นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 543

สรุปบท บทที่ 543 เสด็จอาเก้า ท่านช่างร้ายกาจจริงๆเลย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

สรุปเนื้อหา บทที่ 543 เสด็จอาเก้า ท่านช่างร้ายกาจจริงๆเลย – นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

บท บทที่ 543 เสด็จอาเก้า ท่านช่างร้ายกาจจริงๆเลย ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาช้าย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ลอบสังหารเลยหรือ?

เหอะ......เฟิ่งชิงเฉินแสยะยิ้มออกมา เสด็จอาเก้าช่างร้ายกาจจริงๆ เรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ๆ เขากลับสามารถนำมาพูดอย่างน่าสะพรึงกลัวได้ แถมท่าทางก็ยังเอาเรื่องเสียด้วย

เมื่อมีความแข็งแกร่งที่แท้จริงอยู่ในมือ สิ่งใดที่ไม่สมเหตุสมผลก็พลันสมเหตุสมผลได้อย่างง่ายดาย

เฟิ่งชิงเฉินเดินอ้อม "อาวุธสังหาร" ที่ตกอยู่ข้างๆเท้า แล้วไปยืนดูฉากละครแสนสนุกข้างๆเสด็จอาเก้า......

ซูหว่านถูกคนมัดตัวไว้จนไม่อาจแผลงฤทธิ์ แต่ความดุดันของนางก็ยังมีอยู่เช่นเดิม จังหวะที่เฟิ่งชิงเฉินเดินเข้ามา ซูหว่านก็กำลังชักดิ้นชักงอเป็นก้อนบ๊ะจ่างอยู่บนพื้น

จากหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ เพียงเสี้ยววินาทีกลับต้องกลายเป็นนักโทษไปเสียแล้ว เฟิ่งชิงเฉินเกือบจำภาพการวางมาดสูงส่งของบุตรสาวฮูหยินเอกแห่งตระกูลซูไม่ได้แล้ว

"เสด็จอาเก้า ท่านปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ ข้าไม่ได้ลอบสังหารท่าน ข้าก็แค่พลั้งมือเหวี่ยงของเท่านั้นเอง" ซูหว่านพูดไม่ค่อยชัดถ้อยชัดคำ ใบหน้าด้านซ้ายนางแม้จะทายาจนหายบวมไปบ้างแล้ว แต่รอยนิ้ว 4 นิ้วยังคงปรากฏชัด ท่าทางเฟิ่งชิงเฉินคงฟาดหน้านางแรงน่าดูเลย

"นักฆ่าทุกคนล้วนพูดว่าตนเองบริสุทธิ์ คนร้ายทุกคดีมักอ้างว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นล้วนเป็นอุบัติเหตุ คุณหนูซูหว่าน เจ้ากำลังโยกโย้อยู่งั้นหรือ" ในตอนนี้ เสด็จอาเก้ากำลังสอบสวนซูหว่าน และแน่นอนว่าเรื่องราวทั้งหมดต้องมีเฟิ่งชิงเฉินมาเกี่ยวข้อง

"เฟิ่งชิงเฉิน เจ้า เจ้าเป็นคนบงการให้เสด็จอาเก้ามาปรักปรําข้าใช่หรือไม่?" และในตอนนี้ ซูหว่านก็กำลังพุ่งเป้ามาที่เฟิ่งชิงเฉิน น่าเสียดายที่สองมือสองเท้าของนางถูกมัดไว้ นอกจากใช้วิธีกลิ้งไปมาแล้ว นางก็ไม่สามารถทำอย่างอื่นได้อีก

"คุณหนูซูหว่าน นี่ท่านไม่มีสมองหรืออย่างไร? เสด็จอาเก้าคือผู้ใด จะให้ข้าไปบงการได้งั้นหรือ? ส่วนเรื่องปรักปรำจะให้พูดอย่างไรดีล่ะ พยานบุคคลและพยานวัตถุก็มีพร้อม โชคดีที่เสด็จอาเก้าทรงหลบทัน มิฉะนั้นแล้ว ผู้ที่ล้มลงไปกองอยู่บนพื้นในตอนนี้ก็คงต้องเป็นเสด็จอาเก้า" เฟิ่งชิงเฉินกล่าวพลางชี้ไปที่ "อาวุธสังหาร" ที่ตกแตกอยู่บนพื้น

เสด็จอาเก้าอยากจะเป็นลม นี่เขาดูเปราะบางถึงเพียงนั้นเลยหรือ? ต่อให้ซูหว่านเขวี้ยงของมาถูกเขาอย่างจัง แต่แค่กาน้ำชาเพียงใบเดียวมันคงไม่ร้ายแรงถึงขั้นนั้นหรอกกระมัง

"หึ......วาจาเฉียบคมจริงๆนะ ข้าคงเถียงเจ้าไม่ได้หรอก เสด็จอาเก้า ซูหว่านไม่ได้ตั้งใจที่จะสังหารท่าน ขอให้ท่านเห็นแก่ความช่วยเหลือที่ตระกูลซูเคยช่วยท่านก่อนหน้านี้ ลบล้างมลทินให้ซูหว่านด้วยเถิด"

หลังจากอาละวาดอย่างหนักหน่วง ตอนนี้ซูหว่านเริ่มใจเย็นลงบ้างแล้ว นางรู้ดีว่าในสถานการณ์เช่นนี้ โวยวายไปก็คงเปล่าประโยชน์ นางเงยหน้ามองเสด็จอาเก้า และได้รับแววตาอันเยือกเย็นของเขาเป็นสิ่งตอบแทน ทำให้นางต้องรีบหลบตาในทันที

นางไม่เคยคิดเลยว่าเสด็จอาเก้าจะไร้หัวใจถึงเพียงนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็ใส่ใจมากเหลือเกิน โดยที่เสด็จอาเก้ามอบความไร้หัวใจให้กับนาง ส่วนความใส่ใจอันล้นเหลือเขากลับมอบมันให้กับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง

บุตรสาวที่เกิดจากฮูหยินเอกอย่างนาง กลับต้องพ่ายแพ้ให้กับหญิงกำพร้าอย่างเช่นเฟิ่งชิงเฉิน แถมยังพ่ายแพ้อย่างเจ็บปวดแสนสาหัส หยาดน้ำตาใสๆเริ่มไหลออกมาจากดวงตาของซูหว่าน เป็นหยาดน้ำตาที่บ่งบอกถึงความชอกช้ำระกำใจของนาง

"ข้าเข้าใจผิดไป ทหาร ปล่อยตัวคุณหนูซูเดี๋ยวนี้" เมื่อซูหว่านนำเรื่องบุญคุณในอดีตมาต่อรอง เสด็จอาเก้าก็ไม่พูดให้มากความ หนี้บุญคุณต้องชดใช้อยู่แล้ว แต่หลังการชดใช้ครั้งนี้ ซูหว่านจะไม่มีสิทธิ์มาต่อรองกับเสด็จอาเก้าอีกแล้ว

ซูหว่านโล่งอก ดีที่เสด็จอาเก้ามีเหตุมีผล ซูหว่านขยับมือและเท้าที่ปวดเมื่อย แล้วจึงจัดระเบียบเสื้อผ้า "เสด็จอาเก้า ข้าต้องการพบท่านพี่ของข้า"

"พาคุณหนูซูหว่านไปเดี๋ยวนี้" เสด็จอาเก้าตกลงอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าหากซูหว่านลองสังเกตดูสักนิด นางจะพบว่าแววตาของเสด็จอาเก้ากำลังแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็น

น่าเสียดายที่ซูหว่านมัวแต่สนใจเรื่องไปหาเย่เย่ จึงไม่ได้ใส่ใจท่าทีของเสด็จอาเก้า

คนอย่างเสด็จอาเก้าร้ายกาจจะตายไป เฟิ่งชิงเฉินมั่นใจเต็มร้อยว่าซูหว่านต้องได้เจอดีแน่ และหลังจากนั้นไม่นานนัก ก็มีเสียงกรีดร้องของซูหว่านดังขึ้น แล้วตามมาด้วยเสียงตะคอกจากเย่เย่

"อ๊าย......ไม่นะ ไม่ อย่าเข้ามา ท่านพี่ ท่านพี่ช่วยข้าด้วย!"

"ออกไป ไปให้พ้น ท่านพี่ รีบๆมาช่วยข้า......"

"ตงหลิงจิ่ว เจ้าคนชั่ว เจ้าทำอะไรน้องข้า ข้าขอบอกไว้ก่อนนะ เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่"

"ตงหลิงจิ่ว เจ้าปล่อยพวกเราออกไปเดี๋ยวนี้นะ มิเช่นนั้นเจ้าจะต้องเสียใจ"

"ทำไมล่ะ? เจ้ากลัวเรื่องวุ่นวายงั้นหรือ?" เฟิ่งชิงเฉินคงพอเข้าใจว่าเขายังไม่อยากฉีกหน้าฮ่องเต้ในตอนนี้

"ข้าไม่กลัวเรื่องวุ่นวาย ข้าก็แค่ไม่ชอบเรื่องวุ่นวาย คนอย่างข้ายิ่งดึงดูดเรื่องวุ่นวายเก่งเสียด้วยสิ" เฟิ่งชิงเฉินแอบหัวเราะเล็กน้อย

เรื่องนี้เสด็จอาเก้าไม่เห็นด้วย "เจ้าไม่ได้ดึงดูดเรื่องวุ่นวายเก่งหรอก เจ้าก็แค่หลบหลีกเรื่องวุ่นวายไม่เป็น มา ข้าจะพาเจ้าไปดูว่าข้าจะแก้ไขเรื่องนี้ได้อย่างไร"

เสด็จอาเก้าจูงมือเฟิ่งชิงเฉินเดินไปโดยไม่สนสายตาของเหล่าองครักษ์

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอเพียงจับมือกันให้มั่นก็พอแล้ว

นี่คือชีวิตของเขาและเฟิ่งชิงเฉิน

ข่าวคราวจากโรงเลี้ยงสัตว์หลวงยังไม่มาเสียที ทำให้ฮองเฮากระวนกระวายยิ่งนัก พระอาทิตย์ก็กำลังจะตกดิน คนที่นางส่งไปสืบข่าวทำไมยังไม่กลับมาอีก ฮองเฮาได้แต่เดินไปเดินมาในตำหนัก เผื่อว่าจะช่วยให้นางคลายความวิตกลงได้บ้าง แต่กลับกลายเป็นว่า ยิ่งนางเดินไปมามากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้นางฟุ้งซ่านขึ้นเรื่อยๆ

"มามา ท่านคิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้นที่โรงเลี้ยงสัตว์หลวงหรือเปล่า ทำไมจะหมดวันแล้วถึงยังไม่ได้ข่าวอะไรเลย ก่อนหน้านี้ได้ยินว่ามีหมอหลวงตื่นตกใจไม่ใช่หรือ? ทำไมไม่เห็นสำนักหมอหลวงมีใครออกมาเลย"

"ฮองเฮา อย่าทรงวิตกไปเลยนะเพคะ มีลั่วอ๋องอยู่ทั้งองค์ ไม่มีอะไรหรอกเพคะ และการที่มีหมอหลวงตื่นตกใจ นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเราสำเร็จนะเพคะ" มามาวัยชราก็ไม่สบายใจ นางแอบตำหนิฮองเฮาอยู่ในใจ ไยฮองเฮาจึงได้หูเบานัก ฟังซูหว่านพูดเพียงไม่กี่คำก็ยอมร่วมมือกับซูหว่านเสียแล้ว ไม่ลองคิดเลยว่าหากมีคนมารู้เข้าจะมีผลต่ออนาคตของลั่วอ๋อง แต่ไหนๆเรื่องราวก็มาถึงขั้นนี้แล้ว นางพูดมากก็ไม่มีประโยชน์ จึงได้แต่ปลอบประโลมฮองเฮา

ฮองเฮาพยักหน้า "ท่านพูดถูก แต่นี่มันก็นานเกินไป ไม่มีข่าวมาเลย ข้าก็อดร้อนใจไม่ได้ ลั่วอ๋องลูกข้าก็จริงๆเลย ก่อนหน้านี้เป็นเหยาหวา ตอนนี้ดันมาเป็นเฟิ่งชิงเฉิน ทำไมต้องมาไร้หัวคิดเรื่องผู้หญิงด้วยนะ"

"ฮองเฮาวางพระทัยเถิดเพคะ ลั่วอ๋องทรงมองการณ์อย่างรอบคอบ ถึงแม้เฟิ่งชิงเฉินจะไม่ดี แต่ก็มีหวังจิ่นหลิงและแม่ทัพอวี่เหวินคอยหนุนหลัง หากแม่นางเฟิ่งยอมช่วยลั่วอ๋อง ก็จะเป็นแรงเสริมชั้นดีเลยนะเพคะ ตระกูลหวังมีอำนาจ ส่วนแม่ทัพอวี่เหวินก็มีกำลังทหาร หากได้รับการช่วยเหลือจากสองคนนี้แล้ว ท่านอ๋องของเราก็จะยิ่งได้เปรียบ" มามากล่าวพลางนึกถึงตงหลิงจื่อลั่ว

เฟิ่งชิงเฉิน ผู้หญิงที่เสด็จอาเก้าสนอกสนใจนัก นางไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าเหตุใดฮองเฮาถึงได้เกลียดเฟิ่งชิงเฉินนัก แถมยังเกลียดจนยอมร่วมมือกับคนนอก......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ