นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 588

สรุปบท บทที่ 588 แย่มาก รออีกนิดค่อยเห็นไม่ได้หรือ: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

สรุปเนื้อหา บทที่ 588 แย่มาก รออีกนิดค่อยเห็นไม่ได้หรือ – นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

บท บทที่ 588 แย่มาก รออีกนิดค่อยเห็นไม่ได้หรือ ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาช้าย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ออกไปจากที่นี่!

ต้องมีชีวิตรอดต่อไปให้ได้!

ประโยคเหล่านี้ย้อนวนอยู่ในใจ เฟิ่งชิงเฉินกัดฟันยืนหยัด นางบอกตัวเองว่าต้องสู้ เมื่อใดที่คิดจะยอมแพ้ ก็จงนึกถึงคนที่กำลังรอนางอยู่ในเมืองหลวง

นางค่อยๆปีนขึ้นไป ยิ่งเข้าใกล้ด้านบนของหุบเขา นางก็ยิ่งมีแรงผลักดัน เฟิ่งชิงเฉินจะต้องมีชีวิตรอดต่อไปให้ได้ นางจะไม่ยอมให้ตนเองและหวังจิ่นหลิงต้องมาตายที่นี่

ยิ่งปีนสูงขึ้นไปมากเท่าใด รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินก็ยิ่งเด่นชัดมากเท่านั้น

เฟิ่งชิงเฉิน แข็งใจหน่อยนะ เฟิ่งชิงเฉินทำได้อยู่แล้ว

ที่ผ่านมานางฟันฝ่าอุปสรรคมามากมาย ทั้งยังเคยมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานของกองกำลังชายแดน ในตอนนี้นางก็ต้องพาหวังจิ่นหลิงออกไปจากหุบเขาไท่ลู่เก๋อได้เช่นเดียวกัน

อย่าลืมว่าตอนนี้นางโชคดีกว่าในอดีตมาก ในเมืองหลวงมีคนกำลังรอนางอยู่ ในเมืองหลวงมีคนเป็นห่วงเป็นใยนาง นางยังมีคนที่นางต้องกลับไปดูแล ซึ่งเป็นหน้าที่นอกเหนือจากการทำงานของนาง

ตอนนั้นนางเปรียบเหมือนจอกแหนที่ล่องลอยไปตามกระแสน้ำ ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีมิตรสหาย ไม่มีที่อยู่อาศัย และไม่มีเป้าหมายในการดำรงชีวิต ตอนนั้นนางไม่ห่วงเรื่องความเป็นความตาย ถึงนางจะตายก็ไม่มีใครเสียใจ นางจึงไม่กลัวตาย

ตอนนั้นนางผ่านเหตุการณ์เสี่ยงอันตรายมามากมาย ได้ทำในสิ่งที่ใครหลายคนทำไม่ได้ ยิ่งยากเย็นเท่าไรก็ยิ่งน่าสนใจ มิฉะนั้นนางคงไม่ตกปากรับคำจากองค์กรเรื่องการทำงานพิเศษ ด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่านางอยู่ว่างๆและรู้สึกเบื่อหน่าย

ในตอนนั้น นางเคยคิดที่จะหนีไปให้ไกลแสนไกล แต่นางก็ไม่อาจไปใช้ชีวิตในเมืองที่สงบสุขได้ เพราะในเมืองที่สงบสุข นางก็เหมือนเป็นวิญญาณเร่ร่อน ไม่มีแรงบันดาลใจ ไม่มีแรงจูงใจ แต่หากอยู่ในเมืองคอนกรีต ก็ไม่มีคนที่นางสามารถพูดคุยด้วยได้เลย

นางจำได้ว่าสมัยก่อนมีเพื่อนคนหนึ่งอิจฉาชีวิตนาง บอกว่านางสามารถทำทุกอย่างได้ตามใจปรารถนา ไม่มีใครมาก้าวก่ายชีวิตนาง ไม่ต้องแบกรับความคาดหวังของครอบครัว ไม่ต้องรับผิดชอบภาระของทางบ้าน ไม่ต้องไปยุ่งกับพ่อแม่ที่มักจะดุด่าหรือญาติๆที่ทำตัวน่ารำคาญ นางเป็นนกที่โบยบินอยู่บนท้องนภา ชีวิตมีแต่ความอิสระเสรี......

แต่ใครจะรู้ว่าการที่นางต้องอยู่ตัวคนเดียวนานๆมันน่ากลัวเพียงใด นางกลัวการนั่งอยู่ในบ้านตามลำพัง นางไม่ชอบที่ทุกครั้งที่นางกลับมาบ้านก็เห็นแค่เพียงห้องสี่เหลี่ยมที่เย็นชา

นางวาดฝันว่าจะมีแม่ที่ชอบจู้จี้นาง มีพ่อที่เข้มงวดกับนาง ถึงแม้ว่าความใฝ่ฝันของนางจะขัดกับวิถีชีวิตนาง แต่นางก็รู้สึกสุขใจ อย่างน้อยๆนางก็มีครอบครัว ไม่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป

แต่สิ่งที่นางเคยวาดฝันเอาไว้ ในตอนนี้ นอกจากครอบครัวที่ล่วงลับไปแล้วนางก็มีพร้อมเกือบทุกอย่าง นางมีบ้าน มีคนรัก มีเพื่อน มีเป้าหมายในการมีชีวิตรอดต่อไป

รอนางกลับไป จวนของนางก็คงสร้างเสร็จแล้ว นางจะได้ย้ายกลับจวนเฟิ่งเสียที และยังมีเสด็จอาเก้ารอนางอยู่ มีหลานจิ่วชิงเฝ้าคอยนาง เบื้องหลังนางก็ยังมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ นางจะต้องพาหวังจิ่นหลิงกลับออกไปให้ได้

ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นและความปรารถนาอันแรงกล้า ในที่สุดเฟิ่งชิงเฉินก็พาหวังจิ่นหลิงปีนขึ้นมาถึงด้านบนของหุบเขาได้สำเร็จ

"พวกเราออกมาได้แล้ว" หลังจากวางหวังจิ่นหลิงลงแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็หมดเรี่ยวหมดแรง นางทิ้งตัวลงไปบนพื้น แถมยังเนื้อตัวเปียกโชกราวกับเพิ่งขึ้นมาจากผิวน้ำ นางเหงื่อท่วมตัวจนเส้นผมของนางติดแนบกับใบหน้า......

"พวกเราออกมาได้แล้ว" ระยะทางเพียงไม่กี่ร้อยเมตร แต่สำหรับพวกเขาแล้ว นั่นเหมือนการเดินทางหลายพันลี้ มีเพียงหวังจิ่นหลิงที่รู้ว่าการแบกตนขึ้นมาจากหุบเขา เฟิ่งชิงเฉินต้องลำบากแค่ไหน นางทำในสิ่งที่ผู้หญิงทั่วไปไม่สามารถทำได้

หวังจิ่นหลิงไม่มีผ้าเช็ดหน้า จึงจำต้องใช้แขนเสื้อช่วยเช็ดเหงื่อบนใบหน้าให้กับเฟิ่งชิงเฉิน แต่นางก็ยิ้มและปฏิเสธไป "ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเสื้อของท่านจะเปื้อนเสียเปล่า"

เมื่อพูดจบ เฟิ่งชิงเฉินก็เอาแขนเสื้อของตัวเองมาปาดหน้า แขนเสื้อของนางมีทั้งฝุ่นและคราบต่างๆเกาะอยู่ การเช็ดหน้าครั้งนี้จึงทำให้นางหน้าลายเหมือนลูกแมว

"ขอรับ คุณหนู"

ยอดฝีมือของเผ่าเสวียนเซียวกงไม่แยแสว่าฝู่หลินจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ตราบใดที่ทำให้คุณหนูของพวกเขาพอใจ พวกเขาก็พร้อมทำได้ทุกอย่าง ฝู่หลินที่กำลังวิ่งอยู่ก็แบกรับความซวยไปเสียเถิด

ให้ตายสิ!

ฝู่หลินอยากร้องไห้เหลือเกิน หน้าตาก็เหมือนกัน แต่ทำไมนิสัยถึงได้ต่างกันสุดขั้ว?

เฟิ่งชิงเฉินซื่อตรงและใจกว้าง แม้จะดูเป็นขวานผ่าซาก แต่ก็ยังมีเหตุมีผล ส่วนผู้หญิงที่อยู่ตรงนี้ มีใบหน้าคล้ายคลึงเฟิ่งชิงเฉิน แต่ความประพฤติต่างจากนางราวฟ้ากับเหว

ฝู่หลินคิดว่า สิ่งที่เขาเสียใจมากที่สุดในชีวิตนี้ก็คือการได้มาเจอเฟิ่งชิงเฉิน หากเขาไม่รู้จักกับนางก็คงจะไม่มาซวยเช่นนี้

"เฟิ่งชิงเฉิน?" พลันฝู่หลินก็ได้หันไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวแปลกตา นางกำลังแบกร่างคนๆหนึ่งไว้บนหลัง เขามองแวบเดียวก็รู้แล้วว่านั่นคือผู้ใด

ปัดโธ่ อีกเดี๋ยวค่อยเห็นนางไม่ได้หรืออย่างไร?

เฟิ่งชิงเฉินแทบอยากจะเย็บปากของฝู่หลินในทันที เพราะการที่ฝู่หลินตะโกนเรียกชื่อนาง มันเป็นการเผยที่ซ่อนของนางและหวังจิ่นหลิง......

"นั่นคุณชายใหญ่นี่ รีบตามไปเร็วเข้า อย่าให้พวกเขาวิ่งหนีนะ เชอะ......เจ้าคนบ้า บังอาจโกหกข้า ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องรู้จักคุณชายใหญ่ คนที่ไม่รู้จักคุณชายใหญ่ไม่มาถึงที่นี่หรอก" เซวียนเฟยรีบตามไปดูอย่างรวดเร็ว มองจากด้านหลังก็รู้แล้วว่าผู้ที่ถูกแบกร่างนั้นคือหวังจิ่นหลิง ทำให้นางกระหยิ่มยิ้มย่องในทันที......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ