ปั๊ง... ปู้จิงหยุนกระเด็นออกไปราวกับสิ่งของที่ถูกโยนออกไป จากนั้นก็กระแทกเข้าที่กำแพง และร่วงลงมาตามผนังกำแพง
“ปู้จิงหยุน นี่มันครั้งที่เท่าไหร่แล้ว? เจ้าทำข้าผิดหวังอย่างมาก” หลานจิ่วชิงชึ้ไปที่ปู้จิงหยุนและด่าทอ
“จิ่วชิง เมื่อวานเป็นอุบัติเหตุ มันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ” ปู้จิงหยุนไม่มีเวลามากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เขาเร่งลุกขึ้นมาและอธิบาย
วันนี้จิ่วชิงน่ากลัวอย่างมาก เขามั่นใจได้ว่าถ้าเฟิ่งชิงเฉินตาย หลานจิ่วชิงฆ่าเขาอย่างแน่นอน
หากปู้จิงหยุนไม่อธิบายคงจะดีกว่านี้ พอเขาอธิบาย หลานจิ่วชิงโกรธมากขึ้นกว่าเดิม หลานจิ่วชิงก้าวเข้าไปและจับตัวปู้จิงหยุนขึ้นมา ความโกรธนั้นปะทุขึ้นในดวงตาที่อยู่ใต้หน้ากากของเขา
“อุบัติเหตุหรือ? ภายใต้การปกป้องที่เคร่งครัดเช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินถูกมือสังหารทำร้ายจนบาดเจ็บ แบบนี้เรียกว่าอุบัติเหตุหรือ? ปู้จิงหยุน ข้าฆ่าเจ้าตอนนี้ ถือว่าเป็นอุบัติเหตุด้วยหรือไม่?”
หลานจิ่วชิงบีบคอของปู้จิงหยุนเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว แล้วยกตัวเขาขึ้นมา เขาเผยกลิ่นอายแห่งความอาฆาตออกมาราวกับว่าจะฆ่าปู้จิงหยุนจริงๆ แม้ว่าซูเหวินชิงจะเป็นห่วงอย่างมาก แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปยุ่ง
เขากลัวว่ายิ่งเขาเกลี้ยกล่อมมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำให้เรื่องไปกันใหญ่ ตอนนี้จิ่วชิงกำลังโกรธเคืองอย่างมาก เขาได้ระบายมันออกมาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
เพื่อนตายได้แต่ข้าจะไม่ยอมตาย สถานการณ์แบบนี้ เขาไม่หาเรื่องใส่ตัวอย่างแน่นอน
เท้าของปู้จิงหยุนลอยขึ้นมาจากพื้น เขาไม่สามารถหายใจได้ ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ตาลุกวาว และลิ้นก็ยื่นออกมา เมื่อตอนที่ปู้จิงหยุนคิดว่าตนกำลังจะตายแล้ว หลานจิ่วชิงก็ปล่อยมือ.......
บูม... ปู้จิงหยุนล้มลงกับพื้น
“แฮ่มแฮ่ม …” ปู้จิงหยุนหายใจอย่างแรง เมื่อนึกถึงภาพเมื่อสักครู่นี้ ปู้จิงหยุนยังคงหวาดกลัว ตอนนี้เขาไม่สงสัยแล้ว แต่เขามั่นใจเลยว่าหากเฟิ่งชิงเฉินตายจริง ๆ จิ่วชิงจะต้องฆ่าเขาให้ตายเช่นกัน
หลังจากสงบลงแล้ว ปู้จิงหยุนแอบมองดูหลานจิ่วชิง เมื่อเห็นว่าความโกรธของหลานจิ่วชิงมีแต่เพิ่มขึ้นไม่มีลดลง เขายิ่งกังวลมากขึ้นไปอีก เขารู้ตัวแล้วว่าวันนี้เขาอาจจะเอาตัวรอดไปเนียนๆ ไม่ได้แล้ว
ลำคอของเขาเจ็บจนพูดอะไรไม่ได้ แต่ปู้จิงหยุนไม่กล้าแสร้งทำเป็นอ่อนแอ เขาทนต่อความเจ็บปวด และกล่าวว่า “จิ่วชิง เมื่อคืนมันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ สายลับไม่ได้ละเลยหน้าที่ คนลอบเข้าไปในห้องของเฟิ่งชิงเฉินเมื่อวานนี้ วิชาของเขาเทียบเท่าข้าและเจ้า ช่วงนี้เฟิ่งชิงเฉินเป็นที่สนใจมากจนเกินไป คนที่อยากจะจัดการนางมีไม่น้อย”
ปู้จิงหยุนกำลังบอกหลานจิ่วชิงทางอ้อมว่า การที่มีคนมาลอบสังหารเฟิ่งชิงเฉิน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหลานจิ่วชิง หากมิใช่เพราะเสด็จอาเก้าสนับสนุนเฟิ่งชิงเฉินอย่างดี หญิงสาวที่ธรรมดาเช่นนี้จะกลายเป็นเป้าหมายของเหล่าผู้มีอำนาจได้อย่างไร
หลานจิ่วชิงมองลงไปที่ปู้จิงหยุนอย่างดูหมิ่น ดวงตาที่ลึกของเขาเย็นชาอย่างมาก เขาเหลือบมองปู้จิงหยุนเพียงครู่เดียว จากนั้นก็เงยหน้ามองไปทางอื่น
“เอาล่ะ เมื่อวานเป็นอุบัติเหตุ แล้วครั้งที่แล้วละ? คนที่ลอบสังหารเฟิ่งชิงเฉินเป็นใคร เจ้าสืบได้หรือยัง?” การที่เขาเอาเฟิ่งชิงเฉินออกมาเสี่ยง เพราะเขามั่นใจว่าสามารถปกป้องเฟิ่งชิงเฉินได้ดี แต่ไม่คาดคิดว่าจะพลาดเพียงเล็กน้อย ทำให้มีคนฉวยโอกาสไปได้
เขาโกรธปู้จิงหยุน และโกรธตัวเขาเองยิ่งกว่า!
“จิ่วชิง เหตุการณ์ครั้งที่แล้วมุ่งเป้าไปที่หวังจิ่นหลิง เฟิ่งชิงเฉินเป็นแค่คนที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น” ปู้จิงหยุนได้ยินจิ่วชิงเอาเรื่องเก่าๆ มาพูด จึงไม่พอใจเล็กน้อย
“ข้าไม่สนหรอกว่าการลอบสังหารครั้งที่แล้วมุ่งเป้าไปที่ใคร ข้ารู้แค่ว่าเวลาผ่านไปนานมากแล้ว เจ้าสืบข้อมูลอะไรมาได้บ้างหรือ? คนที่อยู่เบื้องหลังคือใคร? ปู้จิงหยุน คราวที่แล้วมีผู้ลอบสังหารมากกว่าสามกลุ่ม เจ้าอย่ามาบอกข้านะว่าเจ้าสืบไม่ได้เลยสักคน” หลานจิ่วชิงพูดอย่างประชดประชันโดยเอามือไขว้ไปข้างหลัง
ปู้จิงหยุนก้มศีรษะด้วยความละอายใจ " ผู้ลอบสังหารตายกันหมดแล้ว เบาะแสหายไป และตัวผู้ลอบสังหารเองไม่มีเบาะแสใดๆ เลย”
“ฉะนั้น เจ้าไม่พบเบาะแสใดๆ เลย และยังทำตัวสบายจิตสบายใจหรือ?” หลานจิ่วชิงเยาะเย้ย “ปู้จิงหยุน ต้องให้ข้าบอกผู้ลอบสังหารหรือไม่ว่า ห้ามพวกเขาฆ่าตัวตาย รอให้เจ้าได้สืบข้อมูลก่อน และบอกกับผู้อยู่เบื้อหลังของพวกมันอีกว่า ให้ทิ้งเบาะแสไว้ที่ผู้ลอบสังหารเล็กน้อย เจ้าจะได้สืบได้อย่างสะดวก? ปู้จิงหยุน นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าสืบหาเบาะแสของผู้ลอบสังหารหรือ?”
ในประโยคสุดท้าย น้ำเสียงของเขาหนักขึ้นทันใด ปู้จิงหยุนและซูเหวินชิงไม่กล้าแม้แต่หายใจเสียงดัง นานมาแล้วที่หลานจิ่วหลิงไม่ได้โกรธเช่นนี้ แม้แต่เรื่องเย่เฉิงที่พวกเขาทำพลาดในคราวก่อน จิ่วชิงก็ไม่ได้โกรธเช่นนี้ . .
หลานจิ่วชิงหลับตาเพื่อสงบความโกรธและความกังวลในใจ แต่ทันทีที่เขาหลับตาลง ภาพของเฟิ่งชิงเฉินที่สีหน้าขาวซีด มีผ้าพันแผลอยู่ที่คอ และนอนอยู่บนเตียงอย่างไร้ชีวิตชีวาก็ปรากฏขึ้น
หลานจิ่วชิงลืมตาทันที และกำมือแน่น จากนั้นก็หันหลังให้ปู้จิงหยุน เขากลัวว่าตนจะทนไม่ไหว แล้วลงโทษปู้จิงหยุนอีก
“จิงหยุน ในเมื่ออยู่เมืองหลวงนี้ เจ้าทำงานกระไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง เช่นนั้นเมื่อฟ้าสว่าง เจ้ากลับไปที่ยอดชุมชนเสีย หากไม่มีคำสั่งจากข้า ห้ามมาเหยียบเมืองหลวง”
“จิ่วชิง เจ้าจริงจังหรือ? แค่ผู้หญิงคนเดียว เจ้าจะไม่สนความสัมพันธ์มิตรภาพของเรา จะทิ้งข้ากลับไปที่ยอดชุมชน?” ปู้จิงหยุนไม่มีเวลาไปทำตัวน่าสงสารแล้ว เขาเร่งยืนขึ้นและมองไปที่หลานจิ่วชิงด้วยความเหลือเชื่อ
เมื่อเผชิญหน้ากับข้อกล่าวหาของปู้จิงหยุน หลานจิ่วชิงไม่ได้แม้แต่จะมองเขา " ปู้จิงหยุน จำสถานะของเจ้าไว้ให้ดี เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะมาสงสัยในคำสั่งของข้า”
สีหน้าของปู้จิงหยุนและซูเหวินชิงเปลี่ยนไปอย่างมาก เขายิ้มอย่างขมขื่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...