มีเสด็จอาเก้าอยู่ข้างกายเช่นนี้ แม้ว่าจะเป็นคืนเดือนดับ เฟิ่งชิงเฉินก็มิรู้สึกเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งเรื่องราวในระหว่างทาง เฟิ่งชิงเฉินหาได้จำเป็นต้องไปสนใจไม่ นางเพียงแต่ตั้งใจฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของตนเองก็เพียงพอแล้ว หากว่านางเบื่อหน่ายเมื่อใด ก็หันไปดูตำราการแพทย์ที่เสด็จอาเก้าสรรหามาให้นางแทน
เสด็จอาเก้าผู้นี้ เป็นคนที่รู้จักเอาใจใส่คนหนึ่งเลยเช่นกัน เขาสามารถทำให้คนหนึ่งได้รับความโปรดปรานมากมายเสียจนแทบเทียมฟ้า ทั้งยังสามารถทำให้คนเหล่านั้นถูกหลงใหลเสียจน เกือบหลงลืมตัวตนของตนเองไปได้ด้วยช่นเดียวกัน
หากจะพูดว่านางไม่ซาบซึ้งใจนั้น ก็นับว่าเป็นเรื่องโกหก แต่ทว่า เฟิ่งชิงเฉินหาได้หลงใหลไปกับความโปรดปรานที่เสด็จอาเก้ามอบให้นางไม่ อีกทั้งนางยังมิคิดว่า เสด็จอาเก้าจะหลงใหลนางเสียจน ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวในราชสำนักหรือเรื่องราวในเมืองหลวงได้ด้วยเช่นกัน
ตำราแพทย์ในมือของนางนั้น ผ่านไปได้ครึ่งวันก็ยังมิถูกพลิกไปที่หน้าใดเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าสายตาของเฟิ่งชิงเฉินจะจับจ้องไปที่หน้าตำรา แต่ทว่าจิตใจของนางกลับลอยฟุ้งซ่านไปไกลเสียแล้ว
นางรู้ดีว่า เสด็จอาเก้ามิใช่ผู้ที่จะหลงใหลในตัวตนของผู้ใด แล้วลืมภารกิจหน้าที่ที่ตนต้องรับผิดชอบไปได้ ไม่ผิดที่เสด็จอาเก้าจริงใจและหลงรักนาง แต่ทว่าเสด็จอาเก้าก็มีจุดประสงค์อื่นในการเข้าหานางด้วยเช่นกัน เสด็จอาเก้าเชี่ยวชาญในด้านการเข้าหาผู้อื่นพร้อมทั้งใช้ประโยชน์ผู้อื่นได้ชำนาญการยิ่งนัก
หากเป็นแต่ก่อน นางมิค่อยกล้ามั่นใจในเรื่องนี้มากนัก แต่ทว่า เมื่อนางเห็นคำว่าบัวหิมะพันปีขึ้นมานั้น มันก็ทำให้เฟิ่งชิงเฉินอดคิดมิได้
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า เสด็จอาเก้าต้องการต่อกรกับเผ่าเสวียนเซียวกง การที่เสด็จอาเก้าทำลายใบหน้าของเซวียนเฟยนั้น ย่อมหมายความว่าเสด็จอาเก้ามีแผนมารองรับในการกระทำของตนเองแล้ว
รูปลักษณ์ของนางและเซวียนเฟยที่ดูคล้ายคลึงกันนั้น เกรงว่าจะเป็นอาวุธอีกชนิดหนึ่งของเสด็จอาเก้าเช่นกัน มิเช่นนั้นเสด็จอาเก้าคงมิทำลายใบหน้าของเซวียนเฟยให้มากเรื่อง การปลิดชีพเซวียนเฟยย่อมง่ายดายกว่าอยู่แล้ว
เสด็จอาเก้าและท่านผู้นำเสวียนเซียวกงได้ทำการปะทะกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งการประมือกันในรอบแรกก็ได้ถูกเริ่มขึ้นไปแล้วเช่นกัน สนามรบย่อมต้องเป็นที่เมืองหลวงของตงหลิง เมื่อรู้ว่าสนามรบของที่พวกเขาทั้งสองเลือกไว้ คือเมืองหลวงของตงหลิงนั้น เฟิ่งชิงเฉินก็อดที่จะรู้สึกผ่อนคลายออกมาไม่ได้
สนามรบของนาง เป็นนางที่ได้เปรียบทั้งขึ้นทั้งร่องเช่นนี้ เผ่าเสวียนเซียวกงก็ปล่อยม้าดีเข้ามาเถอะ!
เมื่อเสด็จอาเก้าเห็นเฟิ่งชิงเฉินที่นั่งอยู่ตรงหน้าของตน ตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิดของตนเองเช่นนั้น เขาก็รู้สึกพอใจยิ่งนัก
สตรีที่เขาถูกใจ ย่อมไม่วันหลงลืมตัวตนเพียงเพราะความโปรดปรานเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้เป็นอันขาด อีกทั้งยังไม่มีความคิดเป็นของตัวเองด้วยเช่นกัน เฟิ่งชิงเฉินที่เป็นเช่นนี้นับว่าดียิ่งนัก ประหยัดเวลาที่เขาต้องจัดการปัญหาไปมากเลยทีเดียว
เขารู้ดีว่าเรื่องเช่นนี้ หากเขาไม่พูดออกมา เฟิ่งชิงเฉินก็สามารถเข้าใจได้ อีกทั้งนางยังให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีด้วย นั่นหมายความว่าพวกเขาเป็นคนจำพวกเดียวกัน
ผ่านไปได้สามวัน เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินก็กลับมาทันหิมะแรกของตงหลิงในทันที ยามที่กลับมาถึงเมืองหลวงนั้น องค์รัชทายาทก็ได้มีการนำกำลังพลมารอต้อนรับที่หน้าประตูเมืองแล้ว
ในยามนี้ ทางด้านหน้าประตูเมืองจึงมีความคุ้มกันอย่างหนาแน่นยิ่งนัก เพื่อกีดกันไม่ให้ราษฎรเข้าออกหน้าประตูเมือง ทั้งสองข้างทางของถนนใหญ่ในตัวเมืองนั้น ต่างก็เต็มไปด้วยองครักษ์มากมายที่ถือดาบ ยืนเรียงแถวหน้ากระดานคอยคุ้มกันด้วยท่าทีองอาจยิ่งนัก
เมื่อรู้ว่าเสด็จอาเก้าออกไปปราบโจรกลับมา พร้อมกับของรางวัลมากมายนั้น ไม่ว่าจะคิดเห็นเช่นไร ก็เป็นเสด็จอาเก้าที่ได้รับชัยกลับมา ทั้งยังได้รับแรงสนับสนุนและกำลังใจมากมายเช่นนี้ ดังนั้นไม่ว่าจะเผชิญหน้ากับศึกเช่นไร เขาย่อมผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน
องค์รัชทายาทที่สวมใส่ชุดราชพิธี พร้อมทั้งใส่เสื้อคลุมหนังจิ้งจอกสีขาวเพื่อป้องกันลมหนาวนั้น ยืนอยู่หน้าประตูเมืองหาได้เป็นจุดสนใจไม่
เป็นดั่งที่เฟิ่งชิงเฉินเคยพูดไว้ นี่คือเป้าล่อ หากว่ามีมือสังหารลอบเข้ามานั้น แม้ปิดตาพวกเขาก็สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าเป้าหมายของตนอยู่ที่ใด
เมื่อรถม้าของเสด็จอาเก้าหยุดเคลื่อนไหวไปได้ไม่นาน องค์รัชทายาทก็สั่งให้กลุ่มข้าราชบริพารพร้อมทั้งขุนนางน้อยใหญ่คุกเข่า พร้อมกล่าวต้อนรับเสด็จอาเก้าว่า "ยินดีต้อนรับเสด็จอากลับสู่เมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ"
"ยินดีต้อนรับเสด็จอาเก้ากลับสู่เมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ!" นอกจากองครักษ์ที่ยืนอยู่ทั้งสองข้างทางและองค์รัชทายาทนั้น ทุกคนที่เหลือจึงต้องนั่งคุกเข่าทั้งหมด เพื่อรั้งรอเสด็จอาเก้าลงจากรถม้า
แม้ว่าหิมะจะโปรยปรายลงมาก็ตาม ทว่า อาภรณ์ของเสด็จอาเก้าที่เข้ารูป รวมไปถึงเนื้อผ้าสีดำที่ปลิวไปตามแรงลมนั้น กลับขับให้เสด็จอาเก้าดูสง่างามและเคร่งขรึมยิ่งนัก
เมื่อเสด็จอาเก้าเดินลงมาจากรถม้านั้น หาได้ส่งสัญญาณให้ทุกคนลุกขึ้นยืนไม่ พลันหันหลังกลับไปพยุงเฟิ่งชิงเฉินให้เดินลงมาจการถม้าแทน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...