นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 641

สตรีโง่ผู้นี้ ช่างทำให้คนทั้งรักทั้งโมโหได้ในคราวเดียวกันเสียจริง

ภายในใจของเสด็จอาเก้ารู้สึกมีความสุขยิ่งนัก สตรีผู้นี้กำลังเป็นห่วงเขา นางใช้วิธีการของนาง ในการช่วยเหลือเขา ถึงแม้ว่าจะมิได้พบหน้ากันก็ตาม แต่ทว่า ภายในใจของสตรีผู้นี้ก็ยังคงมีแต่เขาเช่นเดียวกัน

ชั่วชีวิตนี้ การได้พบเจอสตรีที่ไม่ทำตัววุ่นวาย ทั้งยังมีความคิดเป็นของตัวเองเช่นนี้ นับว่าดียิ่งนัก

เสด็จอาเก้าพลันดึงเฟิ่งชิงเฉินเข้ามากอดรัดแน่นมากกว่าเดิม แต่ทว่า เสด็จอาเก้าย่อมไม่อาจให้เฟิ่งชิงเฉินล่วงรู้ความคิดของเขาไปได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ เสด็จอาเก้าจึงได้แต่ต้องพูดออกมาอย่างไม่ถนอมน้ำใจเลยว่า "เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าช่างหาญกล้ายิ่งนัก ผู้ใดสั่งให้เจ้าสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องของเปิ่นหวางกัน ทำไมหรือ? เจ้าคิดว่าเปิ่นหวางมิอาจแก้ปัญหาได้ด้วยตนเองงั้นหรือ ถึงได้ต้องไปพึ่งพาผู้อื่นเช่นนี้?"

เสด็จอาเก้ามิต้องการให้เฟิ่งชิงเฉินมองเขาออก เขาในยามนี้มิสามารถออกหน้าจัดการปัญหาได้ด้วยตนเองเท่านั้น หาใช่ว่าเขาไม่มีทางออก

"ย่อมมิใช่เพคะ"เฟิ่งชิงเฉินรีบร้อนส่ายหัวโดยไว "โดยความสามารถของเสด็จอาเก้าแล้ว แม้แต่คุกในศาลราชวงศ์ก็มิอาจคุมขังท่านได้เพคะ แต่เป็นความบังเอิญที่ตระกูลชุยเอง ก็ต้องการลงจากเขาพอดี ตระกูลหวังเองก็กำลังมีการผลัดเปลี่ยนผู้นำตระกูลคนใหม่ หม่อมฉันคิดว่า พวกเราควรให้โอกาสทั้งตระกูลชุยและตระกูลหวังเสียหน่อย มิเช่นนั้น ผู้อื่นจะคิดว่าพวกเรามิต้องการผูกมิตรเพคะ"

แน่นอนว่าเฟิ่งชิงเฉินหาใช่คนโง่ไม่ ที่จะได้เอ่ยวาจาทำร้ายความรู้สึกของเสด็จอาเก้าออกมา มิเพียงแค่นั้น นางยังต้องแสดงออกถึงความมีน้ำใจ ต่อตระกูลชุยและตระกูลหวังอีกด้วย

เฟิ่งชิงเฉินพลันเลิกคิ้วขึ้น เพื่อแสดงความภาคภูมิใจในตนเองออกมา เหลือเพียงแค่การดึงป้ายขึ้นมาเพื่อบอกว่า : ข้าเป็นเด็กดี ท่านรีบชื่นชมข้าเร็ว!

คำพูดนี้ ถูกใจเสด็จอาเก้ายิ่งนัก เสด็จอาเก้าจึงค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปจูบที่ดวงตาของเฟิ่งชิงเฉิน เพื่อแสดงถึงความชื่นชมในตัวนาง

เฟิ่งชิงเฉินจึงแย้มยิ้มอย่างได้ใจออกมาในทันที เมื่อเสด็จอาเก้าอารมณ์ดีขึ้นมาแล้ว ชิงเฉินของเขาควรจะเป็นเช่นนี้ เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะขึ้นนำบัลลังค์ที่ไม่มีผู้ใดเทียบเคียงเขาใด นำมากองต่อหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน เมื่อเวลานั้นมาถึง ไม่ว่าจะเป็นตระกูลชุยหรือว่าตระกูลหวัง พวกเขาจะมีศักดิ์เป็นเพียงแค่ขุนนางเท่านั้น

เสด็จอาเก้าค่อย ๆ ลูบหัวเฟิ่งชิงเฉินอย่างเบามือ พร้อมทั้งให้นางเอนตัวมาพิงไหล่ของเขาอย่างสบายอารมณ์

"การร่วมมือของตระกูลชุยและตระกูลหวังนั้น เจ้ามิต้องไปสนใจให้มาก ถ้าหากมีโอกาสละก็ ข้าอยากให้เจ้าไปที่ชนเผ่าเสวียนเซียวกงดูสักครั้ง" เสด็จอาเก้าเองก็เองหัวเข้าไปพิงที่ศีรษะของเฟิ่งชิงเฉินเช่นกัน ทั้งสองคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นั้น เสมือนกับว่ากำลังแบ่งปันความสุขพร้อมทั้งเติมพลังใจให้กับกันและกันอยู่เช่นนั้น

"ไม่ไป" เฟิ่งชิงเฉินยังมิทันคิดเลยแม้แต่น้อย นางก็พลันปฏิเสธออกมาในทันที ใบหน้าของเซวียนเฟยนั้น ย่อมมีส่วนเกี่ยวข้องกับนางอย่างแน่นอน หากไปที่ชนเผ่าเสวียนเซียวกงละก็ ย่อมสามารถได้ยินข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกับบิดามารดาของนางได้แน่

ก่อนหน้านั้น นางมักจะคิดถึงเรื่องราวของบิดามารดาของนางมาโดยตลอด ทว่า มิรู้ว่าเหตุใด นางรู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก

ยามที่ไม่รู้ก็ต้องการที่อยากจะรู้ เมื่อความจริงมากองอยู่ตรงหน้าเช่นนี้แล้ว นางกลับมิกล้าที่จะไปเปิดมันออกมา นางกลัว นางกลัวว่ามันจะเป็นความจริงที่นางไม่อาจรับได้

"ได้ หากไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป เปิ่นหวางจะเป็นคนจัดการแทนเจ้าเอง รอจนกว่าเจ้าจะอยากรู้ความจริง เพียงแค่เจ้าเอ่ยถามกับเปิ่นหวางมาก็พอ" เสด็จอาเก้าหาได้บังคับเฟิ่งชิงเฉินไม่ สิ่งใดที่เฟิ่นชิงเฉินมิอยากทำ เขาก็จะเก็บมันเอาไว้เช่นนั้น

ถึงแม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะไม่อยากแตะต้องมันนัก เขาก็ช่วยนางจัดการมันเอง เพื่อให้นางมิต้องเป็นกังวล

เมื่อเฟิ่งชิงเฉินได้ยินเช่นนั้น สายตาของนางพลันทอประกายระยิบระยับออกมา มือทั้งสองข้างพลันเข้าไปโอบรอบคอของเสด็จอาเก้า พร้อมทั้งพึมพำกล่าวว่า "ข้าดีใจที่มีท่าน!"

อื้ม!

เสด็จอาเก้าตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้น ภายในใจของเขา พลันบังเกิดความสุขท่วมท้นขึ้นมาในทันที

เพียงแค่คำว่า "ข้าดีใจที่มีท่าน" เป็นคำยืนยันของเฟิ่งชิงเฉินที่มีต่อเขา เสด็จอาเก้าพลันรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่จะกระโดดออกมาในทันที มือไม้มิรู้ว่าควรจะเอาไปวางไว้ที่ใดจึงจะเหมาะสม

เขามีคำพูดมากมายที่อยากจะเอ่ยออกไป ทว่า เมื่อคำพูดมาถึงริมฝีปากนั้น เขากลับไม่สามารถพูดออกไปได้เลยแม้แต่คำเดียว เขาจึงได้แต่ลูบหัวเฟิ่งชิงเฉินไปมา พร้อมกับเอ่ยว่า "สตรีโง่"

ข้าดีใจที่มีเจ้า!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ