นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 581

"เฟิ่งชิงเฉิน!" ฝู่หลินตะโกนร้องเรียกเสียเสียงดัง จนทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกตกใจตามไปด้วย จนนางเกือบจะปล่อยเชือกหลุดมือลงไปแล้ว

"อะไร?" เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกไม่ชอบใจ ในท่าทีขี้ตกอกตกใจของฝู่หลินเสียจริง

ครั้งแรกที่เจอหน้า นางยังคิดว่าฝู่หลินดูเป็นคนสุขขมนุ่มลึกอยู่แท้ ๆ แต่เมื่ออยู่ด้วยนานๆ ถึงได้รู้ว่า ความสุขขมลุ่มลึกที่ได้เห็นในคราแรก กลับแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์กลับกลอกยิ่งนัก ในบางครั้งฝู่หลินก็ดูเป็นเหมือนพวกที่อ่อนต่อโลก ดูอย่างไรก็เหมือนเป็นคุณชายที่ถูกเลี้ยงดูอยู่ดีกินดีภายในตระกูลคนชั้นสูง

"เชือกของเจ้า เชือกของเจ้าจะโดนไฟเผาหรือไม่" ฝู่หลินพลันชี้ไปยังบนท้องฟ้าที่มีควันไฟโหมกระหน่ำมากมาย อีกทั้งเชือกยังถูกเสี่ยวฮุยฮุยลากขึ้นไปบนกองเพลิงด้านบนอีกด้วย

"เจ้าเพิ่งมาคิดได้ตอนนี้ มันไม่สายไปหน่อยหรือ" เฟิ่งชิงเฉินคล้านที่ใส่ใจฝู่หลินอีก

มาถึงขนาดนี้แล้ว ยังมีกะจิตกะใจมาคิดถึงเรื่องเช่นนี้อีกหรือ

ฝู่หลินพลันส่งเสียงกระแอมกระไอออกมาหนึ่งที เพื่อปกปิดสีหน้าที่อับอายของตนเอง

ทั้งสองคนมิได้พูดคุยอะไรกันอีก ตั้งหน้าตั้งตารอแต่เสี่ยวฮุยฮุยหาทางออกให้เจอ

เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ สิ่งของที่อยู่รอบตัวพวกเขา เริ่มที่จะถูกไฟลามมาถึงแล้ว อุณหภูมิภายใน เริ่มสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ชุดดับเพลิงที่เฟิ่งชิงเฉินและฝู่หลินได้สวมใส่อยู่นั้น แต่เดิมก็รู้สึกร้อนอบอ้าวอยู่แล้ว ทว่า ในยามนี้ทั่วร่างของพวกเขา พลันเปียกแฉะไปด้วยเหงื่อที่ไหลออกมาเพราะอุณหภูมิความร้อนที่ค่อย ๆ สูงขึ้นเรื่อย ๆ

ฝู่หลินรู้สึกอึดอัดยิ่งนัก "เฟิ่งชิงเฉิน เสี่ยวฮุยฮุยไม่น่าจะหาทางออกเจอได้ พวกเราฝ่าดงกองเพลิงออกไปกันเถอะ หากว่าพวกเรามิได้ตายเพราะโดนไฟไหม้ ก็อาจจะโดนความร้อนพวกนี้ ย่างพวกเราจนตายเป็นแน่"

"รออีกหน่อย เสี่ยวฮุยฮุยของเจ้าจะต้องหาทางออกเจอแล้วแน่ ๆ หากเราฝ่าออกไปในยามนี้ ด้วยวิชาตัวเบาของเจ้านะหรือ จะสามารถพาพวกเราออกไปได้? อีกทั้งเพลิงไฟที่รอบล้อมพวกเราเช่นนี้ ด้วยวิชาตัวเบาของเจ้าแล้ว หากว่าเจ้าหมดลมหายใจไประหว่างทางละก็ พวกเราอาจจะตกลงไปในกองเพลิงพวกนี้ก็ได้เช่นกัน เมื่อถึงเวลานั้น แม้ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งมากเพียงใด ก็ไม่อาจฝ่ากองเพลิงออกไปได้" แม้ว่าคนตรงหน้าจะเป็นหลานจิ่วชิง เขาก็ไม่อาจจะพานางออกไปได้เช่นกัน มิต้องไปคิดถึงฝู่หลินเลยด้วยซ้ำ

ในที่สุด ฝู่หลินก็มิเอ่ยอันใดออกมาอีก

มิต้องพูดถึงการพาเฟิ่งชิงเฉินออกไปเลย แม้แต่ตัวเขาเพียงคนเดียว ก็ไม่มั่นใจว่าจะพาตนเองจะออกไปได้หรือไม่ มิเช่นนั้น เขาคงหนีไปนานแล้ว ไม่น่ากลับมาหาเฟิ่งชิงเฉินเลย แต่เดิมเขาคิดว่าเฟิ่งชิงเป็นถึงขุนนางของแว่นแคว้น บางทีนางอาจจะมีสิทธิ์ในการเรียกกองกำลังมาช่วยก็เป็นได้ ท้ายที่สุด

นางหาได้มีประโยชน์อันใดไม่

เพลิงไฟเริ่มโหมกระหน่ำเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ เปลวเพลิงที่ปลิวไปมาอยู่บนฟากฟ้า ทำให้ท้องฟ้าในยามนี้ แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงไปในทันที สถานที่ที่ให้หลบหนีเริ่มน้อยลงเข้าไปเรื่อย ๆ อากาศบริสุทธิ์ก็ค่อย ๆ ลดน้อยลงไปเช่นกัน เฟิ่งชิงเฉินในยามนี้ปวดหัวยิ่งนัก มือไม้ค่อย ๆ อ่อนแรงลง ฝีเท้าของนางก็ค่อย ๆ เบาลงแล้วเช่นกัน ภาพที่อยู่ตรงหน้า จวนท่านเจ้าเมืองในยามนี้ ตกอยู่ในกองเพลิงไปทั้งหลังแล้ว

บู้ม จวนของท่านเจ้าเมืองค่อย ๆ ถล่มลงมาในทันที แม้ว่าทั้งเฟิ่งชิงเฉินและฝู่หลินจะยืนอยู่ตรงกลางที่โล่ง ก็ไม่อาจหนีพ้นได้เช่นกัน ผนังห้องที่ค่อย ๆ ถล่มลงมานั้น พลันหล่นมาทางที่เฟิ่งชิงเฉินและฝู่หลินกำลังก้มอยู่พอดี ทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างหาที่หลบซ่อน เมื่อเห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินกำลังพบเจออันตรายนั้น ฝู่หลินก็พุ่งเข้าไปกอดเฟิ่งชิงเฉินเพื่อปกป้องนางในทันที

ในสถานการณ์เช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินจึงไม่อาจปฏิเสธน้ำใจของเขาไปได้ นางไม่อาจตายอยู่ที่นี่ หากนางต้องมาตายเพราะโดนไฟคลอกเช่นนี้ นับว่าขาดทุนยิ่งนัก

ปั้ง แรงระเบิดเมื่อครู่พลันพุ่งเข้ามาที่หลังของฝู่หลินในทันที ฝู่หลินได้แต่กัดฟันทน เพื่อเตรียมตัวรับแรงปะทะ มิคาดคิดว่า แรงระเบิดเมื่อครู่พลันทำให้ทั่วแผ่นหลังของเขารู้สึกปวดร้อนยิ่งนัก ทว่า หาได้มีความรู้สึกว่าตนเองโดนเผาไหม้อันใดไม่ ในยามนี้ ฝู่หลินถึงได้เข้าใจแล้วว่า เหตุใดเฟิ่งชิงเฉินถึงได้ให้เขาสวมอาภรณ์เป็นชุดนี้แทน

สิ่งของที่อยู่บนตัวเฟิ่งชิงเฉินช่างล้ำค่ายิ่งนัก

"เฟิ่ง" ยามที่ฝู่หลินกำลังเปิดปากเพื่อพูดขอบคุณนั้น เฟิ่งชิงเฉินกลับกล่าวตัดบทออกมาว่า "เสี่ยวฮุยฮุยหาที่เกี่ยวตะขอได้แล้ว พวกเราไปกันเถอะ เจ้ากอดข้าดี ๆ "

เฟิ่งชิงเฉินพลันดึงเชือกเหล็กเอาไว้ พร้อมทั้งดึงให้เชือกตึงมากขึ้น

"ฝู่หลิน เร็ว ๆ เข้า พวกเราต้องไปแล้ว" เฟิ่งชิงเฉินเอ่ยเร่งฝู่หลิน

หากยังไม่ไปตอนนี้ จวนของท่านเจ้าเมืองคงได้กลายมาเป็นหลุมฝังศพพวกเราเป็นแน่

"ขออภัยด้วย" ฝู่หลินจึงรีบคว้าเอวของเฟิ่งชิงเฉินเอาไว้ พร้อมทั้งรู้สึกได้ถึงพละกำลังที่แข็งแกร่งกำลังพาพวกเขามุ่งออกไปจากที่นี่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ