ทุกคนในตงหลิงตกอยู่ในอันตราย เมื่อได้ยินคำว่ามือสังหาร สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป องค์ชายหลายคนรวมไปถึง หนานหลิงจิ่นฝาน ซีหลิงเทียนเหล่ยกลายเป็นจุดสนใจ มีทหารองครักษ์ล้อมอยู่นอกจวนทั่วทุกทิศ
คนที่ไม่รู้เรื่องก็นึกว่าทหารเหล่านี้มาปกป้องพวกเขา แต่คนที่รู้ล้วนเข้าใจว่าเป็นการมาคุมมากว่ามาคุ้มกัน องค์จักรพรรดิไม่เชื่อใจพวกเขาหรือไม่ก็กลัวว่าพวกเขาจะฉวยโอกาสสร้างปัญหา
เมืองหลวงเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ลั่วอ๋องผู้ที่หยิ่งยโสมาเสมอก็หดหัวอยู่ในจวนไม่ยอมออกไปไหนง่ายๆ เหล่าคุณชายที่ชอบเที่ยวเล่นร่ำสุราหลับคาอกสาวงามก็เก็บตัวอยู่แต่ในจวนเช่นเดียวกัน โรงน้ำชาและหอสุราล้วนเงียบเชียบเยียบเย็น
“เพื่อเฟิ่งชิงเฉินคนเดียว สังหารขุนนางใหญ่ในราชสำนักไปถึงสองคนและยังกักขังเราไว้ในจวนอีก เสด็จอาทำการใหญ่เสียจริง" ตงหลิงจื่อโจว โจวอ๋องบ่นอย่างขมขื่นอยู่ในจวน คำพูดแบบเดียวกันนี้พวกชิงอ๋องก็ไม่ได้พูดน้อยไปกว่ากัน
เดิมคิดว่าเมื่อกลับมาจากเมืองของตนเองเข้าเมืองหลวงแล้วจะสามารถเป็นอิสระ หาเหล่าขุนนางเป็นพรรคพวก แต่คิดไม่ถึงเลย...
เพราะเฟิ่งชิงเฉินเพียงคนเดียว พวกเขาต้องใช้ชีวิตกันอย่างหัวหดครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่กล้าแสดงความทะเยอทะยานต่อหน้าเสด็จพ่อของพวกเขาแม้เพียงนิดและไม่กล้าเข้าหาขุนนางในราชสำนักและตระกูลขุนนางเลย ตอนนี้ก็เป็นเพราะเฟิ่งชิงเฉินถูกลอบสังหารจึงถูกกักบริเวณอยู่ในจวนโดยแทบไม่มีอิสระเลย สำหรับองค์ชายแล้ว นี่เป็นเรื่องน่าขายหน้าอย่างยิ่ง
ทุกแคว้นไม่มีองค์ชายใดที่น่าสังเวชเหมือนพวกเขาอีกแล้ว เฟิ่งชิงเฉินเป็นเพียงเด็กกำพร้าเท่านั้น แต่นางกลับมีอิทธิพลต่อราชสำนัก
“ท่านอ๋องโปรดระมัดระวังคำพูดด้วย ผู้ที่สั่งให้คุ้มครองเหล่าองค์ชายคือองค์จักรพรรดิและท่านชายตี๋ที่กำลังค้นหาตัวมือสังหาร เสด็จอาเก้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยพ่ะย่ะค่ะ” เสนาธิการผู้ซึ่งอายุเกือบสี่สิบปีสวมเสื้อผ้าสะอาดสะอ้านและมีท่าทางเหมือนบัณฑิตกล่าว
ตงหลิงจื่อโจวยิ้มเยาะ “ใช่ เหตุการณ์ทั้งหมดนี่ไม่เกี่ยวอะไรกับเสด็จอาเก้าเลย เสด็จอาผู้นั้นของข้ายังป่วยอยู่ ป่วยหนักจนไม่สามารถออกจากจวนได้ อดพูดไม่ได้เลยว่าเขาช่างป่วยได้ถูกเวลานัก หากไม่ได้รู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินเกือบตาย ข้าคงสงสัยว่าการลอบสังหารครั้งนี้มีเสด็จอาเก้าเป็นผู้บงการและกำลังเล่นละครตบตาเสียเอง ลุงหลิว ท่านดูสิว่ามีคนโชคร้ายไปกี่คนแล้วเพียงเพราะเฟิ่งชิงเฉินได้รับบาดเจ็บ
ยังไม่ต้องพูดถึงตระกูลซูแห่งหนานหลิงที่เสื่อมเสียชื่อเสียงไปแล้ว มากล่าวถึงจวนเจิ้นกั๋วกงดีกว่า ไม่รู้ว่าสืบทราบได้อย่างไรว่าจวนเจิ้นกั๋วกงเลี้ยงทหารเดนตายจำนวนมากไว้นอกเมืองและยังถูกตี๋ตงหมิงไปพบเข้า โชคของเจิ้นกั๋วกงคงจะดีเกินไปแล้วจริงๆ แค่ออกนอกเมืองไปอย่างบังเอิญก็ไปพบกับทหารเดนตายของเจิ้นกั๋วกงเข้า คราวนี้เจิ้นกั๋วกงถึงคราวเคราะห์แล้วจริงๆ โชคร้ายเสียยิ่งกว่าโชคร้ายเสียอีก"
"ท่านชายตี๋กับเฟิ่งชิงเฉินมีมิตรไมตรีอันดีต่อกันและพวกเขาก็มีความสัมพันธ์อันดีกับเสด็จอาเก้าด้วย" ขุนนางผู้ชายของตงหลิงจื่อโจวกล่าวด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว "คุณหนูใหญ่ของจวนเจิ้นกั๋วกงไม่ถูกกับเฟิ่งชิงเฉินมาโดยตลอด แม้จะไม่มีหลักฐาน จวนเฟิ่งที่ถูกเผาไปนั้น ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าไม่มีทางไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจิ้นกั๋วกง”
แน่นอนว่ามู่เหลียวรู้ว่าตงหลิงจื่อโจวรู้สึกร้อนใจ เขาอยู่ในเมืองหลวงมาหลายเดือน แต่กลับทำอะไรไม่สำเร็จเลยสักอย่าง ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป ดินแดนของเขาอาจไม่สามารถปกป้องเอาไว้ได้ แม้ว่าตงหลิงจื่อโจวจะต้องการต่อสู้เพื่อราชบัลลังก์ แต่ในยามนี้เขายิ่งอยากกลับไปยังเมืองของเขา แต่ด้วยเหตุต่างๆ นานับประการ องค์จักรพรรดิจึงไม่ยอมเห็นด้วยเสียที
สิ่งที่ยากที่สุดก็คือการเดาใจขององค์จักรพรรดิ มู่เหลียวก็ไม่กล้าพูดอะไรไปมากกว่านี้ เพียงแต่เกลี้ยกล่อมให้ตงหลิงจื่อโจวสงบลงหน่อยและเสนอความคิดเล็กๆ ขึ้นว่า “องค์ชายช่างใจร้อนยิ่งนัก มิสู้พรุ่งนี้ท่านไปเยี่ยมเฟิ่งชิงเฉินเสียหน่อยดีหรือไม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...