หลังจากร้องตะโกนมาหนึ่งวันแล้ว ย่างเข้าวันที่สอง เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่มีเสียงในทันที อย่าได้คิดที่จะร้องตะโกนเลย เพียงแค่นางเปิดปากพูดออกมาก็รู้สึกเจ็บคอยิ่งนัก เฟิ่งชิงเฉินรู้ดีว่าเส้นเสียงของนางได้รับบาดเจ็บเข้าเสียแล้ว เกรงว่า แม้แต่ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ในช่วงนี้ นางก็คงไม่อาจใช้เสียงไปได้สักพักใหญ่ ๆ
ในเมื่อไม่อาจตะโกนได้ดั่งเช่นเคย นางก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว เฟิ่งชิงเฉินจึงจำเป็นต้องใช้วิธีที่ดูโง่เง่ามากที่สุด ก็คือการค่อย ๆ เดินตามหาไปทั่วทุกที่แทน หลังจากที่ผ่านช่วงกลางวันไปแล้วนั้น เฟิ่งชิงเฉินเพียงกินอาการแห้งไปไม่กี่คำ ยามที่กำลังจะนอนพักผ่อนอยู่นั้น จู่ ๆ เหยี่ยวก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าของนาง พร้อมทั้งแผดเสียงออกมาฉากใหญ่
ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินพลันเจือไปด้วยความดีใจไปในทันที พร้อมทั้งลุกขึ้นโดยไว เมื่อคิดที่จะเอ่ยถามเหยี่ยวดูว่า เจอคนแล้วใช่หรือไม่ นางกลับพบว่าตนเองไม่อาจส่งเสียงออกมาได้เลยแม้แต่น้อย ทำให้นางร้อนใจเสียจนแทบจะร่ำไห้ออกมาเลยทีเดียว
เหยี่ยวพลันหันมามองเฟิ่งชิงเฉินเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็กระพือปีกเตรียมออกบินไปในทันที ราวกับจะสื่อว่าให้เฟิ่งชิงเฉินตามมันมา เมื่อเห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินรีบร้อนตามมันมานั้น มันจึงได้รีบออกเดินทางต่อในทันที
เมื่อเดินทางมาได้ครึ่งชั่วยามนั้น เฟิ่งชิงเฉินพลันเห็นหุบเขาลึกมากมายนัก ทว่า เหยี่ยวกลับบินมาหยุดที่ปากทางเข้าถ้ำแห่งหนึ่ง จากนั้นก็กระพือปีกไปมาหลายครั้ง ราวกับจะสื่อให้เฟิ่งชิงเฉินเดินเข้าไปด้านใน หลังจากเสร็จภารกิจที่ได้รับมอบหมายแล้ว เจ้าเหยี่ยวก็ไม่สนใจว่าเฟิ่งชิงเฉินจะเข้าใจมันหรือไม่ พร้อมทั้งรีบบินหายไปในทันที
คนตายเป็นอะไรที่มันเกลียดมากที่สุด!
เมื่อเหยี่ยวบินจากไปแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็รีบวิ่งเข้าไปด้านในถ้ำในทันที ยังมิทันจะได้ย่างกรายเข้าไปด้านใน นางก็พลันได้กลิ่นเหม็นอะไรบางอย่างเหม็นโชยออกมา มันก็คือกลิ่น
เฟิ่งชิงเฉินราวกับสติหลุดไปครู่หนึ่ง ปากพลันค่อย ๆ อ้ากว้างขึ้น พร้อมทั้งรับรู้ได้ถึงความชื้นจากภายในจมูกของตนเอง หยาดน้ำตาพลันค่อย ๆ ไหลลงมาจากข้างแก้มในทันที
นี่เป็นกลิ่นเหม็นของศพ นางดมไม่ผิดแน่
ขาทั้งสองข้าของเฟิ่งชิงเฉินพลันหนักอึ้งไปในทันที ไม่ว่าอย่างไรก็ก้าวขาไม่ออกเลยแม้แต่น้อย นางได้แต่ส่ายหัวไปมา
กลิ่นเหม็นเน่าของศพเป็นตัวบ่งบอกว่ามีคนตาย ทว่า มันมิได้หมายความว่าจะต้องเป็นจิ่นหลิงที่ตาย ไม่ใช่ มันต้องไม่ใช่ จิ่นหลิงจะไม่ตาย คนที่อยู่ด้านในย่อมไม่ใช่จิ่นหลิง ย่อมไม่ใช่จิ่นหลิงแน่ ๆ
ในยามนี้ เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกหวาดกลัวยิ่งนัก นางไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปด้านในเลยแม้แต่น้อย นางกลัว นางกลัวว่านางจะเห็นเป็นร่างของจิ่นหลิง แล้วนางจะมิอาจทำใจได้
ฮือฮือฮือ น้ำเสียงแหบแห้งพร้อมกับกำลังร่ำไห้ออกมาของเฟิ่งชิงเฉิน คล้ายกับเสียงสัตว์ร้ายที่กำลังได้รับบาดเจ็บก็ไม่ปาน
สิ่งที่หมอส่วนใหญ่หวาดกลัวมากที่สุด ก็คือการที่เห็นบุคคลที่ตนเองรักและสหายคนสนิทของตนเองต้องมาตายอยู่บนเตียงห้องผ่าตัด แพทย์นิติเวชส่วนใหญ่มักจะกลัวว่าญาติและเพื่อนสนิทของตนเองต้องมานอนอยู่บนแต่งชำแหละศพ
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมองเห็นความเป็นความตายมามากมายนัก นั่นหมายความว่า พวกเขาย่อมหวาดกลัวความตายมากยิ่งขึ้น ทั้งยังรู้จักรักชีวิตและหวงแหนชีวิตของตนเองมากขึ้นอีกด้วย
เฟิ่งชิงเฉินที่ยืนอยู่หน้าปากทางเข้าถ้ำนั้น ได้แต่ร่ำไห้ออกมาไม่หยุด สองขาพลันเกิดอาการอ่อนแรงลง แต่นางก็ได้แต่พยายามที่จะยืดหยัดลุกขึ้นสู้
นางไม่อาจล้มลงไปได้ จิ่นหลิงยังรอนางอยู่
"้เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าต้องอดทนเอาไว้ อย่าได้ล้มลงไปเป็นอันขาด คนที่อยู่ด้านในอาจจะไม่ใช่จิ่นหลิงก็เป็นได้ เข้าไป เดินเข้าไปด้านใน เดินเข้าไปดูให้เห็นกับตา ถ้าหาก ถ้าหากเป็นจิ่นหลิงจริง ๆ ละก็ เช่นนั้น เช่นนั้น" เฟิ่งชิงเฉินได้แต่คิดให้กำลังใจตนเองภายในใจ เมื่อคิดไปถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาแล้ว นางก็มิอยากคิดอีก
หากว่าคนที่อยู่ด้านในเป็นหวังจิ่นหลิงจริง ๆ แล้วละก็ นางจะต้องทำเช่นไรดี นางไม่อาจทำอะไรได้เลย นางหาใช่พระเจ้าไม่ นางไม่อาชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นขึ้นมาใหม่ได้ นางไม่อาจเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่มันเกิดขึ้นไปแล้วได้
จิ่นหลิง จะต้องไม่ใช่เจ้า จะต้องไม่ใช่เจ้าอย่างแน่นอน
เฟิ่งชิงเฉินค่อย ๆ สูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ พร้อมกับกัดฟันตนเอง ดวงตาพลันเบิกกว้างขึ้น เพื่ออดกลั้นไม่ให้หยาดน้ำตาไหลออกมาอีก แล้วจึงนำแขนเสื้อของตนขึ้นมาเช็ดหน้าเช็ดตา เมื่อเช็ดเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางก็เดินจ้ำอ้าวเข้าไปด้านในถ้ำในทันที
ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร นางก็จะต้องเข้าไปดูให้ได้ การที่นางยืนคิดฟุ้งซ่านอยู่ที่นี่ ไม่มีประโยชน์อันใดทั้งนั้น หากว่าตนเองไม่ได้เห็นด้วยตาของตนเอง ว่ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้นกับจิ่นหลิงหรือไม่
"อ๊าก"
เมื่อเดินเข้าไปภายในถ้ำนั้น เฟิ่งชิงเฉินก็พบกับสถานการณ์ที่น่าหดหู่ในทันที เฟิ่งชิงเฉินที่ได้เห็นสภาพเช่นนั้น พลันทรุดลงไปกับพื้น พร้อมทั้งส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดออกมา เสียงร้องของนางดังก้องไปทั่วภายในถ้ำในทันที
ด้านในถ้ำนั้น มีศพคนที่นอนระเกะระกะอยู่ห้าถึงหกคน ทั่วร่างของศพนั้น ล้วนแต่แห้งกังไปหมดแล้ว ทว่า มีอีกสองศพเท่านั้น ที่กำลังส่งกลิ่นเหม็นเน่าออกมา สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ
จิ่นหลิงก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน
จิ่นหลิงนอนอยู่ด้านในสุด โดยมิได้ขยับตัวอันใด เสื้อผ้าที่อยู่บนร่างของจิ่นหลิงขาดรุ่งริ่ง ถึงกระนั้น เฟิ่งชิงเฉินก็เห็นเขาเป็นคนแรกอยู่ดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...