นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 64

ตอนนี้หวังชีเข้าใจแล้ว ว่าการหาเหาใส่หัว กับได้คืบจะเอาศอกหมายความว่าอย่างไร

เฟิ่งชิงเฉิน ผู้หญิงคนนี้ช่างรู้จักวิธีเพิ่มผลกำไรสูงสุดเป็นอย่างดี มีทางใดโกยได้ก็รีบโกย แถมยังทำท่าทางหนักแน่น ทำให้คนอื่นไม่กล้าปฏิเสธ

สายลมพัดมาพาให้ใบไม้ลอยปลิวข้ามผ่านใบหน้าหวังชีไป หวังชีคว้าใบไม้อย่างขุ่นเคืองแล้วกำไว้จนแน่น เขากล่าวด้วยความหงุดหงิดว่า "เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าตั้งใจให้มันเป็นเช่นนี้ใช่หรือไม่ เจ้าฉวยโอกาสกอบโกย!"

หวังชีแทบจะกระอักเลือด เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้จักใช้เงิน หาเรื่องสิ้นเปลืองจริงๆเลย

"ฉวยโอกาสกอบโกย? กับท่านน่ะหรือ? ไม่เห็นมีอะไรให้ข้ากอบโกยเลย" พูดจบ เฟิ่งชิงเฉินก็ทิ้งหวังชีไว้คนเดียว นางเดินกลับห้องของตัวเอง แล้วสักพักก็เดินกลับออกมาอีกครั้ง ในขณะที่หวังชียังทำหน้าบูดบึ้ง นางก็ส่งกระดาษจำนวนหนึ่งไปให้กับหวังชี

"นี่เป็นสิ่งที่ข้าร่างไว้ก่อนหน้านี้ ทำตามนี้ก็แล้วกัน ข้าไม่เรื่องมากหรอก"

ไม่เรื่องมาก แต่ก็มีกระดาษถึง 7 แผ่น แล้วขีดเขียนทุกอย่างลงไปอย่างเต็มที่ แบบนั้นน่ะหรือ

"นี่มันลายมือไก่เขี่ยอะไรนี่ เขียนหนังสือโย้เย้น่าเกลียดชะมัดเลย แล้วตรงนี้เจ้าเขียนว่าอะไร เขียนผิดหรืออย่างไร เขียนมั่วจริงๆเลย" หวังชีเปิดดูแต่ละแผ่นพลางขมวดคิ้วด้วยความขัดหูขัดตา

เขาไม่ได้เรื่องมาก แต่ความสามารถของเฟิ่งชิงเฉินดูแย่กว่าหลานชายวัย 3 ขวบของเขาอีก หากกระดาษพวกนี้ไม่ได้รับมาจากเฟิ่งชิงเฉินแล้วล่ะก็ เขาคงจะขยำทิ้งไปนานแล้ว ดูแล้วเสียลูกตาจริงๆเลย

เฟิ่งชิงเฉินหน้าแดงเล็กน้อย แต่นางก็ยังทำเป็นเข้มแข็ง นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิม "หวังชี เลิกบ่นได้แล้วนะ อ่านๆไปเถอะ ข้าก็เขียนของข้าได้แค่นี้ แล้วไง ไม่อยากอ่านใช่ไหม? ก็ได้ เช่นนั้นท่านก็สร้างตามใจชอบ แต่ถ้าหากข้าไม่อนุมัติ ท่านก็ต้องรื้อทิ้งและสร้างใหม่ให้กับข้า"

เมื่อพูดจบแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็ชักสีหน้าแล้วเดินหนี

แย่จริงๆเลย แย่จริงๆเลย

นางอุตส่าห์เขียนกำกับภาพอย่างตั้งใจ เมื่อส่งไปให้คนอ่าน กลับถูกคนอ่านบ่นเสียได้

เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกว่า นางจะต้องหาที่เงียบๆสักที่มาซับน้ำตาเสียหน่อยแล้ว เพื่อปลดปล่อยความอ่อนแอออกมาบ้าง

ทำไมตอนนางเข้ามาอยู่ในร่างนี้ จึงไม่ได้รับความสามารถของเจ้าของร่างเดิมมาด้วยนะ?

เขียนตัวหนังสือไม่สวย อนาคตนางคงจะไม่สวยด้วย ด้ายที่อยู่ในมือนางก็มีไว้เย็บแผล หาได้มีไว้สำหรับเย็บผ้า

คิดดูดีๆแล้ว นางช่างไม่เหมาะที่จะอยู่ในยุคนี้เอาเสียเลย ในยุคที่มีความคาดหวังต่อผู้หญิงเช่นนี้

เฟิ่งชิงเฉินกลัดกลุ้มใจเหลือเกิน!

"ชิงเฉิน......" หวังชีรีบเดินตามมาทันที สีหน้าของเขาร้องขอความเมตตา "ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่น่าพูดจาแบบนั้นเลย ข้าขอโทษๆ ลงโทษข้าด้วยการให้ไปลอกแบบตามเจ้าทั้งหมดนี่เลยก็แล้วกันนะ"

เฟิ่งชิงเฉินยิ่งเป็นคนเรื่องมากอยู่ด้วย รื้อแล้วสร้างใหม่ แล้วมันจะต้องสร้างไปถึงตอนไหนล่ะ เรื่องของตระกูลหวังกำลังถูกเพ่งเล็ง จะให้เสียเวลาเช่นนี้คงไม่ได้

ที่สำคัญที่สุด ดวงตาของพี่ชายเขาจะรอต่อไปไม่ได้แล้ว

เฟิ่งชิงเฉินไม่สนใจหวังชี นางเดินไปเรื่อยๆ หวังชีก็ได้แต่เดินตามแล้วออดอ้อนนางมาตลอดทาง แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับทำเหมือนไม่ได้ยิน

หวังชีชักเหลืออด แต่ก็ทำอะไรเฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ จึงได้แต่ยกหวังจิ่นหลิงมาอ้าง "ชิงเฉิน พวกเรารีบๆสร้างห้องให้แล้วเสร็จ ดวงตาพี่ใหญ่ข้าจะได้หายเร็วๆ เจ้าเองก็อยากให้พี่ใหญ่ข้ามองเห็นเร็วๆไม่ใช่หรือ"

เรื่องนี้มีผลประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย การพนันของคนนอกเป็นไปอย่างคึกคัก คนส่วนมากดูแคลนเฟิ่งชิงเฉิน คนที่ควรรีบเร่งน่าจะเป็นเฟิ่งชิงเฉินต่างหาก ไม่ใช่ให้คนตระกูลหวังมารีบเร่ง

เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้า "พูดได้ดีนี่ ข้าจะปล่อยให้ความผิดพลาดของท่านมาส่งผลกระทบต่อการสร้างห้องไม่ได้หรอก"

เอ่อ......หวังชีไม่รู้ต้องทำหน้าเช่นไร

คนอะไรนี่

นี่เขาทำอะไรผิดไปหรือ

เฟิ่งชิงเฉินไม่ให้โอกาสหวังชีได้เอ่ยปาก นางกล่าวต่อไปว่า "หวังชี ได้ยินว่าด้านนอกเริ่มพนันกันแล้ว คนที่เชื่อว่าข้าจะสามารถรักษาดวงตาให้พี่ใหญ่ของท่านได้ มีอัตราต่อรอง 1 ต่อ 5 ใช่หรือเปล่า?"

เมื่อพูดถึงเรื่องเงิน เฟิ่งชิงเฉินก็ตาโต

ทำอย่างไรได้ล่ะ ก็นางจนนี่นา

จวนเฟิ่งก็เริ่มจะเสื่อมโทรม รอคอยทุนทรัพย์ของนางมาทำการซ่อมแซม

1 ต่อ 5 นั้นก็หมายความว่าหากนางลงทุน 100 ตำลึง เมื่อชนะก็จะได้รับเงินมา 500 ตำลึง กำไรเห็นๆเลย

หวังชีพยักหน้า "เจ้าคงไม่คิดจะเอาด้วยหรอกนะ?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ