นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 548

ใช้ประโยชน์จากเรื่องโรงเลี้ยงสัตว์หลวง เพื่อกักซีหลิงเทียนเหล่ยและซีหลิงจื่อลั่วเอาไว้หนึ่งวัน มันเพียงพอมากแล้ว เมื่อซีหลิงเทียนเหล่ยและตงหลิงจื่อลั่วออกไป ทุกอย่างก็จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

องค์ชายรองแห่งวีหลิงจะปรากฏตัวอย่างสมบูรณ์ที่ชายแดนระหว่างซีหลิงและตงหลิง เขาจะปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนอย่างเปิดเผยในนามของคนที่คุ้มกันองค์หญิงเหยาหวามาที่ตงหลิงเพื่อแต่งงาน

ในทำนองเดียวกันเรื่องของพ่อและพี่ชายของฮองเฮา งานว่าราชกิจยามเช้านี้ก็จะได้ข้อสรุปเช่นกัน นอกเสียจากว่าจะกบฏ มิเช่นนั้นจะไม่มีทางเปลี่ยนชะตากรรมของการล่มสลายของตระกูลฮองเฮา เรื่องอื่นไม่ว่า พ่อและพี่ชายของฮองเฮาถูกสังหารเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว

เย่เย่มีค่าแค่นี้ และเสด็จอาเก้าหมดความอดทนที่จะพูดกับเย่เย่เด็กนิสัยเสียแล้ว " ท่านเย่ เมื่อวานนี้คนของโรงเลี้ยงสัตว์หลวงไม่กล่าวกระไรออกมาเลย แต่คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ตายไปแล้วทั้งหมด”

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือไม่มีหลักฐานเพราะพวกเขาตายแล้ว เสด็จอาเก้ายุ่งทั้งคืน แต่กลับไม่พบข้อมูลใดๆ

เย่เย่อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะอย่างได้ใจ โดยไม่สนใจร่างกายที่อ่อนแอของตน เขาหัวเราะจนหายใจไม่ออก “ไม่กล่าวกระไรเลย ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าคิดว่าเจ้ามีความสามารถเสียอีก เจ้ากักขังพวกเขา ปิดลานและสืบข้อมูล แต่สุดท้ายเจ้ากลับไม่พบข้อมูลใดๆ เสด็จอาเก้าเจ้าทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ แล้วข้าจะดูว่าเจ้าจะจบเรื่องนี้อย่างไร”

เย่ เย่สนใจแต่ดีใจ แต่ไม่ได้สังเกตว่าเมื่อเสด็จอาเก้าพูดเช่นนี้ เขาไม่ได้มีความกังวลหรือวิตกเลยแม้แต่น้อย

“ขอบใจท่านเย่ที่เป็นห่วง ในเมื่อข้ากล้าทำ เช่นนั้นข้าก็มีความสามารถในการจบเรื่องนี้ อย่างน้อยก็ไม่เป็นเหมือนท่านเย่ที่ทำร้ายคนอื่นทำร้ายตัวเอง” เสด็จอาเก้าไม่ได้ตั้งใจที่จะเยาะเย้ย เพียงแต่พูดความจริงออกมา แต่แบบนี้ทำร้ายจิตใจกันยิ่งกว่า

หากใครไม่รู้จริง คงคิดว่าเสด็จอาเก้ากำลังพยายามอดทน แต่เฟิ่งชิงเฉินรู้ดีว่า เสด็จอาเก้านั้นคุมทุกอย่างไว้ในมือ ชายคนนี้ไม่มีทางปล่อยโอกาสไปง่ายๆอย่างแน่นอน เขาถนัดในการใช้เรื่องกะทันหัน มาจู่โจมอีกฝ่ายโดยไม่ทันตั้งตัว

“หึ ข้าจะเป็นอย่างไร เสด็จอาเก้ามิต้องเป็นห่วง เจ้าเป็นห่วงตนเองเสียดีกว่า ใครให้สิทธิ์เจ้าในการกักขังเรา ตงหลิงจิ่ว ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะเผชิญหน้าต่อเย่เฉิง ตระกูลซูและซีหลิงอย่างไร

ใบหน้าของเย่เย่แดงก่ำ เมื่อวานไข้ลดลงไป ตอนนี้อาจจะไข้ขึ้นอีกแล้ว อีกทั้งเขาอารมณ์ขึ้นลงอย่างแรง ตอนนี้เย่เย่พยายามอดทนอยู่

เฟิ่งชิงหลิงนั่งข้างเสด็จอาเก้า เขามองเย่เย่ด้วยความเห็นอกเห็นใจ เขาไข้ขึ้นสูง ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง พิษงูกำเริบ และยังต้องเป็นแพะรับโทษแทนคนอื่น น่าสงสารเสียจริงเย่เย่

“เผชิญหน้า? ข้าจะต้องให้คำอธิบายอะไรแก่พวกเจ้า? พวกเจ้าต่างหากที่ต้องให้คำอธิบายแก่ข้า ท่านเย่ ข้ามิได้กักขังเจ้าโดยไม่มีเหตุผล เจ้าและองค์รัชทายาทเหล่ยร่วมใจกันนำงูหลามตัวนั้นปล่อยเข้ามา โดยติดสินบนยามของโรงเลี้ยงสัตว์หลวงสวน เดิมพวกเจ้าอยากจะทำให้เฟิ่งชิงเฉินตกใจ แต่กลับทำพลาด ทำให้ซูหว่านได้รับบาดเจ็บ ข้าพูดถูกใช่หรือไม่?”

เสด็จอาเก้าเอ่ยเรื่องนี้ มิได้ถามความคิดเห็นของเย่เย่ หากไม่ได้มั่นใจเต็มร้อย เสด็จอาเก้าจะพูดอย่างนี้ได้อย่างไร แต่เย่เย่ดันฟังไม่เข้าใจ จึงพูดประชดประชันทันทีเมื่อได้ยินว่า " เสด็จอาเก้าเจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือ? คำพูดเช่นนี้ไม่มีใครเชื่อหรอก จะกล่าวหาว่าข้าและองค์รัชทายาทร่วมมือกัน แล้วไหนหรือหลักฐาน”

“ข้ามิต้องใช้หลักฐาน ขอเพียงแค่ท่านเย่ยอมรับเองก็เพียงพอแล้ว” เสด็จอาเก้าโบกมือ “ทหาร นำคำสารภาพของท่านเย่ขึ้นมา ให้ท่านเย่ประทับตรา”

“เสด็จอาเก้า เจ้ากำลังหาวิธีรับมือโดยไร้เหตุไร้ผล ข้าจะยอมรับเรื่องไร้สาระเช่นนี้ได้อย่างไร เจ้าคิดว่าการบังคับให้ข้าปั๊มลายนิ้วมือแล้วจะได้ผลหรือ? ข้าออกไปก็สามารถเปลี่ยนคำพูดได้ ว่าเจ้าขู่เข็นข้าด้วยชีวิต ข้าจึงยอมประทับตรา

ใบหน้าของเย่เย่เต็มไปด้วยความไม่สบอารมณ์ "เสด็จอาเก้าผู้ซึ่งได้รับการยกย่องจากทุกคน ไม่คาดคิดว่าจะมีความสามารถเพียงเท่านี้ น่าผิดหวังอย่างยิ่ง

เสด็จอาเก้าไม่โกรธเคือง เมื่อทหารวางคำรับสารภาพลงและถอยลงไป เสด็จอาเก้าจึงกล่าวว่า “ท่านเย่ไม่ต้องกังวล แม้ว่าออกจากโรงเลี้ยงสัตว์ไปแล้ว เจ้าก็จะยังคงบอกว่างูหลามยักษ์นั้นเจ้าและองค์รัชทายาทเป็นคนนำมาปล่อยอยู่ดี "

“หึ เพ้อเจ้อ ไม่มีทางที่ข้าจะพูดเช่นนี้” เย่เย่ไม่ได้โต้เถียงกับเสด็จอาเก้า ตอนนี้เขาเพียงแค่อยากจะออกจากโรงเลี้ยงสัตว์หลวงไป หากออกจากที่นี่ไปได้ เรื่องทุกอย่างก็จะจัดการได้ง่ายขึ้น เขารับเอาคำสารภาพมา หลังจากกวาดมองแล้ว เย่เย่ประทับตราลงอย่างรวดเร็ว

“ต้องการให้ข้าลงลายมือใช่หรือไม่? ได้ ข้าทำให้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ