หลังจากหนีออกจากเมืองอี้สุ่ยมาได้นั้น เฟิ่งชิงเฉินกับฝู่หลินก็มุ่งหน้าตรงมายังทางเหนือในทันที ระหว่างทางนั้น หาได้พบเจอมนุษย์สักคนไม่ พวกเขาหวังว่าจะพบยานพาหนะในการใช้เดินทางบ้าง แต่ก็ต้องผิดหวัง ทั้งสองคนจึงได้แต่พึ่งพาขาทั้งสองข้างของตนเอง เมื่อเดินทางผ่านมาได้ถึงสองวันนั้น ขาทั้งสองข้างของเฟิ่งชิงเฉิน ล้วนแต่เต็มไปด้วยแผลพุพองมากมาย
เมื่อเจอเพียงหนองน้ำเล็ก ๆ นั้น หลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินชำระล้างทำความสะอาดเสร็จแล้ว นางก็ถอดรองเท้าของตนเองออกมา พร้อมกับเจาะไปที่ตุ่มแผลพุพองพวกนั้น แล้วจึงใส่ยาลงไป แล้วจึงนำผ้าพันแผลที่สะอาด ๆ มาพันเอาไว้ พร้อมทั้งสวมรองเท้ากลับเข้าไปเช่นเดิม เสมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก
เมื่อเห็นสภาพเฟิ่งชิงเฉินที่เป็นเช่นนั้นแล้ว เกรงว่าฝู่หลินคงมีแผลพุพองมากกว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นแน่ ทว่า ฝู่หลินก็มิกล้าบอกว่าให้พักผ่อนหรือเดินทางให้ช้าลง
เขาที่เป็นถึงชายชาตรี จะสู้สตรีที่อ่อนแอและหยิ่งทระนงเช่นเฟิ่งชิงเฉินไม่ได้เชียวหรือ
หลังออกมาจากเมืองอี้สุ่ยนั้น เฟิ่งชิงเฉินแลดูจะเงียบขรึมมากกว่าเดิมยิ่งนัก บางครั้งบางครา นางก็มักจะเหม่อลอย ฝู่หลินพอจะเดาได้ว่า เฟิ่งชิงเฉินกำลังกังวลว่าจะมีคนมาลอบฆ่าพวกเขาเอาได้ แม้แต่ในยามราตรี พวกเขาทั้งสองก็มิกล้านอนหลับสนิทเลยแม้แต่น้อย เอาแต่ผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าเวรยามตลอด พร้อมกับเร่งเดินทางต่อไม่หยุด
หลังจากเร่งเดินทางมาหลายวัน ในที่สุดช่วงเช้าของวันที่สาม พวกเขาก็มาถึงหุบเขาไท่ลู่เก๋อเสียที ทว่า นั่นมิได้หมายความว่า พวกเขาจะสามารถพักผ่อนหย่อนใจได้ กลับกัน การที่พวกเขาเดินทางมาถึงหุบเขาไท่ลู่เก๋อแล้วนั้น มันเป็นการบอกว่า พวกเขาควรจะเริ่มลงมือทำภารกิจของตัวเองเสียที
เฟิ่งชิงเฉินมิได้มีท่าทีรีบร้อนที่จะรีบลงไปในหุบเขาในทันที ทว่า นางเดินตามหาจุดที่สูงที่สุด เพื่อที่จะปีนขึ้นไปแทน นางเตรียมตัวโดยการเดินดูสภาพแวดล้อมของหุบเขาไท่ลู่เก๋อเป็นอย่างแรก
ถึงแม้ว่าจะมีเหยี่ยวที่คอยบินดูสภาพแวดล้อมให้ แต่เหยี่ยวไม่อาจพูดคุยได้ พวกมันย่อมไม่อาจอธิบายสภาพแวดล้อมของหุบเขาไท่ลู่เก๋อให้นางฟังได้เช่นกัน
ลักษณะของหุบเขาไท่ลู่เก๋อนั้น เป็นภูเขาสูงตระหง่านขนาดใหญ่ ที่มีความแข็งแรงยิ่งนัก หุบเขาทั้งหลายต่างมีความอันตรายและมีความลาดชันเป็นอย่างมาก ทางเดินต่าง ๆ คล้ายจะเป็นแนวเส้นตรงเลยทีเดียว
ความกว้างและความลึกของหุบเขาต่าง ๆ แทบจะเหมือนกันทั้งหมด ด้านล่างของหุบเขามีแม่น้ำล้อมรอบ หุบเหวต่าง ๆ ช่างดูน่าหวาดเสียวยิ่งนัก ทำเอาผู้คนไม่กล้ามองลงไป เฟิ่งชิงเฉินมองดูความลึกของหุบเขาด้วยท่าทีที่แน่นิ่ง แม้แต่หุบเขาที่เตี้ยที่สุด ก็ยังมีความลึกถึงสามร้อยห้าสิบเมตร การที่จะไต่ลงไปได้นั้น หาใช่เรื่องง่าย ๆ ไม่
เหยี่ยวที่บินอยู่บนท้องฟ้าได้ครึ่งวันแล้วนั้น ก็พลันบินลงมาหยุดอยู่บนมือของฝู่หลินในทันที พร้อมทั้งหันไปกระพริบตามองที่ฝู่หลิน
"เฟิ่งชิงเฉิน เสี่ยวฮุยฮุยบอกว่าไม่เห็นมีมนุษย์อยู่เลย ทั้งยังมองไม่เห็นเส้นทางอีกด้วย เจ้าแน่ใจหรือว่า คนที่เจ้าตามหาอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ หากเขาตกลงไป ย่อมมีความเป็นไปได้ถึงเก้าส่วน ที่เขาอาจจะไม่มีลมหายใจอยู่แล้ว" ฝู่หลินพูดออกมาอย่างไม่อ้อมค้อม
เฟิ่งชิงเฉินพลันหันไปถลึงตาใส่ฝู่หลินในทันที "เขาจะไม่ตาย"
พูดจบ พลันเดินไปยังหุบเขาที่เตี้ยที่สุด พร้อมทั้งเตรียมตัวปีนลงไปในทันที หากไม่มีทางไป นางก็จะใช้ขาเดินลงไปเอง ขอเพียงแค่เดินลงไปได้ มันย่อมต้องมีหนทางอยู่ข้างหน้าอย่างแน่นอน หากว่าหุบเขาไท่ลู่เก๋อไม่มีหนทาง เช่นนั้น นางจะเป็นคนทำให้มันมีทางลงไปด้วยตนเอง
ฝู่หลินและเสี่ยวฮุยฮุยพลันสบตากันอีกครั้ง หลังจากนั้นก็เดินตามหลังเฟิ่งชิงเฉินมา "เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าแน่ใจแล้วหรือว่าจะลงไปด้านล่างนั่น? ดูอย่างไร เจ้าก็ไม่มีทางลงไปได้"
"ข้าย่อมมีหนทางของข้า" เฟิ่งชิงเฉินพลันยกเป้ขึ้นมาด้านหน้า พร้อมกับหยิบอุปกรณ์ที่ใช้ปีนหน้าผาออกมาในทันที
"เจ้าเตรียมตัวพร้อมมากจริง ๆ " ฝู่หลินที่ตกตะลึงอยู่ พลันเอ่ยน้ำเสียงแหบแห้งออกมา ด้วยสีหน้าที่รู้สึกชื่นชม
สิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินหยิบออกมานั้น หาใช่เครื่องมือที่แปลกประหลาดไม่ ทว่า เครื่องมือที่อยู่ในมือของเฟิ่งชิงเฉินนั้น กลับดูให้ความลึกลับซับซ้อนมากกว่า
"ข้ามาเพื่อช่วยชีวิตคน หากมิได้เตรียมตัวมาให้พร้อม นั่นถือว่าเป็นการทำร้ายตนเอง" เมื่อครั้งที่ฝู่หลินบอกว่า การที่หวังจิ่นหลิงตกลงไปนั้น เขาอาจจะไม่มีชีวิตรอดแล้ว เฟิ่งชิงเฉินจึงมิได้ทำตัวมีมารยาทต่อฝู่หลินอีกต่อไป
หลังจากจับตะขอกรงเหล็กไปยึดอย่างมั่นคงแล้วนั้น เมื่อลองตรวจสอบดูความแข็งแรงของแล้วว่า อย่างไรมันก็ไม่มีทางหลุดแน่ ๆ เฟิ่งชิงเฉินจึงสะพายเป้ปิดซิบให้แน่น พร้อมกับรัดหัวเข็มขัดของตนเองให้เข้าที่ดี ๆ แล้วจึงดึงเชือกตามมา เพื่อไปยืนอยู่ริมขอบหน้าผา "ฝู่หลินข้าจะลงไปข้างล่าง เจ้าล่ะ?"
"ข้าจะช่วยเฝ้ายามให้เจ้าที่นี่ ให้เสี่ยวฮุยฮุยคอยสอดส่องดูคนให้เจ้า" ฝู่หลินพลันกวักมือเรียกเหยี่ยวมาที่นี่ จากนั้นก็ทำสัญลักษณ์มืออีกสองสามกระบวนท่า เจ้าเหยี่ยวพลันพยักหน้าลงสองสามที แล้วจึงหันไปมองหน้าเฟิ่งชิงเฉิน พร้อมกับเบือนหน้าหนีนางด้วยท่าทางรังเกียจ
การที่ฝู่หลินไม่ยินยอมลงไปด้วยนั้น เฟิ่งชิงเฉินหาได้โมโหไม่ แต่แรกฝู่หลินก็มิได้รับปากว่าจะช่วยนางตามหาคนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เฟิ่งชิงเฉินจึงหยิบอาหารแห้งและน้ำออกมาจากกระเป๋าเป้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...