บทที่ 566 เจตนาร้าย ไม่มีผู้ใดง่ายดายเลยสักคน – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ตอนนี้ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 566 เจตนาร้าย ไม่มีผู้ใดง่ายดายเลยสักคน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ซูหว่านรู้?
หมายความว่าอันใดกัน? หรือ ซูหว่านไปทำสิ่งใดเอาไว้?
ผู้คนทั้งหลายจึงพากันหันมามองทางซูหว่านไปในทันที ซูหว่านที่พยายามยืนตัวตรงเพื่อรักษาท่าทีที่สงบสุขของตนเองเอาไว้ ในยามนี้ นางหาได้มีท่าทีร่าเริงเหมือนเช่นเคยแล้ว รูปหน้าพลันซีดเผือดไร้เลือด แววตาพลันเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
หลังจากที่ทุกคนลอบคิดพิจารณาอยู่นาน ซูหว่านก็ค่อย ๆ หลับตาลง เพื่อปกปิดแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของตนเองเอาไว้ พร้อมกับพูดออกมาเสียงดังว่า"เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าอย่าได้มาพูดจาว่าร้ายผู้อื่นเช่นนี้ อะไรคือการที่บอกว่าข้ารู้เรื่องกัน ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าทำสิ่งใด เจ้าช่วยว่าร้ายใส่ข้าให้มันน้อย ๆ หน่อยได้หรือไม่"
"ข้ากล่าวว่าร้ายเจ้า ? คุณหนูซูหว่านท่านทำอะไรลงไป ท่านรู้แก่ใจเป็นอย่างดี หากว่าการเป็นมนุษย์แล้วต้องเกิดมาเป็นมนุษย์เช่นเจ้า ข้าละละอายกับคำว่า"คน"คำนี้จริง ๆ " เฟิ่งชิงเฉินพูดพร้อมกับจับจ้องการกระทำของซูหว่านไปด้วย
น่าขัน นางไม่อาจทำร้ายตนเองเพื่อเปิดโปงแผนการของซูหว่านได้ เข็มเงินเล่มนี้ของซูหว่าน นางยังไม่รู้ว่าซูหว่านเองมีแผนการจะทำเช่นไร หากว่ามันมียาพิษละก็ นางคงถึงคราวซวยเป็นแน่
ซูหว่านร่ำไห้ออกมาด้วยท่าทางที่ดูน่าสงสารยิ่งนัก พร้อมกับหลบเข้าไปในอ้อมกอดของท่านเจ้าเมืองเย่เฉิง "ท่านลุง เฟิ่งชิงเฉินรังแกผู้คนเกินไปแล้ว ข้าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้วเจ้าค่ะ"
ด้วยการสะบัดมือเพียงแค่ครั้งเดียว เข็มเงินก็พลันพุ่งเข้าไปหาท่านเจ้าเมืองเย่เฉิงในทันที
ฉลาดยิ่งนัก แต่น่าเสียดายที่นางลืมไปว่า ยังมีเฟิ่งชิงเฉินที่จับจ้องการกระทำของนางอยู่ ยามที่เข็มเงินออกจากมือของนางไปนั้น หัวใจของซูหว่านพลันเต้นรัวไปในทันที ขอเพียงแค่เฟิ่งชิงเฉินหาเข็มจากบนตัวของนางไม่เจอ เฟิ่งชิงเฉินย่อมต้องรับคราวเคราะห์ของตนเองอย่างแน่นอน
หากทำลายหน้าตาของตนเองแล้ว มิทำลายหน้าตาของเฟิ่งชิงเฉิน อย่าเรียกนางว่าคนตระกูลซูเลย
ทว่า
จู่ ๆ เฟิ่งชิงเฉินก็ตะโกนขึ้นมาว่า "อ๊าย มีงู"
"งู?งูอยู่ที่ใดกัน?" ทั่วร่างของซูหว่านพลันแข็งทื่อ มือไม้พลันสั่นเทาไม่มีหยุด
งู หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่โรงเลี้ยงสัตว์หลวงมานั้น ไม่เพียงแต่ซูหว่านที่หวาดกลัวงู รวมไปถึงสิ่งของที่มีรูปร่างคล้ายกับงูอีกด้วย แม้แต่เสื้อผ้าอาภรณ์ของนางในยามนี้ ก็มิจำเป็นต้องมีเข็มขัดอีกต่อไป
และในช่วงเวลานี้
เฟิ่งชิงเฉินพลันก้าวเดินไปด้านหน้า เพื่อคว้าข้อมือของซูหว่านเอาไว้ พร้อมกับจับเข็มที่อยู่ในมือของซูหว่านอย่างพอดิบพอดี "คุณหนูซูหว่าน งูอยู่ที่นี่"
"เข็มเงิน? ในมือของซูหว่านมีเข็มเงินจริง ๆ หรือ?" หยุนเซียวที่พอจะเดาเรื่องเดาราวได้ เขามองออกตั้งแต่แรกแล้วว่าซูหว่านมีท่าทีที่ผิดปกติไปมาก ในยามนี้จึงแสร้งทำเป็นตกอกตกใจร่วมด้วยอย่างหน้าไม่อาย
เข็มเงินมักจะนำใช้มาตรวจหาสารพิษ ดังนั้น หากซูหว่านมิได้ต้องการทำร้ายเย่เย่ เช่นนั้น การกระทำของเฟิ่งชิงเฉินในยามนี้ย่อมดูเป็นการสร้างเรื่องขึ้นมาแทน
"เป็นเข็มเงินจริง ๆ ด้วย ซูหว่าน เจ้ามาที่นี่ นำเข็มเงินมาด้วยทำไมกัน? มิรู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินกำลังช่วยรักษาท่านเจ้าเมืองเย่เฉิงงั้นหรือ? การนำเข็มเงินติดตัวมาด้วยเช่นนี้ ย่อมทำให้ผู้คนเข้าใจผิดไปได้อยู่แล้ว" ตงหลิงจื่อลั่ว พลันรีบร้อนเข้ามาอธิบายแทนเฟิ่งชิงเฉินในทันที การกระทำเช่นนี้ ย่อมเป็นการชี้โพลงกลาย ๆ ว่า ซูหว่านเป็นคนทำผิด หรืออย่างมากก็เป็นเพราะเฟิ่งชิงเฉินมองผิดไปเอง
"เฟิ่งชิงเฉินเจ้าเก่งกาจยิ่งนัก เข็มเงินเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในด้ายเช่นนี้ หากมิใช่ว่าเป็นเจ้าที่มองเห็นละก็ มิรู้ว่าซูหว่านจะทำเช่นไรลงไปบ้าง" ยังเป็นตี๋ตงหมิงที่น่ารัก ตี๋ตงหมิงพลันชี้นิ้วไปที่เย่เย่ เพื่อเตือนสติท่านเจ้าเมืองเย่เฉิง หากจะให้พูดว่าซูหว่านต้องการจะทำร้ายเฟิ่งชิงเฉิน ไม่สู้ พูดว่าซูหว่านต้องการทำร้ายเย่เย่จะดีกว่าหรือ
พกเข็มเงินมาด้วย ย่อมต้องมีเจตนาไม่ดี
"หว่านหว่าน เรื่องนี้หมายความอย่างไรกัน" เจ้าเมืองเย่เฉิงพลันปล่อยมือของซูหว่านลงในทันที แววตาของเขาราวกับดูสับสนไปเล็กน้อย พร้อมทั้งภายในใจที่รู้สึกหวาดระแวง
องค์รัชทายาทเห็นเช่นนั้น ก็ได้แต่ยิ้มออกมาโดยมิได้พูดสื่งใด ความรู้สึกภายในใจเมื่อครู่ ก็ค่อย ๆ เลือนหาย ในเมื่อมีเข็มเงินอยู่ด้วยเช่นนี้ ใบหน้าของซูหว่านย่อมแตกยับเยินไปในทันที โดยที่เฟิ่งชิงเฉินมิได้ทำผิดเลยแม้แต่น้อย
นี่กล่าวได้ว่าเป็นคำขู่ ดวงตาของท่านเจ้าเมืองเย่เฉิงพลันเบิกตาโพลงไปในทันที พร้อมทั้ง ค่อย ๆ กลับมาสงบดังเดิม
เขามิเชื่อว่าเฟิ่งชิงเฉินจะมีราคาถึงเพียงนั้น เพียงเพื่อเฟิ่งชิงเฉินแล้ว ทั้งตระกูลหยุนและตระกูลชุยจะกล้าลงมือต่อเขา ตระกูลหยุนหาได้มีเพียงหยุนเซียวไม่ อีกทั้งตระกูลชุยก็หาได้มีเพียงแค่คุณชายสิบหกเช่นเดียวกัน แม้จะเป็นคนที่มีค่ามากเพียงใด หากจะถึงคราวตายก็ต้องตาย หากว่าเย่เย่จะต้องมาตกตายไปนั้น เขาจะทำให้ตงหลิงต้องชดใช้ให้ได้ หาใช่การส่งกองกำลังมาโจมตีตงหลิงไม่
การมีชีวิตอยู่ ย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
"ดูเหมือนว่า ท่านเจ้าเมืองเย่เฉิงจะไม่เชื่อในคำพูดของข้า เช่นนั้น ท่านเจ้าเมืองเย่เฉิงจะลองดูก็ได้ ข้า หยุนเซียวพูดออกในวันนี้ หากแม้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฟิ่งชิงเฉินขึ้นมา เมืองเย่เฉิงจะหายไปจากหน้าแผนที่ทั่วแดนทั้งเก้าในทันที"
คำพูดของหยุนเซียวหาได้เป็นคำพูดที่ดูทระนงตัวไม่ แม้ว่าตระกูลหยุนไม่อาจทำได้ แต่เมืองหยุนเฉิงทำได้ รวมไปถึงเสด็จอาเก้าของตงหลิงอีกด้วย การจะทำลายเมืองเย่เฉิง หาใช่เรื่องยากไม่ หากเย่เฉิงล่มสลายไปแล้ว ผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด ย่อมหนีไม่พ้นเมืองหยุนเฉิง
หยุนเซียว บุตรชายคนโตของตระกูลหยุน ไม่ว่าเขาจะทำสิ่งใด เขาย่อมต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ต่อตระกูลของตนมาเป็นอันดับแรก
เมื่อพูดขึ้นมาเช่นนี้ แม้ว่าท่านเจ้าเมืองเย่เฉิงจะไม่อยากถอยก็ต้องได้ถอย เขามิกล้าท้าชน จึงได้แต่สะบัดมือเพื่อส่งสัญญาณให้องครักษ์ของตนถอยทัพ
"เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าไสหัวไปเสีย อย่าได้มาให้ข้าเห็นหน้า แม้ว่าเจ้าจะเป็นคนช่วยเย่เย่เอาไว้ แต่เจ้าก็ควรรู้ไว้ว่า มันสิ่งที่เจ้าสมควรทำ เย่เย่ต้องมาเป็นเช่นนี้ก็เพราะเจ้า หากเย่เย่ต้องตายไป เจ้าก็ไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เช่นกัน อย่าได้ริอ่านมาคิดว่าเย่เฉิงจะนับเจ้าเป็นหนึ่งในผู้มีพระคุณเชียว"
ทุกคนล้วนแต่เป็นที่เฉลียวฉลาด มีบางเรื่องที่มิจำเป็นต้องพูดออกมา ภายในใจก็รับรู้ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะเป็นคนที่ซื่อตรง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเรียบง่าย แต่นางหาใช่สตรีโง่เง่าไม่ สิ่งที่นางจะไม่ทำเลย ก็คือสิ่งที่ไร้ความเป็นคุณธรรม
นั่นเป็นเหตุผลว่า เพราะเหตุใดท่านเจ้าเมืองที่มาขอร้องให้เฟิ่งชิงเฉินช่วยเย่เย่ถึงหน้าประตูจวนเช่นนั้น เย่เย่ เฟิ่งชิงเฉินสามารถช่วยได้นางก็จะช่วย แม้ว่านางไม่อาจช่วยได้นางก็ต้องได้ช่วยเหลือเขาเช่นกัน
หากมีคนตายนับว่าเป็นเรื่องใหญ่ หากเย่เย่มาตายที่ตงหลิงละก็ แม้นว่าความผิดทั้งหมดจะเป็นของเย่เย่ แต่ตงหลิงเองก็ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกัน พวกเขาต้องมีคำอธิบายแก่เมืองเย่เฉิงให้ได้ ทว่า ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการให้คำอธิบาย ก็คือการผลักเฟิ่งชิงเฉินออกมาแทน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...