นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 591

ตั้งแต่เล็กจนโต เซวียนเฟยถูกเอาอกเอาใจมาโดยตลอด ผู้คนรอบข้างไม่กล้าที่จะขัดใจ หัวหน้าเผ่าเสวียนเซียวไม่กล้าทำให้นางต้องรู้สึกคับข้องใจแม้แต่น้อย และไม่เคยจะกล่าววาจารุนแรงต่อนางแม้แต่ประโยคเดียว ไม่ว่านางต้องทำสิ่งใดล้วนปล่อยให้นางทำ

อย่าว่าแต่ถูกกระสุนยิงเข้าที่ข้อมือและขา แม้แต่นิ้วของเซวียนเฟยถลอกเพียงเล็กน้อย ในเผ่าเสวียนเซียวกงก็วุ่นวายไปทั่ว

บัดนี้ทั้งมือและเท้าของนางถูกเฟิ่งชิงเฉินทำร้ายเสียจนได้รับบาดเจ็บ ประกอบกับท่าทางของเฟิ่งชิงเฉิน ทำให้เซวียนเฟยรู้สึกว่าบาดแผลเจ็บยิ่งไปกว่าเดิม นางกอดมือกอดเท้าของตัวเองเอาไว้แล้วกลิ้งลงไปที่พื้นร้องไห้น้ำตานองหน้าช่างน่าสงสารยิ่งนัก

แต่ในครั้งนี้แม้นางได้รับความอับอายน้อยเนื้อต่ำใจมากมายเพียงใด ผู้คนรอบข้างของนางกลับไม่มีใครออกมาเผชิญหน้าแทน เซวียนเฟยจะอดทนได้อย่างไร ดังนั้นนางจึงอ้าปากตะโกนใส่เฟิ่งชิงเฉินว่า “นังผู้หญิงสารเลว แน่จริงแกก็ฆ่าข้าสิ ไม่เช่นนั้น ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้เป็นแน่ นังผู้หญิงสารเลว ข้าจะตัดแขนขาของเจ้า ควักลูกตาของเจ้าออกมาแล้วตัดปลายจมูกทิ้งไปเสีย ตัดลิ้นของเจ้าด้วย ข้าจะให้เจ้าพิการไปเสีย ให้เจ้าต้องทรมานดังเช่นตายทั้งเป็น ไม่สิ......ข้าจะกรีดใบหน้าของเจ้าให้เป็นรอย จากนั้นโยนเจ้าลงไปในเตาเผา ให้เจ้า......”

“หนวกหูยิ่งนัก หากยังไม่หยุดร้องโวยวายอีกล่ะก็ ข้าจัดการกับแขนอีกข้างหนึ่งของเจ้าเสีย!” ปัง! เฟิ่งชิงเฉินไม่ออมมือแม้แต่น้อย นางยิงไปที่ขาอีกข้างหนึ่งของเซวียนเฟย

“กรี๊ด!” ในครั้งนี้เซวียนเฟยร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ครานี้นางไม่กล้าตะโกนดุด่าหรือแม้แต่ร้องไห้ออกมา

ผู้คุ้มกันที่อยู่ข้างกายของเซวียนเฟย หลายต่อหลายครั้งที่พยายามชักดาบออกมา แต่กลับถูกท่าทางเหนี่ยวไกของเฟิ่งชิงเฉินทำให้ตกใจจนไม่กล้าทำสิ่งใดต่อ ทำได้เพียงยืนจ้องมองไปที่เฟิ่งชิงเฉินอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ

เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้าด้วยความพร้อมหกพอใจ นางอาศัยอยู่ในเมืองหลวงมาเป็นเวลานานแล้ว แต่สตรีที่จิตใจโหดร้าย อย่างเช่นเซวียนเฟย เฟิ่งชิงเฉินไม่เคยเห็นมาก่อน

อีกทั้งยังเป็นคุณหนูใหญ่แห่งเผ่าเสวียนเซียวกงดูหยาบคายยิ่งกว่าสตรีในหมู่บ้านธรรมดาเสียด้วยซ้ำ “คนเยี่ยงเจ้าคิดอยากจะแต่งงานกับคุณชายใหญ่ เจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะเป็นบ่าวรับใช้ของคุณชายใหญ่เสียด้วยซ้ำ!”

สิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินกล่าวนั้นเป็นความจริง แต่เซวียนเฟยกลับไม่คิดเช่นนั้น ใบหน้าอันดูบอบบางของนางบิดเบี้ยว 36 ขุนพลสวรรค์ไม่กล้าแม้แต่จะขยับเขยื้อน ส่วนตัวนางเองก็ไม่อาจลุกขึ้นยืนได้ นางหันไปกุมแส้ที่อยู่ข้างกายตั้งใจจะฟาดแส้นี้ไปที่เฟิ่งชิงเฉินยามทีเผลอ แต่เมื่อมือของนางเพิ่งจะกำไปที่แส้ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง

มีคนกำลังมา!

ใบหน้าของเซวียนเฟยยิ้มแย้มขึ้นและหัวเราะดังลั่น “ฮ่าๆ ๆ ! นังผู้หญิงโง่ แกตายแน่ พี่รองของฉันกำลังมาอย่างแน่นอน ต้องเป็นพี่รองของฉันแน่ หากมีพี่รองของฉันเข้ามาช่วยล่ะก็ อาวุธของแกเก่งกาจเพียงไรก็ไร้ผล!”

เอ๋ ดูเหมือนจะมิใช่เช่นนั้น?

เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาขึ้นเรื่อยๆ ฟังดูก็รู้ได้ทันทีว่ามีคนมากมาย และคนเหล่านั้นไม่ได้ถูกส่งมาเพื่อรับนาง เพราะคนที่ทางจวนเซียวชินอ๋องส่งออกมาคงไม่มากมายเพียงนี้ คาดว่าของจะเป็นคนจากเผ่าเสวียนเซียวกง

ซวยเสียจริง! เฟิ่งชิงเฉินกำปืนเอาไว้ในมือ ฝ่ามือของนางเต็มไปด้วยเหงื่อ เฟิ่งชิงเฉินจ้องไปที่เซวียนเฟยและคนข้างกายของนาง กำลังมองหาโอกาสว่าจะสามารถจับเซวียนเฟยมาเป็นตัวประกันได้หรือไม่

จะก่อกบฏต้องจับกษัตริย์ได้ก่อน หากว่ามีเซวียนเฟยอยู่ในกำมือ ต่อให้หัวหน้าเผ่าเสวียนเซียวกงเดินทางมาเองนางก็ไม่กลัว แต่ว่า......ทั้งเซวียนเฟยและ 36 ขุนพลสวรรค์ที่อยู่ข้างนางดูเหมือนจะเตรียมพร้อมป้องกันมาก่อนหน้าแล้ว แม้ว่าทั้ง36 ขุนพลสวรรค์จะไม่กล้าขยับเขยื้อน แต่ตัวนางก็ไม่กล้าขยับเขยื้อนเช่นกัน ดังนั้นนางจึงไม่มีโอกาสเลย

นางจะทำเช่นไรดี?

สีหน้าของเฟิ่งชิงเฉินดูเคร่งขรึม คิ้วของนางขมวดเข้าหากัน ท่าทางของนางเช่นนี้ทำให้เซวียนเฟยรู้สึกพอใจยิ่งนัก รอยยิ้มอันเย่อหยิ่งปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซวียนเฟย นางลืมความเจ็บปวดบนร่างกายไปจนสิ้น “สตรีน่ารังเกียจ บัดนี้เจ้าคงเข้าใจแล้วใช่หรือไม่ว่าการที่จะเป็นปรปักษ์ต่อข้าจะพบกับจุดจบเช่นไร ข้าจะบอกเจ้าให้ว่าคนที่ทำให้ข้าต้องขุ่นเคืองใจล้วนไม่มีจุดจบอันดี แต่เจ้าวางใจได้ ดูเหมือนว่าคุณชายใหญ่จะให้ความสำคัญกับเจ้านัก ก่อนที่คุณชายใหญ่จะแต่งงานกับข้า แน่นอนว่าข้าจะไม่ฆ่าเจ้า แต่ข้าจะคอยทรมานเจ้าต่อไปเรื่อยๆ ข้าจะส่งชายร่างกายกำยำมาเพลิดเพลินกับเจ้า......”

เมื่อกล่าวถึงจุดนี้เซวียนเฟยก็เงียบเสียงลงทันใด ริมฝีปากของนางตกตะลึงอ้าปากค้างมองไปยังด้านหลังของเฟิ่งชิงเฉิน ราวกับไม่เชื่อสายตาของตนเอง

เกิดเรื่องใดขึ้นกัน?

เฟิ่งชิงเฉินหันหลังให้กับทิศทางของผู้ที่กำลังเดินทางมา เมื่อนางเห็นท่าทางของเซวียนเฟยก็อดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับไปมองดู จากนั้นนางก็ตกตะลึง

เป็นไปได้อย่างไร?

เขามาได้อย่างไร? อีกทั้งยังนำทหารและม้าจำนวนมากมายมาด้วย เขามาที่นี่เพราะนางหรือ?

เฟิ่งชิงเฉินยื่นมือออกไปทางผู้ที่อยู่ตรงหน้า นางอ้าปากแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมาเป็นเวลาเนิ่นนาน จมูกของนางแดงเรื่อขึ้น ในตาราวกับมีหมอกปกคลุมทันใด

“เสด็จอาเก้า เหตุใดท่านจึงเพิ่งมา?”

กล่าวได้ว่านางทั้งดีใจและกำลังออดอ้อนเขา นางเคยจินตนาการมาก่อนว่าคนจากตระกูลหวังจะเดินทางมาช่วยนาง เคยจินตนาการว่าคนจากจวนเซียวชินอ๋องจะเดินทางมาหานาง และเคยคิดว่าคนของเสด็จอาเก้าจะเดินทางมา มีเพียงสิ่งเดียวที่นางคิดไม่ถึงนั่นก็คือเสด็จอาเก้าจะเดินทางมาด้วยตนเอง อีกทั้งยังนำกองทัพมาสนับสนุนนางด้วย

ชั่วพริบตา เพียงชั่วพริบตาเท่านั้น บาดแผลบนร่างกายของนางดูเหมือนไม่เจ็บปวดอย่างน่าอัศจรรย์ ในใจของนางมีฟองอากาศเล็กๆ ผุดขึ้นนับไม่ถ้วน มีความรู้สึกที่เรียกว่าความสุขผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

มีน้ำตาปรากฏขึ้นในดวงตาของเฟิ่งชิงเฉิน รอยยิ้มของนางดูสดใสและมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น

นางสัมผัสได้ถึงความรู้สึกถูกทะนุถนอม และให้ความสำคัญหวงแหน

คนที่นางไม่กล้าแม้แต่จะคิด กลับมาปรากฏกายตรงหน้านางเช่นนี้ทำให้นางดีใจยิ่งนัก

หากไม่ใช่เพราะสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย นางคงจะเข้าไปกอดเสด็จอาเก้าเอาไว้แล้วบอกให้เขารู้ว่านางรู้สึกดีใจเพียงใด

“เสด็จอาเก้า......”

ตรงกันข้ามกับความตื่นเต้นตื้นตันใจของเฟิ่งชิงเฉิน แววตาอันเยือกเย็นของเสด็จอาเก้าเหลือบมองไปทางเฟิ่งชิงเฉินราวกับว่าเขาไม่ได้ยินประโยคของนางเมื่อสักครู่ ท่าทางอันเย่อหยิ่งไม่แยแสของเขาราวกับในครั้งแรกที่เคยพบกัน สายตาของเขาไม่เห็นเฟิ่งชิงเฉินอยู่ในสายตา

ร่างของเฟิ่งชิงเฉินสั่นคลอนเล็กน้อย

เสด็จอาเก้าโมโหแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ