นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 63

เฟิ่งชิงเฉินจะสามารถรักษาดวงตาของหวังจิ่นหลิงได้หรือไม่?

ฝ่ายที่ไม่เชื่อมีมากหน่อย ฝ่ายที่เชื่อนางก็พอมีอยู่บ้าง เพราะในเมื่อกล้าเอาเรื่องใหญ่โตเพียงนี้มาเผยแพร่ ตระกูลหวังและเฟิ่งชิงเฉินคงต้องมั่นใจมาพอสมควรแล้ว

ตระกูลหวังไม่มีทางนำชื่อเสียงของตระกูลมาล้อเล่น เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่มีทางนำความเป็นความตายของตัวเองมาล้อเล่นเช่นเดียวกัน

หากเฟิ่งชิงเฉินสามารถรักษาดวงตาของหวังจิ่นหลิงได้ นางก็จะมีชื่อเสียงโด่งดังและเจริญรุ่งเรือง ผู้คนทั่วทั้งเมืองหลวงคงไม่มีใครกล้าดูหมิ่นนาง

แต่ถ้าหากรักษาไม่ได้ล่ะ? ก็มารอชมว่าเฟิ่งชิงเฉินจะได้รับบทลงโทษเช่นไร?

ผลลัพธ์จะออกมาดีหรือไม่ดีนะ

สิ่งเลวร้ายสามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีได้ และสิ่งที่ดีงามก็อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้าย ข้อนี้ใครหลายคนคงรู้ดี หากเฟิ่งชิงเฉินล้มเหลว นางจะต้องพบกับความโกรธแค้นจากคนตระกูลหวัง เพราะใช่ว่าคนในตระกูลหวังทุกคนจะเห็นดีเห็นงามกับเรื่องนี้

เหตุผลน่ะหรือ ก็เพราะพวกเขามองไม่เห็นความสามารถของเฟิ่งชิงเฉินเลยน่ะสิ!

"พี่ใหญ่ พี่ฟั่นเฟือนไปแล้วหรือ เฟิ่งชิงเฉินนางเป็นใคร? ก็แค่ผู้หญิงไร้หัวคิดคนหนึ่ง จะมามีความสามารถในการรักษาหวังจิ่นหลิงได้อย่างไร ต่อให้นางสามารถรักษาหวังจิ่นหลิงได้จริง ตระกูลหวังของเราก็ไม่เห็นต้องไปโอบอุ้มนางมากถึงเพียงนี้ จ่ายเงินนางไปแล้วก็ให้นางกลับไปก็สิ้นเรื่อง" อารองของหวังจิ่นหลิงเมื่อทราบเรื่องนี้แล้วก็รีบมาตำหนิในทันที

"น้องรอง ข้ามีเหตุผลในการตัดสินใจของข้า เจ้าไม่ต้องพูดมากหรอก" ผู้นำตระกูลหวัง ซึ่งก็คือท่านพ่อหวังจิ่นหลิง เขานั่งหลังตรง สีหน้าเคร่งขรึม ในดวงตาของเขาดูเหมือนจะหมดหวัง แต่ก็ยังคงมีความหวังอยู่ลึกๆ

เขาย่อมรู้ดีว่านี่คือการเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่ แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น

คนอื่นๆต่างพากันคิดว่า เขาเชื่อมั่นในฝีมือด้านการแพทย์ของเฟิ่งชิงเฉิน และต่างเข้าใจว่าหวังจิ่นหลิงคงไปคุกเข่าขอร้องเขา จนเขาเริ่มเห็นใจ แต่ทุกอย่างล้วนเป็นการคาดเดาที่ผิดพลาด

เขาเป็นใครล่ะ? หวังซู่ หัวหน้าตระกูลหวัง ผู้ซึ่งทำได้ทุกอย่างเพื่อเกียรติยศและผลประโยชน์ของตระกูล เพื่อลูกชายแล้ว เขาถึงกับเชื่อมือผู้หญิงที่ชื่อเสียงป่นปี้อย่างเฟิ่งชิงเฉินเลยหรือ เขาก็แค่ไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ......

เมื่อคืนนี้ ในขณะที่จิ่นหลิงไปคุกเข่าอยู่หน้าห้องของเขา เพื่ออ้อนวอนให้เขายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเฟิ่งชิงเฉิน เขาก็กำลังนั่งอ่านจดหมายฉบับหนึ่งอยู่ในห้อง เนื้อความในจดหมายนั้นสั้นมาก โดยระบุว่าขอให้เขายอมทำตามข้อเรียกร้องของจิ่นหลิง แล้วตระกูลหวังจะได้รับผลประโยชน์กลับคืนมาอย่างเหลือเชื่อ แต่ถ้าหากปฏิเสธ ก็จะตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขา

จดหมายทำนองนี้ หวังซู่มีหรือจะเก็บมาใส่ใจ แต่เมื่อเขาได้เห็นตราประทับที่อยู่บนจดหมาย เขาจึงจำเป็นต้องใส่ใจ

หลานจิ่วชิง!

บุคคลที่เป็นที่เคารพยกย่องของปวงชนทั่วทั้งแว่นแคว้น คนระดับนี้ไยจึงออกหน้าแทนเฟิ่งชิงเฉินล่ะ?

หวังซู่ไม่เข้าใจเลยจริงๆ และไม่กล้าที่จะหาคำตอบ

หวังจิ่นหลิงไม่ได้นอนทั้งคืน เขาเองก็เช่นกัน ระหว่างที่เขากำลังครุ่นคิดว่าจดหมายนี้เป็นของจริงหรือของปลอมอยู่นั้น ในช่วงกลางดึก ก็มีคนฝ่าวงล้อมการคุ้มกันเข้ามาในห้องเขา

คนๆนั้นก็คือปู้จิงหยุน หัวหน้าชุมชนกลางหุบเขาจิงหยุน

ปู้จิงหยุนเดินทางมาที่จวนหวัง เพื่อมาเก็บจดหมายที่หลานจิ่วชิงได้มอบให้กับเขา และยังบอกเขาอีกว่าให้ทำตามที่หลานจิ่วชิงบอก แล้วข้อตกลงระหว่างตระกูลหวังและชุมชนกลางหุบเขาจิงหยุนก็จะเป็นไปตามเดิม หากฝ่าฝืนแล้วล่ะก็ ข้อตกลงระหว่างตระกูลหวังและชุมชนกลางหุบเขาจิงหยุนก็จะถือว่าเป็นอันสิ้นสุด

ตระกูลหวังเจริญรุ่งเรืองดี แต่ก็จำกัดแค่ในเขตตงหลิงเท่านั้น ด้านนอกมี 4 แคว้น 9 เมือง ตระกูลหวังอยากจะขยายการค้าไปยังดินแดนอื่น โดยเฉพาะในเมืองอิสระทั้ง 9 เมือง ซึ่งต้องอาศัยการสนับสนุนจากชุมชนกลางหุบเขาจิงหยุน

หากชุมชนกลางหุบเขาจิงหยุนไม่ให้ความร่วมมือกับตระกูลหวัง ตระกูลหวังก็จะขาดรายได้ไปมากเลยทีเดียว แน่นอนว่าการขาดรายได้ในส่วนนี้ตระกูลหวังสามารถยอมรับได้ แต่ทว่า......

เมื่อชุมชนกลางหุบเขาจิงหยุนไม่ให้ความร่วมมือกับตระกูลหวังแล้วก็ต้องไปร่วมมือกับฝ่ายอื่น ซึ่งอาจจะเป็นคู่แข่งตระกูลหวังก็เป็นได้ เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลหวังคงได้แต่นั่งมองคนอื่นกอบโกยผลประโยชน์

ทำอย่างไรดีล่ะ?

นี่เราจะต้องทำอย่างไรกันดี?

ใช้ชื่อเสียงของตระกูลหวังเป็นเดิมพันเลยงั้นหรือ?

หวังซู่ครุ่นคิดอยู่นาน สุดท้ายก็ต้องพยักหน้า คนที่ทำให้หลานจิ่วชิงยอมออกหน้าให้ คนๆนั้นย่อมไม่ธรรมดา

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาจึงยอมเสี่ยงดูสักตั้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ