นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 572

สรุปบท บทที่ 572 เปลี่ยนคน ไม่ไปเองไม่ได้: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอน บทที่ 572 เปลี่ยนคน ไม่ไปเองไม่ได้ จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 572 เปลี่ยนคน ไม่ไปเองไม่ได้ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย อาช้าย เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หลานจิ่วชิงไม่มีอารมณ์รับรู้ว่าภายในใจของซูเหวินชิงทั้งอึดอัดและกดดัน เมื่อได้คำตอบที่ตนเองต้องการแล้วก็หมุนตัวจากไป กระโดดสองสามครั้งร่างของเขาก็หายไปในราตรีกาล

จะเห็นได้ว่าเขาร้อนใจเพียงใด

จะยังไม่ร้อนใจได้อย่างไร หมอหนีไปแล้ว

บนถนนมืดมิดนอกเมือง แสงสว่างเพียงอย่างเดียวส่องมาจากไฟฉายบนหัวม้าของเฟิ่งชิงเฉิน ไม่รู้ว่านางติดตั้งอย่างแน่นหนาเกินไปหรืออย่างไร หรือว่าเป็นเพราะม้าที่นางนั่งมั่นคงมาก แสงนั้นจึงส่องไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่นำทางเฟิ่งชิงเฉิน

ฝีมือขี่ม้าของนางดีมาก แต่นางไม่รู้จักทาง ไม่คุ้นเคยกับเส้นทางนอกเมือง แม้จะมีแผนที่จากตี๋ตงหมิง แต่การเดินทางยามวิกาลทำให้ไปผิดทางง่าย กล่องเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะสามารถเปลี่ยนเป็นเนวิเกเตอร์ได้ แต่ระบบเนวิเกเตอร์นั้นไม่มีแผนที่ในยุคสมัยนี้ ทุกเรื่องนางจึงต้องพึ่งตนเอง

ดังนั้นยามที่นางพบว่าบนถนนมีเงาดำร่างหนึ่งยืนอยู่ก็ทำให้นางตกใจแทบแย่ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นมิตรหรือศัตรู การลดความเร็วลงเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเลย เฟิ่งชิงเฉินจึงเร่งความเร็วไปทางเงาดำนั้น

“ย่าห์!” มือขวานองนางกระตุกบังเหียน มือซ้ายจับปืนมั่น

ยามนี้เฟิ่งชิงเฉินจึงได้เข้าใจถึงข้อดีของการใช้ปืนคู่ เพราะในสงครามไม่มีทางรู้เลยว่ามือขวาหรือมือซ้ายจะว่าง หากฝึกทั้งสองมือไปพร้อมกันจึงจะปลอดภัยที่สุด

มีเคอร์ฟิวในยามกลางคืน การปรากฏตัวบนถนนหลวงกลางดึกย่อมไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาอย่างแน่นอน เพียงแต่เฟิ่งชิงเฉินมิได้มีความคิดที่จะฆ่าคนก่อน นางจึงตะโกนมาแต่ไกล “หลบไป หากชนตายก็จะไม่รับผิดชอบ”

นางกดสลักบนปืน เพียงแค่อีกฝ่ายพุ่งเข้ามา นางยิ่งสังหารแน่

โชคดีที่ชายชุดดำผู้นั้นไม่ใช่ศัตรู ยามที่นางกำลังจะชนอีกฝ่าย อีกฝ่ายก็ทะยานตัวขึ้นหลบฉากไปทางด้านซ้าย เฟิ่งชิงเฉินโล่งอก แต่ไม่ได้ผ่อนคลายความระมัดระวังตัว ยามที่ม้าผ่านคนผู้นั้นไป ปืนของนางก็เล็งไปที่อีกฝ่าย เพียงแค่อีกฝ่ายมีท่าทีผิดปกติ นางก็จะลิงมือยิงก่อนเพื่อชิงความได้เปรียบทันที

ยามผ่านไป เฟิ่งชิงเฉินคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเห็นประกายแสงหนึ่ง แต่ความเร็วนั้นเร็วเกินไป นางจึงจับไม่ได้ เพียงแต่ทอดถอนใจ “ดวงตาคู่นั้นคุ้นเคยยิ่งนัก รูปร่างก็คล้าย เพียงแต่หากเป็นเขาจริง ทำไมเขาจึงไม่เอ่ยอะไรออกมา? คงจะจำคนผิดไปแล้ว”

เฟิ่งชิงเฉินส่ายศีรษะสลัดความคิดในหัวออกไปและมุ่งหน้าไปข้างหน้าต่อ

“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้!” เมื่อห่างไปราวร้อยเมตรก็มีเสียงแว่วมาจากทางด้านหลัง ทั้งยังเป็นเสียงหอบเหนื่อยอันคุ้นเคย

“หลานจิ่วชิง? เป็นเขาจริงๆ ด้วย” เฟิ่งชิงเฉินมีสีหน้าข้องใจและดึงบังเหียนบังคับให้ม้าหยุดอย่างเชื่อฟัง

ม้าดำชางซานร้องคำราม กีบเท้าหน้าของมันยกขึ้นสูง ไฟด้านหน้าส่ายไปส่ายมาไม่หยุด ไฟส่องไปยังต้นไม้ข้างทางราวกับเป็นไฟปีศาจ ถนนหลวงอันมืดมิดก็ยิ่งดูวังเวงขึ้นไปอีก

หลานจิ่วชิงตามเข้ามา บนตัวเขาแผ่รัศมีเย็นเยียบเหมือนกับหน้ากากของเขา

“เฟิ่งชิงเฉิน ดึกดื่นเช่นนี้ เจ้าจะไปที่ใด?” เขาอยากรู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะปิดบังเขาหรือไม่

“หลานจิ่วชิง เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”

ทั้งสองถามคำถามเดียวกันขึ้นพร้อมกัน

“เฟิ่งชิงเฉิน ผู้ที่หาเรื่องคือเจ้า กลับไป” เฟิ่งชิงเฉินจะเก่งกาจเพียงใดก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่านางไม่เคยออกนอกเมืองหลวงไปได้ หลานจิ่วชิงโมโหนางมาก แต่ก็ไม่อาจปล่อยให้นางออกจากเมืองไปได้

“ข้าไม่กลับ หลานจิ่วชิง การที่เจ้าปรากฏตัวอยู่ที่นี่ก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าข้าจะไปทำธุระใด ข้าจำเป็นต้องไป โปรดหลีกทางให้ข้าด้วย” ไม่ว่าใครที่ถูกข่มขู่ให้กลับเมืองก็ต้องโมโห อีกอย่างผู้ที่มีสิทธิ์บังคับให้นางกลับเมืองก็คือเสด็จอาเก้า ไม่ใช่หลานจิ่วชิง

“ข้าบอกแล้วว่าข้าจะช่วยเจ้าจัดการเรื่องนี้เอง” หลานจิ่วชิงขวางอยู่ด้านหน้าม้า ไฟฉายส่องลงบนร่างกายของเขา หน้ากากสีเงินของเขาสะท้อนแสงบางส่วน ทำให้เกิดเป็นประกายแสงบนร่างของเขาวับๆ แวมๆ ดูหลอกตา…

“จิ่วชิง ข้าไม่กลับเมือง ข้าต้องเห็นว่าเขาปลอดภัยด้วยตาตนเองจึงจะสามารถวางใจได้” หายตัวไปในหุบเขาเกือบเดือนแล้ว หวังจิ่นหลิงต้องพบกับอันตรายแน่ นางกังวลเรื่องหวังจิ่นหลิงมากจริงๆ ดังนั้น…

นางจำเป็นต้องไป

หลานจิ่วชิงรู้ว่านางจะไปช่วยหวังจิ่นหลิง แต่เมื่อได้ยินเฟิ่งชิงเฉินพูดมันออกมาด้วยหูตนเอง หัวใจของหลานจิ่วชิงก็บีบอัดจนเจ็บปวด “เขาสำคัญถึงขนาดนั้นเชียวหรือ? สำคัญจนถึงขนาดที่เจ้าไม่ห่วงความปลอดภัยของตนเอง ไม่สนใจเรื่องในเมืองหลวง ไม่สนใจคนที่เป็นห่วงเจ้า…”

เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าเห็นแก่ตัวยิ่งนัก เจ้าไม่คิดบ้างเลยหรือว่าหากเจ้าเป็นอะไรไปที่ด้านนอก แล้วเขาที่อยู่ในเมืองหลวงจะทำอย่างไร

เจ้าให้ความสำคัญกับหวังจิ่นหลิงเช่นนี้ แล้วเห็นเขาเป็นตัวอะไร?

“หลานจิ่วชิง หากวันนี้ผู้ที่กำลังลำบากคือเจ้า ข้าก็จะทอดทิ้งทุกอย่างเพื่อไปช่วยเจ้าเช่นกัน” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวอย่างหนักแน่น ม้าที่นางขี่อยู่ดูเหมือนจะรับรู้ได้ถึงความร้อนรนของนาง มันย่ำเท้าอยู่กับที่และร้องขึ้นอย่างร้อนรน…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ