สรุปตอน บทที่ 579 ซวยมาก อย่าให้ข้ามีชีวิตรอดกลับไป – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
ตอน บทที่ 579 ซวยมาก อย่าให้ข้ามีชีวิตรอดกลับไป ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
“ไม่ไปแล้วจะอยู่รอความตายที่นี่หรือไง?” เฟิ่งชิงเฉินชำเลืองมองฝู่หลินอย่างเย็นชา ความเยียบเย็นมากมายอย่างยิ่ง จากนั้นนางก็คิดได้ว่าฝู่หลินเป็นเพียงคนข้างทางเท่านั้น หากไม่ใช่เพราะนาง เขาก็คงไม่ต้องตกอยู่ในอันตราย
เฟิ่งชิงเฉินมองฝู่หลินอย่างขอโทษ น้ำเสียงของนางอ่อนลง “ฝู่หลิน ขอโทษ เรื่องนี้ข้าคิดไม่รอบคอบ ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าเมืองอี้สุ่ยจะทำตัวเป็นศัตรูกับข้าเช่นนี้ การให้เจ้าต้องมาพัวพันด้วยเป็นความผิดของข้า ด้วยความสามารถของเจ้าแล้วสามารถออกไปได้อย่างสบายๆ เจ้าไม่ต้องสนใจข้า เจ้าไปเถอะ หากข้าตายลงตรงนี้ เช่นนั้นต้องขอโทษด้วยที่คงไม่อาจทำตามข้อตกลงที่ได้ให้ไว้กับเจ้าได้ หากข้าสามารถรอดชีวิตออกไปได้ก็ต้อนรับเจ้ามาหาข้าทุกเมื่อ ข้าจะต้องทำตามสัญญาให้ได้ ทำป้ายประจำตัวและหนังสือผ่านทางให้เจ้า
เฟิ่งชิงเฉินกระชับห่อผ้า สำรวจลูกกระสุน เสียงดังกริ๊ก ที่ใส่กระสุนหมุนครบรอบและกลับมาอยู่ที่เดิมอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าฝู่หลินกำลังคิดอะไรอยู่จึงไม่ได้ยินคำพูดของเฟิ่งชิงเฉิน แต่กลับยืนจ้องมองเฟิ่งชิงเฉิน เมื่อเฟิ่งชิงเฉินเตรียมทุกอย่างเสร็จแล้วจึงเอ่ยถามขึ้นอย่างตกใจ “นี่คืออาวุธลับของเจ้าหรือ? ของที่วันนั้นเจ้าเตรียมจะใช้มันสังหารข้า?”
“ใช่แล้ว อาวุธลับของข้า” เฟิ่งชิงเฉินแอบฉายแววยินดี ยินดีที่วันนั้นนางไม่ได้ลงมือ ที่แท้อีกฝ่ายรู้อยู่ก่อนแล้ว
“ดูประหลาดนัก” ดวงตาของฝู่หลินฉายแววบ้าคลั่งแวบหนึ่ง เขาไม่รู้พลังทำลายล้างของมัน แต่ไม่ขัดขวางการเข้าหาอาวุธลับอันประณีตของเขา
เฟิ่งชิงเฉินยิ้มเล็กน้อยและไม่ได้กล่าวอะไรออกมา นางเดินออกไปข้างนอก เมื่อเห็นว่าฝู่หลินยังคงยืนอยู่ที่เดิม เฟิ่งชิงเฉินก็เตือนอีกฝ่าย “เจ้ายังไม่ไปอีก จะอยู่ที่นี่หรือ?”
“ตกลง ข้าไปด้วย” ฝู่หลินตอบและหมุนตัวตามเฟิ่งชิงเฉินไปโดยไม่รอให้นางปฏิเสธ
เขาเองก็เตรียมตัวไว้แล้วเช่นกัน สิ่งของของเขาถูกนำติดตัวมาแล้ว มีเพียงเสี่ยวไป๋ที่อยู่ที่คอกม้า เมื่อพบเสี่ยวไปก็ไปด้วยกันได้…
ไปด้วยกันงั้นหรือ?
เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ปฏิเสธ ฝู่หลินเก่งกาจกว่านาง การไปด้วยกันมีแต่นางที่จะเป็นตัวถ่วงของเขา
อีกอย่างนางต้องขอบคุณที่เขามาเตือนนาง มิฉะนั้นตอนนี้นางก็คงถูกคนเล่นงานไปแล้ว เป็นไปได้ถึงเก้าส่วนว่าตายอยู่ที่นี่
นางด้อยประสบการณ์ยิ่งนัก คิดไปว่าอยู่ในเมืองมีทางการคอยคุ้มครองแล้วนางจะปลอดภัย แต่กลับคิดไม่ถึงว่าขุนนางแม้สามารถปกป้องประชาชน แต่ก็สังหารประชาชนได้เช่นกัน
เปรียบเสมือนเรือล่มในคลองระบายน้ำ นางเอาแต่หลบเลี่ยงการลอบสังหารระหว่างทาง แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะใช้กำลังทหารของทางการอย่างเปิดเผย
ให้ตายเถอะ สถานที่อันอยู่ห่างไกลจากอำนาจองค์จักรพรรดิ เพียงแค่เจ้าเมืองเล็กๆ ก็กล้าสังหารคนของจวนซู่ชินอ๋องได้ บังอาจเกินไปแล้ว
แน่นอนว่าเฟิ่งชิงเฉินรู้ดีว่าหากไม่มีผู้บงการ ต่อให้เจ้าเมืองผู้นั้นกินดีหมีสักพันชิ้นก็ไม่มีทางกล้าลงมือกับคนของจวนซู่ชินอ๋อง หากนางรู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังคือใคร นางจะต้อง…
ทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นขันทีและทำให้เขาหมดหนทางสืบทอดตระกูล!
เฟิ่งชิงเฉินขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพลางมุ่งหน้าไปยังคอกม้าพร้อมฝู่หลิน แต่กลับพบว่าคอกม้านั้นว่างเปล่า แท้จริงแล้วนอกจากพวกเขาสองคนแล้ว ในจวนเจ้าเมืองก็ไร้เงาคน
“เสี่ยวไป๋หายไปแล้ว” เฟิ่งชิงเฉินหันไปมองฝู่หลินอย่างเห็นใจ
ม้าชั้นดีเกินไปก็เป็นความผิดอย่างหนึ่ง ม้าของฝู่หลินเข้าตาผู้อื่นเข้าเสียแล้ว
“ชาวตงหลิงเช่นพวกเจ้าช่างไร้ยางอายยิ่งนัก ขุนนางแต่ละคนล้วนชอบขโมยม้าของคนอื่น” ฝู่หลินโมโหจนขบกรามแน่น เขาผิวปากหนึ่งครั้ง เหยี่ยวก็บินมาจากมุมอับสายตา “เสี่ยวฮุยฮุย ดูหน่อยว่าที่นี่มีทางออกหรือไม่”
เสี่ยวฮุยฮุย?
จิตใจว้าวุ่นของเฟิ่งชิงเฉินถูกชื่อของเจ้าสายฟ้าผู้นี้ทำให้ผ่อนคลายลง
“กลัวสิ แต่กลัวแล้วจะมีประโยชน์อันใด?” เฟิ่งชิงเฉินชี้ไปยังทางข้างหน้า “แยกกันไป หลังผ่านไปหนึ่งก้านธูป ไม่ว่าจะเจอทางออกหรือไม่ก็ให้มาเจอกันตรงนี้”
พูดจบนางก็ดับไฟฉายแวบหายไป ไม่กี่ก้าวนางก็เดินเข้าสวนไป หายไปหาไม่เจอโดยไม่ให้เวลาฝู่หลินคิด
ในเวลานี้พวกเขามีแต่ต้องร่วมมือกัน เมื่อได้ยินว่าหากไม่มีเขา เฟิ่งชิงเฉินจะยิ่งตายเร็ว ฝู่หลินก็หายเข้าไปในเงามือยามราตรีเพื่อหาทางออกที่สามารถออกไปได้
เมื่อฝู่หลินไปแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็เดินออกมาจากภูเขาจำลอง นางหามุมอับเปิดกล่องเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะ นางเปิดโหมดแลกเปลี่ยน นางใช้แต้มจรรยาแพทย์แลกอุปกรณ์ปีนเขามา
ไม่ใช่อุปกรณ์ปีนหน้าผาแบบที่นักกีฬากลางแจ้งใช้กัน แต่เป็นแบบที่กองทัพและตำรวจใช้กัน ที่ปลายเชือกมีตะขอ สามารถยืดหดได้ ใช้เกี่ยวสิ่งของที่อยู่ไกลและปีนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว เดิมมันถูกเรียกว่ากรงเล็บเสือบิน เพราะของสิ่งนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลายในหน่วยเสือบินและหน่วยปฏิบัติการพิเศษ
นางใช้แต้มจรรยาแพทย์อีกสองแต้มแลกชุดกันระเบิดสองชุด ที่จริงเฟิ่งชิงเฉินเพียงต้องการแลกชุดป้องกันอัคคีภัยธรรมดาที่นักดับเพลิงใช้กัน แต่ว่าไม่มี… มีเพียงชุดกันระเบิดชั้นสูงเท่านั้น
เมื่อเตรียมของเรียบร้อยแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็มายังจุดนัดหมาย ไม่นานฝู่หลินก็ปรากฏตัว
“ทางออกทั้งหมดถูกปิดหมดแล้ว สามชั้นด้านใน สามชั้นด้านนอก ไปดูมาแล้วทั้งหมดล้วนเต็มไปด้วยทหารและมือธนูก็เล็งมาที่จวนเจ้าเมือง เพียงแค่พวกเราออกไปจะต้องโดนมือธนูยิงจนพรุนแน่” ฝู่หลินเกรงว่าเคราะห์ในวันนี้คงยากจะฝ่าฟัน
เขาวิทยายุทธ์ไม่เลว แต่ต่อให้วิทยายุทธ์จะล้ำเลิศเพียงใดก็ไม่อาจต่อกรกับกองทหารนับหมื่นได้ อีกทั้งเขายังไม่ใช่ผู้บำเพ็ญเซียน พวกเขาเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับธนูและทหารจำนวนมากเช่นนี้ แม้วิทยายุทธ์จะดีก็มีแต่จะขาดทุน
“โยกกำลังทหารกองใหญ่เพื่อข้า ข้ารู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ” เฟิ่งชิงเฉินแน่ใจแล้วว่าผู้บงการเบื้องหลังนั้นรู้จักนางเป็นอย่างดี มิฉะนั้นคงไม่เล่นใหญ่ขนมาทั้งกองทัพเช่นนี้
ผู้บงการนี่หากนางไม่ตายเขาก็คงไม่ยอม เขาต้องเข้าใจดีว่าหากให้นางมีชีวิตรอดกลับเมืองหลวงไป เขาจะต้องซวยมาก ซวยมากๆ …
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...