นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 567

สรุปบท บทที่ 567 ไม่มีพิษ ซูหว่านงอแง: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอน บทที่ 567 ไม่มีพิษ ซูหว่านงอแง จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 567 ไม่มีพิษ ซูหว่านงอแง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย อาช้าย เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

นี่มันเรื่องอะไรกัน!

หยุนเซียวสอดมือเข้ามายุ่งเสียจน เรื่องราวยุ่งวุ่นวายไปหมดแล้ว

เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกปวดหัวยิ่งนัก ตี๋ตงหมิงปกป้องนางนั้น นางยังพอเข้าใจได้ ทว่า หยุนเซียวทำเช่นนี้หมายความว่าเช่นไรกัน?

เฟิ่งชิงเฉินพลันหันไปมองหยุนเซียวเป็นตาเดียว พร้อมกับจ้องไปที่เขาด้วยท่าทีแน่วแน่ เพื่อสอดส่องท่าทางของเขา นางหาได้รู้สึกอันใดไม่ เพียงแค่จดจำท่าทางของหยุนเซียวเอาไว้ในใจ เพื่อนำกลับไปถามเสด็จอาเก้าว่า เมืองเย่เฉิงมีสิ่งใดหรือไม่ เหตุใดถึงดึงดูดหยุนเซียวได้

ในโลกใบนี้ หากจะมีผู้ใดทำลายเมืองเย่เฉิงเพื่อเฟิ่งชิงเฉินได้ อีกทั้งยังไม่มีการคิดคำนึงถึงผลได้ผลเสียละก็ คงมีแต่หวังจิ่นหลิงกระมัง

หาได้เป็นเพราะนางมองโลกนี้ในแง่ร้ายไม่ มิได้เป็นเพราะนางไม่เชื่อใจในเสด็จอาเก้า นางเชื่อว่า หานางได้ตายลงไปจริง ๆ เสด็จอาเก้าย่อมต้องทำลายเมืองเย่เฉิงเพื่อนางเป็นแน่ ทว่า เสด็จอาเก้าก็จะใช้โอกาสนี้ ในการฉกฉวยผลประโยชน์บางอย่างออกมาเช่นกัน

สำหรับหลานจิ่วหวังแล้ว พวกเขาถือได้ว่าเป็นเพื่อนเป็นเพื่อนตาย ทว่า ความสัมพันธ์ก็ไม่อาจลึกซึ้งได้จนถึงขนาดที่จะ ลงมือเพื่อนางโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดได้เช่นกัน

"ชิงเฉิน ไปกันเถอะ" องค์รัชทายาทที่เห็นเฟิ่งชิงเฉินยืนจ้องหยุนเซียวอยู่นานนั้น ก็พลันเข้าใจว่า เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกสั่นไหวกับหยุนเซียว จึงรีบร้อนเปิดปาก เตือนสติให้นางออกไปจากที่นี่จะดีกว่า

แววตาของซูหว่านพลันเปล่งประกายออกมา นางได้แต่สวดมนตร์อ้อนวอนอย่างเงียบ ๆ เพื่อให้เฟิ่งชิงเฉินออกไปจากที่นี่เสียที พร้อมกับเก็บเสียงร้องสะอึกสะอื้นของนางให้เงียบที่สุด ด้วยท่าทางราวกับเป็นผู้ถูกกระทำเช่นนั้น กลับทำให้ผู้คนที่ได้พบเห็นรู้สึกใจอ่อนได้ไม่ยาก

"ข้าย่อมต้องออกไปแน่ แต่ทว่าก่อนไป ข้ายังมีเรื่องที่ต้องบอกเล่าให้กระจ่างแจ้งเสียก่อน ข้าเชื่อว่าตนเองหาใช่คนดีไม่ อีกทั้งการมาช่วยรักษาเย่เย่หาได้ไร้ผลประโยชน์อีกเช่นกัน แต่อย่างน้อย ข้าก็มีมโนธรรมในจิตใจของข้า "เป็นเพราะหยุนเซียวสอดมือเข้ามายุ่งเช่นนี้ เรื่องราวจึงไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป เฟิ่งชิงเฉินจึงตัดสินใจตัดปัญหาทุกอย่าง สายตาพลันหันไปมองทั้งซูหว่านและเจ้าเมืองเย่เฉิง เมื่อเห็นซุนซือสิงใกล้จะจัดการธุระเสร็จแล้ว อีกทั้งกำลังจะเก็บของใส่กล่องยาอีก เฟิ่งชิงเฉินจึงรีบเอ่ยปากเรียกเขาในทันที "ซือสิง มานี่"

"ท่านอาจารย์" ซุนซือสิงพลันรีบหยุดงานในมือของตนเองลงไปในทันที พร้อมกับรีบร้อนก้าวเท้ายาว ๆ เข้ามา

"ดูเสียว่า เข็มเงินเล่มนี้มีปัญหาอันใดหรือไม่ เจ้าระมัดระวังด้วย อย่าได้ทำให้เข็มทิ่มมือตนเองเชียว" เฟิ่งชิงเฉินไม่เชื่อว่า มันจะเป็นเพียงเข็มธรรมดาเล่มเดียว

เป็นไปไม่ได้ เฟิ่งชิงเฉินจะรู้ถึงปัญหาของเข็มเล่มนี้ได้อย่างไรกัน แววตาของซูหว่านพลันสั่นไหว พร้อมกับหัวใจที่เต้นรัว ขาทั้งสองข้างค่อย ๆ ไร้เรี่ยวแรงลง เมื่อพยายามควบคุมสติอารมณ์ของตนเองได้แล้ว ก็หาได้สนใจใบหน้าของตนเองที่รู้สึกปวดไม่ พร้อมทั้งพูดกับเฟิ่งชิงเฉินด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยว "เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าจะหาข้ออ้างเพื่อมาใส่ร้ายผู้บริสุทธิ์เช่นนี้ไม่ได้ เข็มเงินนี้นำมาใช้เพื่อตรวจสอบพิษเท่านั้น เข็มเงินของข้าจะไปมีปัญหาอื่นอันใดได้ หากเกิดปัญหาอันใดขึ้นมา มันย่อมต้องเปลี่ยนเป็นสีดำไปแล้ว"

"เข็มเงินนำมาทดสอบพิษนับว่าไม่ผิดนัก แต่มันมิได้หมายความว่า พิษแต่ละชนิดจะสามารถตรวจสอบได้หมด มีพิษบางชนิดที่ไม่อาจใช้เข็มเงินตรวจสอบได้เช่นกัน นั้นจะทำให้ผู้คนถึงคราวตายได้" ตรงข้ามกับซูหว่านที่กำลังตกอยู่ในความเกรี้ยวโกรธนั้น เฟิ่งชิงเฉินกลับนิ่งสงบยิ่งนัก

"คำพูดของเจ้าทำให้ผู้อื่นน่าตกใจเสียจริง จะมีพิษชนิดใดที่ไม่อาจใช้เข็มเงินตรวจสอบได้กัน" เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ คนผู้นั้นบอกกับนางว่า ไม่อาจหาหลักฐานใดออกมาได้ไม่ใช่หรือ เฟิ่งชิงเฉินจะรู้เรื่องได้อย่างไร นางต้องโกหกข้าแน่ ๆ ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น ฝ่ามือทั้งสองของซูหว่านพลันกุมมือเอาไว้แน่น พร้อมกับสายตาที่รุกริกไปมา หาได้มีท่าทีกล้าเผชิญหน้าต่อเฟิ่งชิงเฉินเช่นคราวก่อนไม่

นั่นคือท่าทีของคนร้อนตัว!

"เข็มพิษของคุณหนูซูหว่าน เข็มเงินย่อมไม่อาจตรวจสอบได้" เข็มเงินของซูหว่านมีปัญหาแล้ว ทว่า มันเป็นปัญหาเช่นไร มีแต่ต้องรอให้ซุนซือสิงตรวจหาสาเหตุจนพบเสียก่อน

ในขณะเดียวกัน ซุนซือสิงก็หาปัญหาของเข็มเงินพบในทันที

"ท่านอาจารย์บนเข็มมีอะไรบางอย่างอยู่" ซุนซือสิงค่อย ๆ ใช้ผ้าขาวห่อเข็มเงินเอาไว้ พร้อมกับเช็ดมันเบา ๆ จู่ ๆ ก็พลันมีร่องรอยอะไรบางอย่างปรากฏตัวขึ้นมาบนผ้าขาว

"เจ้ามองออกหรือไม่ ว่ามันคือสิ่งใด" เมื่อฟังจากน้ำเสียงของเฟิ่งชิงเฉินแล้ว ทุกคนจึงรู้ได้ว่า เฟิ่งชิงเฉินกำลังถามเพื่อทดสอบซุนซือสิงอยู่ เป็นอย่างที่นางเคยพูดไปก่อนหน้านั้น นี่ถือเป็นโอกาสในการฝึกปรือฝีมือของซุนซือสิง

แท้จริงแล้ว เฟิ่งชิงเฉินมิได้รู้เรื่องเลย

ด้วยระยะเวลาในการเรียนที่ผ่านมา เฟิ่งชิงเฉินพอจะเข้าใจในทักษะของแพทย์แผนจีนขึ้นมาแล้วในระดับหนึ่ง ทั้งยังเชี่ยวชาญในการใช้งานยิ่งนัก ทว่า ความรู้ทางด้านเภสัชที่มีอย่างจำกัดของนาง สิ่งของที่อยู่บนเข็มเงินนั้น หากนางมองออก นางคงรับรู้ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเข็มเงินของซูหว่านแล้ว

ซุนซือสิงพลันส่งมอบเข็มเงินคืนให้กับเฟิ่งชิงเฉิน พร้อมกับหยิบเครื่องมือออกมาจากกล่องยาของเฟิ่งชิงเฉิน แล้วจึงกล่าวยืนยันกับเฟิ่งชิงเฉินว่า "ท่านอาจารย์ สิ่งของที่อยู่บนนี้ เป็นยาชนิดหนึ่งเท่านั้น หาใช่ยาพิษไม่"

"ไม่ใช่ยาพิษ" เพียงแค่สามคำนี้ นับว่าเป็นข่าวดีต่อซูหว่านยิ่งนัก แววตาของนางพลันแปล่งประกายขึ้นมา น้ำเสียงสะอึกสะอื้นเมื่อครู่หายไปเป็นปลิดทิ้ง ยังมิทันที่ซุนซือสิงจะพูดจบ ซูหว่านก็รีบร้อนพูดตัดบทในทันที พร้อมกับกล่าวออกมาอย่างมีชัยว่า "เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าได้ยินหรือไม่ เข็มเงินไม่มีพิษ ข้าจะไปทำร้ายท่านพี่ได้อย่างไร ข้าที่ชื่นชอบท่านพี่ถึงเพียงนั้น จะทำร้ายเขาได้อย่างไร เฟิ่งชิงเฉิน จิตใจเจ้ามันชั่วร้ายยิ่งนัก เป็นผู้ใดกันแน่ที่มีเจตนาร้าย?"

ทุกคนล้วนแต่เห็นเหมือนกันหมดว่า ซูหว่านที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายเมื่อครู่ เป็นแค่การหลีกหนีคำถามเท่านั้น ถึงแม้ว่าซูหว่านจะมิได้เป็นสตรีที่ฉลาดอันใดมาก แต่นางก็มีเล่ห์กลมากมายนัก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ