สรุปตอน บทที่ 619 ฝู่หลิน จิ่นหลิงบอกว่า... – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
ตอน บทที่ 619 ฝู่หลิน จิ่นหลิงบอกว่า... ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
“เกิดอะไรขึ้น เฟิ่งชิงเฉินถูกทหารล้อมอีกแล้วหรือ”
ตี๋ตงหมิงพาทหารกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา เครื่องทหารอันองอาจบนตัวเขากลับดูมีความขี้เล่นเล็กน้อยซ่อนอยู่ เฟิ่งชิงเฉินเลิกคิ้ว ครั้งนี้ตี๋ตงหมิงจะมาไม้ไหนอีก?
“คารวะท่านชาย” เมื่อองครักษ์เห็นผู้ที่มาก็มีสีหน้าบิดเบี้ยวขึ้นทันที ไม่ง่ายเลยกว่าจะทำให้แม่นางเฟิ่งมีท่าทีอ่อนข้อให้ แต่ดันมีคนที่รับมือยากโผล่ออกมาอีก ราชองครักษ์แอบปวดหัวแต่ก็ยังทำความเคารพตามมารยาท
ตี๋ตงหมิงโบกมือด้วยท่าทางคุณชายเจ้าสำราญและไม่ได้ใส่ใจกับคำถามของเฟิ่งชิงเฉิน เขาก้าวเข้าไปแทรกอยู่ระหว่างเฟิ่งชิงเฉินกับฝู่หลิน
ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ เมื่อไหล่ของตี๋ตงหมิงกระตุกทีหนึ่งก็ดันฝู่หลินไปอีกด้าน เมื่อฝู่หลินเซไป คนของตี๋ตงหมิงก็แยกตัวเขาไว้ แม้เฟิ่งชิงเฉินจะไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา นางเชื่อว่าการกระทำของตี๋ตงหมิงของมีเหตุผลรองรับ
“เฟิ่งชิงเฉิน ไปเถอะๆๆ ไม่ใช่ว่าเจ้าจะเลี้ยงเหล้าพวกเราหรอกหรือ พอดีเลย ข้าพบคนของซุ่นเทียนฝู่พอดี พวกเราไปดื่มด้วยกันเถอะ” ตี๋ตงหมิงไม่ให้เฟิ่งชิงเฉินได้เอ่ยปาก เขากึ่งดึงกึ่งลากนางไปและทิ้งฝู่หลินให้เผชิญหน้ากับเหล่าทหาร
นี่มันเรื่องอะไรกัน ท่านชายไม่ได้มาช่วยสนับสนุนเฟิ่งชิงเฉินแต่มาช่วยพวกเขาหรอกหรือ?
ไม่ว่าอย่างไรตี๋ตงหมิงก็ลากเฟิ่งชิงเฉินไปแล้ว หากทหารองครักษ์จะจับฝู่หลินก็ไม่มีคนขัดขวางแล้ว พวกเขาจึงจับตัวฝู่หลินไปส่งยังคุกของซุ่นเทียนฝู่ ส่วนฝู่หลินก็เป็นผู้ฉลาด เขารู้ว่านางจะปกป้องเขานั้นยากมากจึงไม่ได้พูดอะไร อย่างไรเชาก็ปรากฏตัวต่อหน้าเฟิ่งชิงเฉินแล้ว ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องปกป้องเขา ต้องรู้ว่าผู้ที่ตัวตนไม่ชัดเจนเช่นเขาเป็นผลร้ายถึงที่สุดต่อเสด็จอาเก้า
เฟิ่งชิงเฉินยอมให้ตี๋ตงหมิงลากตัวอย่างให้ความร่วมมือจนกระทั่งเมื่อพ้นจากสายตาของทหารเหล่านั้นแล้ว เฟิ่งชิงเฉินจึงสะบัดมือที่จับแน่นของเขาออก “ตี๋ตงหมิง เจ้ารู้จักฝู่หลิน?”
เอาเถอะ ที่จริงนางก็สงสัยฝู่หลิน ดังนั้นจึงได้เล่นไปตามน้ำให้ตี๋ตงหมิงพาตัวนางมา
ช่วยไม่ได้ ฝู่หลินปรากฏตัวได้อย่างเหมาะเจาะเกินไป ไม่ใช่ว่านางชอบคิดแต่ในแง่ร้าย แต่หากจะบอกว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ ให้ตายอย่างไรนางก็ไม่เชื่อว่าในโลกนี้จะมีเรื่องบังเอิญอะไรเพียงนั้น
ในฐานะผู้ที่ถูกทหารจับตัว ฝู่หลินไม่ใช่คนโง่เขลาเบาปัญญา เหตุใดจึงได้วิ่งออกมาทางถนนใหญ่ อีกทั้งบนถนนยังมีคนมากมายถึงเพียงนี้ เขาจะชนใครก็ไม่ชนแต่กลับมาชนนางเข้าเสียนี่
“ไม่รู้จัก แต่เคยได้ยินจิ่นหลิงเอ่ยถึง จิ่นหลิงบอกว่าเขาเป็นเจ้าของหมาดำชางซานเพิ่งได้รู้จักเจ้าและไปช่วยชีวิตจิ่นหลิงด้วยกัน” ตี๋ตงหมิงขจัดภาพคุณชายเจ้าสำราญออกและโบกมือให้ทหารรอบตัวถอยออกไปพลางเดินไปข้างหน้ากับเฟิ่งชิงเฉิน
คนที่อยู่ข้างหลังห่างกับพวกเขาสิบกว่าก้าว ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจแยกตัวคนที่อยู่บนถนนออกไป เช่นนี้เมื่อทั้งสองสนทนากันจึงจะไม่ถูกผู้อื่นได้ยินเข้าโดยง่าย พวกเซี่ยหว่านก็เดินตามอยู่ข้างหลังด้วยใบหน้าขมขื่น
คุณหนูของพวกนางเดินไม่เหนื่อย แต่พวกนางเหนื่อย!
แน่นอนบนท้องถนนไม่ใช่สถานที่เหมาะสมที่จะสนทนา ทั้งสองคนพูดคุยกันมาถึงตรงนี้ก็หยุดลงมองไปยังโรงน้ำชาที่อยู่ไม่ไกล ทั้งสองคนจึงมุ่งหน้าไปยังโรงน้ำชานั้น เมื่อซีหลิงเทียนเหล่ยที่ตามพวกเขามาเห็นดังนั้น เงาร่างของเขากะพริบและหายเข้าไปที่ด้านหลังโรงน้ำชาก่อน
เฟิ่งชิงเฉินตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะออกมาเหมือนพึ่งนึกได้ว่ามีเรื่องเช่นนี้จริงๆ “ข้าไม่เคยรู้เลยว่าเจ้ามีความคิดเช่นนี้ด้วย เหตุใดจึงได้อยากหาม้าให้ข้า?”
ตี๋ตงหมิงตอบอย่างเปิดเผยโดยไม่มีความเขินอายแม้แต่น้อย “เพราะเจ้าขี่ม้าได้ยอดเยี่ยม ม้าธรรมดาไม่อาจแสดงฝีมือของเจ้าออกมาได้ อีกอย่างหากจะมอบของขวัญก็ต้องมอบของดี มิเช่นนั้นแล้วจะให้ทำอย่างไร” ตี๋ตงหมิงไม่ได้มีความคิดอื่นใด เขาเพียงชื่นชมฝีมือการขี่ม้าของเฟิ่งชิงเฉินอย่างบริสุทธิ์ใจเท่านั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้เฟิ่งชิงเฉินจึงได้โล่งใจ จากนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ตี๋ตงหมิงบอกว่าต้องการจะแต่งงาน นางก็คิดมากไปเอง ลองนึกไปว่าตนเองเป็นที่เอ็นดูของผู้พบเห็น แม้ยามดอกไม้เห็นดอกไม้ก็ยังบาน
“ฝีมือขี่ม้าชั้นเลิศไม่จำเป็นต้องเป็นม้าชั้นดีเท่านั้นที่จะแสดงออกมาได้ อีกอย่างตอนนี้ข้าก็ไม่ต้องใช้ม้า ไม่ต้องคิดเผื่อข้าหรอก” เฟิ่งชิงเฉินปฏิเสธอย่างแนบเนียน เมื่อหัวข้อบทสนทนาเปลี่ยนไป นางก็วกกลับเข้าประเด็นสำคัญใหม่ “เช่นนี้แล้ว เจตนาของฝู่หลินก็คือพยายามหาทางเข้าหาข้า เพียงแต่เขาต้องการเข้าหาข้าทำไม บนตัวข้าไม่มีอะไรที่คุ้มค่าให้เขาต้องการสักหน่อย”
ตี๋ตงหมิงยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ "ก็แค่ม้าตัวหนึ่งเท่านั้น จะต้องใช้ความพยายามแค่ไหนกันเชียว ส่วนที่ฝู่หลินต้องการเข้าหาเจ้านั้น จิ่นหลิงวิเคราะห์ว่าฝู่หลินคงต้องการเข้าหาเสด็จอาเก้าหรือคนอื่นผ่านทางเจ้า เพราะอย่างไรผู้คนรอบตัวเจ้าล้วนเป็นบุคคลชั้นเลิศและยากที่จะเข้าหา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ลงมือง่ายที่สุด เพียงแค่ได้รับความไว้วางใจจากเจ้า ทั้งเสด็จอาเก้าและหวังจิ่นหลิงล้วนจะไม่ระวังเขามากเกินไปนัก"
“ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น...” เฟิ่งชิงเฉินนึกถึงการกระทำของฝู่หลินยามที่อยู่ในจวนของเจ้าเมืองอี้สุ่ย
ภายใต้อันตรายเช่นนั้นกลับเลือกที่จะออกไปกับนาง ไม่ใช่เพราะอยากให้นางเชื่อใจหรือ ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุบังเอิญในวันนี้ นางก็คงจะเลิกสงสัยในไม่ช้าก็เร็วและไว้ใจฝู่หลิน จากนั้นก็ให้เขาอยู่ใกล้นางและคนรอบตัวของนาง
เมื่อนึกว่าฝู่หลินเข้าหานางอย่างมีแรงจูงใจซ่อนเร้น ร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินก็รู้สึกหนาวสั่น...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...