นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 640

ถูกลงทัณฑ์งั้นหรือ?

ใครมันจะกล้ามาลงทัณฑ์เสด็จอาเก้าได้ล่ะ คงมีแต่คนที่อยู่บนโลกใบนี้จนเบื่อแล้วกระมัง

อย่าพูดถึงลงทัณฑ์เลย หากเสด็จอาเก้าบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ก็จะมีฝ่ายตรวจการมาเล่นงานผู้รับผิดชอบดูแลศาลราชวงศ์ในทันที

เฟิ่งชิงเฉินถือหนังสืออนุญาตของฮ่องเต้ แล้วเดินมายังสถานที่คุมขังของเสด็จอาเก้าได้อย่างราบรื่น ผลปรากฏว่า......

นางไม่เจอนักโทษตงหลิงจิ่วเลย นักโทษที่น่าจะเนื้อตัวเปรอะคราบเลือดและกระมอมกระแมม นางเจอแต่......เสด็จอาเก้าที่สวมใส่เสื้อผ้าชุดใหม่เอี่ยม หน้าของเขามีเลือดฝาดมาหล่อเลี้ยง ท่าทางสบายอกสบายใจ

ผู้ชายตรงหน้านาง ดูมีสง่าราศีเหลือเกิน

"เสด็จอาเก้า?" นางจ้องมองเสด็จอาเก้าที่กำลังรินน้ำชาแล้วลองเอ่ยปากเรียก

นี่คือคุกหรือนี่? เขาถูกขังอยู่ในคุกงั้นหรือ? นี่มันห้องส่วนตัวของเสด็จอาเก้าชัดๆ ข้าวของเครื่องใช้ก็มีแต่ของดีๆทั้งนั้น เป็นคุกที่กั้นอย่างเป็นสัดส่วน ส่วนนอกไว้รับแขก ส่วนในเป็นห้องนอน อำนวยความสะดวกให้นักโทษดีจริงๆ

เป็นการถูกขังคุกที่สุนทรียิ่งนัก

"เข้ามาสิ" เสด็จอาเก้าไม่ได้รู้สึกประหลาดใจต่อการมาเยือนของเฟิ่งชิงเฉินเลย เขาไม่เงยหน้ามามองนางด้วยซ้ำ ได้แต่เอ่ยปากอย่างเย็นชา

ซ่า……

เฟิ่งชิงเฉินเหมือนโดนสาดด้วยน้ำเย็น ความตื่นเต้นดีใจและความคาดหวังที่เคยมีได้สูญสิ้นไปแล้ว นางรู้สึกหนาวสะท้านอยู่ในใจ

เสด็จอาเก้าไม่ยินดียินร้ายต่อการมาของนางเลย หรือว่า ตลอดเวลาที่ไม่ได้พบกัน มีเพียงนางที่เฝ้ารอเขา และหวนคิดถึงเขาเพียงฝ่ายเดียว

ใครรักก่อนคนนั้นแพ้ ยิ่งรักมากก็ยิ่งแพ้อย่างอนาถ นับตั้งแต่วันแรกที่พบกัน นางก็ถูกกำหนดให้เป็นฝ่ายแพ้เสียแล้ว

เฟิ่งชิงเฉินยิ้มกลบเกลื่อนความเจ็บปวดเอาไว้ และกำลังจะหาทางเปิดเข้าไปในห้องขัง......

ให้ตายเถอะ นี่กำลังติดคุกอยู่หรือ นี่มันสถานที่สำหรับนอนพักผ่อนชัดๆ ประตูห้องขังไม่ได้ลงกลอนเลย

มีนักโทษที่ถูกขังคุกอย่างอิสระเสรีและสุนทรีเช่นนี้ด้วยหรือนี่ มิน่าล่ะ เสด็จอาเก้าถึงไม่อยากออกมา นางควรจะกลับไปบอกชุยห้าวถิงดีไหมนะ ว่าไม่ต้องไปขอความร่วมมือจากตระกูลหวังให้มาช่วยเสด็จอาเก้าแล้ว

เฟิ่งชิงเฉินเดินเข้าไปด้วยสีหน้าบึ้งตึง นางไม่ยอมนั่ง นางต้องการยืนอยู่ตรงหน้าเขา เพื่อสร้างความกดดันให้กับเขา

มีคนมายืนบังอยู่ตรงหน้า ก็ต้องกดดันเป็นธรรมดา หากเป็นคนทั่วไปก็คงเอ่ยปากบอกให้คนที่ยืนถอยไป หรืออย่างน้อยๆก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้าด้วยความไม่พอใจ แต่เสด็จอาเก้ากลับทำเหมือนกับว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นเพียงอากาศธาตุ เขายังคงจิตใจจดจ่อกับการชงชา ราวกับว่าชาในถ้วยนั้นน่าสนใจมากกว่าเฟิ่งชิงเฉิน

"เสด็จอาเก้า ข้ามาเยี่ยมท่านแล้วนะ" เฟิ่งชิงเฉินเริ่มเหลืออด นางจึงก้มตัวไปตะโกนใส่ข้างหูของเสด็จอาเก้า

เสด็จอาเก้าเงยหน้าและได้สบตากับเฟิ่งชิงเฉิน เขากล่าวอย่างไม่ไยดีว่า "เฟิ่งชิงเฉิน ข้าไม่ได้หูหนวก ข้าได้ยินแล้ว มาเยี่ยมข้าก็คือมาเยี่ยมข้า แล้วอย่างไร? จะต้องให้ข้ากล่าวชมเจ้าให้ได้อย่างนั้นสิ......"

อีกคนก้มหน้า อีกคนเงยหน้า สองคนนี้มองอีกฝ่ายอยู่เช่นนี้ โดยไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด

"ท่าน......" เฟิ่งชิงเฉินทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ความหล่อเหลาไม่อาจเหนี่ยวรั้งความสนใจของนางได้อีกแล้ว เพราะในตอนนี้ นางมองเห็นความเย็นชาส่องสะท้อนออกมาจากดวงตาของเสด็จอาเก้า

นางตัวแข็งทื่อ รอยยิ้มก็ไม่โผล่มาให้เห็น เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกว่าการที่นางดั้นด้นมาหาเขาถึงที่นี่ มันไม่มีความหมายเลยสักนิด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ