สรุปเนื้อหา บทที่ 608 ต้องฆ่า โทษฐานทำให้มหาเทพไม่พอใจ – นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
บท บทที่ 608 ต้องฆ่า โทษฐานทำให้มหาเทพไม่พอใจ ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาช้าย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
เมื่อเส้นขอบฟ้าทางทิศตะวันออกปรากฏดวงดาวที่สว่างวาบ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณเชิงเขาหลีซานภายในรัศมีร้อยลี้ต่างแตกตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะถูกปลุกด้วยเสียงดังกัมปนาท
ตูม......ตูม
เสียงนั้นปรากฏครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงนั้นดังสะท้านกลีบเมฆ ชาวบ้านต่างพากันลุกจากที่นอนแล้ววิ่งออกมาดูโดยไม่มีเวลาที่จะสวมเสื้อคลุม เพราะพวกเขากลัวว่าหากออกมาช้าแม้แต่เพียงก้าวเดียวก็อาจจะไม่มีโอกาสได้ลุกเดินอีกต่อไป
"รีบวิ่งเร็วเข้า รีบวิ่งเร็ว พญาวัวใต้พสุธาพลิกตัวแล้ว"
"สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองข้าด้วย......"
......
แต่ละคนต่างวิ่งไปวิ่งมาชุลมุน คนนั้นเหยียบคนนี้ คนนี้เบียดคนนั้น เสียงร่ำไห้ เสียงโหวกเหวกมีมาไม่ขาดช่วง
นอกจากเชิงเขาหลีซานแล้ว พื้นที่อื่นๆก็เกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกัน ราวกับว่านัดหมายกันมาก่อน และภูเขาที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงไม่มากนักก็มีเสียงอึกทึกเกิดขึ้น เสียงระเบิดดังขึ้นไม่ขาดสาย ทำเอาแก้วหูของผู้คนเกือบทะลุ
"ไม่ใช่พญาวัวใต้พสุธาพลิกตัวเสียหน่อย แต่เป็นฟ้าร้องต่างหากล่ะ" บ้างก็ตะโกนขึ้นมาเถียง เสียงนั่นเสียงนี่ทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญแขวนขึ้นเรื่อยๆ
"ฟ้าร้องหรือ? ฤดูหนาวเช่นนี้จะมีฟ้าร้องได้อย่างไร มหาเทพบนสวรรค์บันดาลให้ฟ้าร้องท่ามกลางฤดูหนาว นี่ก็เท่ากับว่าจะมาเอาชีวิตพวกเราใช่หรือไม่"
"พวกเจ้าดูนั่นสิ ดูตรงนั้น เขาปานซานมีไฟปะทุขึ้น มีควันโขมงเต็มไปหมด แถมไฟก็ลูกใหญ่เสียด้วย" หนึ่งในนั้นมีชายผู้หนึ่งที่ยังพอมีสติสังเกตสิ่งรอบตัว เขาชี้ไปที่ภูเขาด้านหน้าแล้วตะโกนออกมา เมื่อคนอื่นๆพากันมองตามแล้ว ชายผู้นี้ก็หันไปทางที่มีไฟปะทุ พร้อมกับคุกเข่าลงแล้วก้มคำนับจนหน้าผากแตะพื้น
"มหาเทพกำลังพิโรธหนัก จึงส่งลูกไฟมาที่นี่ พวกเราไม่รอดแน่ พวกเราไม่รอดแน่"
"สวรรค์คงต้องการจะสื่อว่า มหาเทพกำลังไม่พอใจ จะต้องมีคนทำเรื่องที่ชั่วช้า มหาเทพจึงได้ไม่พอใจถึงเพียงนี้"
"มหาเทพโกรธแค้น พวกเราไม่รอดแน่"
ชายผู้นั้นคำนับไปตะโกนไป คนอื่นๆก็พากันทำตาม บ้างตะโกน บ้างร่ำไห้ แต่ละคนต่างมองว่าระเบิดที่เกิดขึ้นกะทันหัน จะต้องเป็นเพราะมหาเทพขุ่นเคือง เป็นการกล่าวเตือนจากสวรรค์
ชายที่นำพาชาวบ้านร้องตะโกนคนดังกล่าวอาศัยจังหวะที่ชาวบ้านตื่นตระหนกหายตัวไปจากที่นั่น ชาวบ้านที่กำลังโกลาหลไม่มีใครได้ทันสังเกตเลยว่าชายผู้นี้ไม่ใช่คนในหมู่บ้านของตนเอง
ไม่เพียงแต่เขาปานซานและเขาหลีซาน หมู่บ้านหรือชุมชนอื่นๆที่ได้ยินเสียงปะทุของระเบิดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามหาเทพขุ่นเคือง มหาเทพมากล่าวเตือน มหาเทพไม่พอใจ ไม่พอใจผู้ใดล่ะ? ก็ต้องเป็นฮ่องเต้องค์นั้นน่ะสิ
ความโกลาหลได้เกิดขึ้นรอบๆเมืองหลวงตลอดทั้งคืน แต่คนในเมืองหลวงกลับไม่ได้ยินเสียงใดๆแม้แต่น้อย เมื่อยามฟ้าสาง เมืองเล็กๆเหล่านั้นก็เกิดความวุ่นวายขึ้นมา พวกชาวบ้านอกสั่นขวัญแขวน และรวมตัวกันมาเรียกร้องกับทางการ
ในขณะเดียวกัน นักเล่าเรื่องจากเมืองทางตอนเหนือและตอนใต้ก็เริ่มเล่าเรื่องมหาเทพขุ่นเคือง โดยกล่าวเป็นนัยๆว่ามีคนกระทำเรื่องชั่วช้า ทำให้มหาเทพไม่พอใจ "คน" คนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากฮ่องเต้
เรื่องเล่าเหล่านี้แพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับมีปีกที่สามารถโผบินไปทั่วท้องฟ้าภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วยาม แม้จะโบยบินไปไกลเป็นพันลี้ แต่ต้นตอของเรื่องราวกลับยังไม่มีใครสืบค้น
เมื่อทางการได้ยินข่าวนี้แล้วก็เริ่มมีการซักไซ้เอาความ แต่ยิ่งซักไซ้ก็ยิ่งมากคนมากความ และหลังจากนั้นไม่นานนัก คำว่า "ไม่สงบ" ก็ปกคลุมไปทั่วทั้งตงหลิง
ทหารนำสารจากพื้นที่ที่ห่างไกลออกไป 800 ลี้มุ่งหน้าไปส่งข่าวให้เมืองหลวงเป็นการด่วน แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ปกติกองกำลังเหล่านี้จะเดินทางมาได้อย่างราบรื่น แต่วันนี้กลับพบเจออุปสรรคมากมาย มีทั้งสะพานขาด ต้นไม้ใหญ่ล้มลงมาขวางทาง และสิ่งที่กวนใจมากกว่านั้น ก็คือมีหินก้อนยักษ์ปรากฏอยู่บนเส้นทางเดิน ดูเหมือนว่าหินก้อนนั้นจะฝังอยู่ในดิน ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2 วันในการขนย้าย
น้องเก้า มันสายไปแล้วล่ะ
วินิจฉัยได้เป็นอย่างดีงั้นหรือ? หึ......
สายตาของฮ่องเต้ดูเย้ยหยัน แต่ทว่าน้ำเสียงกลับอ่อนโยน "น้องเก้า หากมองในแง่ของเครือญาติ ข้ากับเจ้าก็เป็นพี่เป็นน้องกัน คนเป็นน้องก็ควรเชื่อฟังพี่ และในแง่ของบ้านเมือง ข้าเป็นฮ่องเต้ เจ้าเป็นคนในปกครองของข้า ควรเชื่อฟังผู้นำจึงจะถูก"
"ที่ผ่านมาเจ้าอาจเคยแข็งข้อกับข้า แต่ข้าก็เห็นแก่อดีตฮ่องเต้ จึงเมตตาเจ้ามาตั้งแต่เจ้ายังเด็ก แต่เจ้ากลับแข็งข้อหนักขึ้นทุกวัน เมื่อวานนี้ไม่เพียงแต่หยามหมิ่นข้า แต่ยังข่มขู่ข้าอีกต่างหาก ต่อให้ข้าจะเมตตาเจ้ามากเพียงใด แต่ฟ้าดินคงไม่เมตตาเจ้าเป็นแน่ น้องเก้า เจ้าคิดว่าข้าควรทำอย่างไรกับเจ้าดี?"
คำพูดของฮ่องเต้ไม่มีช่องว่างสำหรับเสด็จอาเก้าเลย มีแต่กดดันให้เสด็จอาเก้าต้องจนมุม ส่วนเฟิ่งชิงเฉิน ฮ่องเต้มองว่านั่นเป็นผลพลอยได้ หากไม่มีเสด็จอาเก้าคอยหนุนหลัง เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่มีอะไรเหลือ
เสด็จอาเก้ายังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เขาสบตากับฮ่องเต้ แววตาของเขาเยือกเย็นเหมือนน้ำนิ่ง ฮ่องเต้มองว่านี่คือการแสดงออกของผู้แพ้
ฮ่องเต้พยายามข่มความเปรมปรีดิ์ไว้ในใจ เขาทำสีหน้าเหมือนขมขื่น แถมน้ำเสียงก็ฟังดูเศร้าสลด "ทหาร มานำตัวอ๋องเก้าไปคุมขัง แล้วให้ลงโทษไปตามกฎ"
"พ่ะย่ะค่ะ!" ทหารจำนวนหนึ่งมารอท่าอยู่ด้านนอกนานแล้ว พวกเขาปรี่เข้ามาหาเสด็จอาเก้า "เสด็จอาเก้า เชิญเสด็จพ่ะย่ะค่ะ!"
เหอะๆ......เสด็จอาเก้าแสยะยิ้ม เสด็จพี่ของเขาวางแผนได้ไม่เลวเลยจริงๆ แต่ละขั้นตอนเตรียมการอย่างถี่ถ้วน ต่อให้ตอนนี้เขาป่าวประกาศออกไปว่าฮ่องเต้ข่มขู่เขา ฮ่องเต้ต้องการนำโลงศพของแม่เขาย้ายออกไปจากสุสานหลวงก็คงจะไม่มีผู้ใดเชื่อ ตอนนี้เขาเข้ามาติดกับของฮ่องเต้เรียบร้อยแล้ว จะหาทางหนีคงไม่ง่าย
ส่วนเรื่องการลงไม้ลงมือก็ยิ่งไม่สมควรเข้าไปใหญ่ หากเขาลงไม้ลงมือขึ้นมา คราวนี้เขาได้กลายเป็นนักโทษเต็มตัวแน่ หากมองไกลกว่านั้น ต่อให้ฮ่องเต้สังหารเขา ก็ไม่มีใครกล้าโวยวายอยู่แล้ว
เสด็จพี่ รับสั่งของท่านน้องจะขอรับไว้ก่อน เสด็จอาเก้ายิ้มอย่างมีเลศนัย เขาหันไปคำนับฮ่องเต้ แล้วตอบกลับไปเพียงสั้นๆว่า "น้อมรับพระบัญชา!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...