงเฉินต้องบอกตัวเองให้เผชิญกับข้อเท็จจริง
“มะเร็งเม็ดเลือดขาว มันคือมะเร็งเม็ดเลือดขาวจริงๆ... อย่าว่าแต่ 15 วัน อีก 3 อีก 15 วันเลย ข้าไม่มั่นใจว่าจะรักษาหาย"
เฟิ่งชิงเฉินปิดถุงยาอัจฉริยะอย่างหงุดหงิด ถูคอของนางเล็กน้อย และพบว่าข้างนอกนั้นมืด เฟิ่งชิงเฉินก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง และเดินออกไป
เอาล่ะ กินแล้วไปนอนเถอะ นางไม่สนผลทางการแพทย์ การรักษาอาการป่วยของห้าวถิง นางจะทำให้ดีที่สุดที่ ถ้าห้าวถิง เต็มใจ นางก็จะพยายามให้ดีที่สุด . .
หลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว นางก็ไปอาบน้ำและพักผ่อน บางทีนางอาจจะเหนื่อยเกินไป หรือนางไม่มีภาระในใจแล้ว เฟิ่งชิงเฉินนอนหลับสบายตลอดคืน ในวันรุ่งขึ้น นางไปรักษาห้าวถิงที่โรงพยาบาล
ห้าวถิงเป็นคนที่ฉลาดและมีน้ำใจ เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้พูดอะไร และเขาก็ไม่ได้ถาม เพราะในระหว่างการรักษามีคนสองคนคือหมอหลวงและตงหลิงจื่อลั่วเฝ้าดูอยู่ เฟิ่งชิงเฉินไม่ทำอะไรมาก แต่เหลือยาไว้บ้าง บอกกับห้าวถิงว่า "ข้าเป็นหมอ หากเจ้าเชื่อในข้า ข้าจะรักษาให้ดีที่สุด ขอให้อย่าหมดกำลังใจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...