สรุปตอน บทที่ 659 อย่าได้รีบร้อน ความใจกว้างของผู้ยิ่งใหญ่ – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
ตอน บทที่ 659 อย่าได้รีบร้อน ความใจกว้างของผู้ยิ่งใหญ่ ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าลมและฝนภายจากนอกจะหนักหนาเพียงไรก็ไม่สามารถพัดเข้าไปในห้องผ่าตัดได้ ต่อให้ลมพัดเข้าไป เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่สนใจลมหรือฝนจากภายนอกในเวลานี้
ตามคำกล่าวของเฟิ่งชิงเฉิน แม้ว่าท้องฟ้าจะถล่ม ในหมอผ่าตัด นางไม่สามารถออกจากห้องห่างจากผ่าตัดหรือผู้ป่วยของนางได้
ห้องผ่าตัดคือสนามรบของหมอ ทันทีที่นางไปยังสนามรบ นางต้องรับผิดชอบผู้ป่วยที่สละชีวิตให้นาดูแล แม้นางจะตาย เฟิ่งชิงเฉินก็จะไม่หนีหรือทิ้งคนไข้ของนางเด็ดขาด
ในห้องผ่าตัด หมอและศิษย์ทั้งสองให้ความร่วมมือกันโดยปริยาย ซุนซือสิงแอบยกย่องทักษะอันประณีตของเฟิ่งชิงเฉินและการใช้มีดที่แม่นยำ รวมถึงวิธีการรักษาก็กล้าหาญสร้างสรรค์มาก ซึ่งเขาไม่เคยได้เห็นมาก่อน
ในการผ่าตัดครั้งนี้เขาตั้งใจดูอย่างจริงจังโดยไม่ต้องการที่จะพลาดสักน้อย เมื่อรวมกับขั้นตอนการผ่าตัด หลักการของเฟิ่งชิงเฉินก่อนหน้านี้ เขาเข้าใจได้มากกว่า 80% ในส่วนที่เขาไม่เข้าใจ เขาก็ได้จำเอาไว้แล้ว รอให้เฟิ่งชิงเฉินว่างแล้วจะเอ่ยถาม
หากเฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าซุนซือสิงสามารถเข้าใจได้ 70% โดยการอ่าน คาดว่านางจะพุ่งชนกำแพงอย่างแน่นอน ให้ตายสิ......ในเวลานั้นนางเป็นที่รู้จักในฐานะผู้อัจฉริยะทางการแพทย์ หลังจากติดตามการผ่าตัดนางสามารถเข้าใจได้มากที่สุดเพียง 70% เท่านั้น ซุนซือสิงกำลังโจมตีชื่อเสียงของนาง คนที่มีฉายาว่าเป็นหมออัจฉริยะ แต่ไม่ได้มีความเป็นอัจฉริยะจริงๆ
อย่ามองว่าซุนซือสิงเป็นพียงนักเรียน แต่เมื่อเฟิ่งชิงเฉินออกจากโต๊ะผ่าตัดและสละที่นั่งให้ซุนซือสิง จะพบว่าเด็กที่ดูเหมือนไร้เดียงสาคนนี้โตขึ้นมากทีเดียว
เขาถือมีดผ่าตัดและยืนอยู่หน้าโต๊ะผ่าตัด เขามีท่าทางดูเป็นมืออาชีพเล็กน้อย ทันทีที่ซุนซือสิงถือมีดเขาก็เปลี่ยนจากเด็กหนุ่มเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สงบและเฉลียวฉลาด ไม่มีใครจะสงสัยในทักษะทางการแพทย์ของเขาเลย
แม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะไม่ได้เป็นผู้ผ่าตัดหลัก แต่จิตใจของนางก็ไม่ได้ค่อยผ่อนคลายเช่นกัน นางรู้ถึงความสามารถของซุนซือสิง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางจะสามารถผลักดันทุกอย่างให้ซุนซือสิงได้ นางต้องคอยชี้แนะซุนซือสิงในการใช้มีดเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น
ต้องบอกว่าเฟิ่งชิงเฉินช่างกล้าหาญจริงๆ นางกล้าที่จะให้ซุนซือสิงซึ่งเป็นมือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ในทางปฏิบัติทำภารกิจที่สำคัญเช่นนี้ แน่นอนว่าเฟิ่งชิงเฉินมีมั่นใจเพียงพอ
นางได้จัดการกับส่วนที่สำคัญที่สุดแล้ว นางเชื่อว่าศิษย์ที่นางถ่ายทอดสอนมามีคุณสมบัติครบถ้วนในการผ่าตัด มองย้อนกลับไป อาจารย์ของนางเองก็ยังแหกกฎและปล่อยให้นางเป็นผู้ผ่าตัดเองได้ นางก็จะไม่มัวยึดข้อปฏิบัติเก่าๆที่ว่า จำเป็นต้องให้ศิษย์ลงมือด้วยตนเอง จึงจะให้เขาเริ่มจับมีด
ศิษย์ผู้เฉลียวฉลาดแตกต่างจากคนทั่วไป!
ซุนซือสิงไม่ทำให้เฟิ่งชิงเฉินผิดหวัง มือของเขาที่ถือมีดผ่าตัดนั้นมั่นคงและแข็งแรง มีดก็เป็นระเบียบคมกริบ เขาไม่มีความลังเล และไม่ให้เฟิ่งชิงเฉินมีโอกาสเข้ามาแก้ไขใดๆ ซุนซือสิงพยายามทำผิดพลาดน้อยที่สุด
เมื่อซุนซือสิงทำขั้นตอนสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว เขาก็ทำการเย็บแผล ท่าทางสงบนิ่งเหมือนเฟิ่งชิงเฉิน ในเวลานี้นางก็ได้หัวเราะและยกนิ้วโป้งให้เขา "เยี่ยมยิ่งนัก!"
ตามความสามารถในปัจจุบันของซุนซือสิงแล้ว เขาสามารถดำเนินการผ่าตัดได้อย่างสมบูรณ์ เพียงแค่นางอธิบายขั้นตอนการดำเนินการอย่างชัดเจนแก่เขา
ซุนซือสิงระมัดระวังและกล้าหาญ ด้วยความรู้ทางการแพทย์ที่มั่นคง ทั้งความเข้าใจในทักษะทางการแพทย์ของเขานั้นเหนือกว่าคนทั่วไป เขาเกิดมาเพื่อรักษาผู้คน
ในฐานะหมอผู้สงบนิ่งซึ่งลงมือผ่าตัดเองในครั้งนี้ หลังจากซุนซือสิงได้ยินคำชมของเฟิ่งชิงเฉินก็หน้าแดงและเขินอาย จากผู้ที่ดูเก่งกาจเมื่อครู่ กลับกลายมาเป็นเด็กหนุ่มอีกครั้ง
เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้กล่าวอะไรมากความ นางก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของชุยห้าวถิง หลังจากเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งเล่มธูป เฟิ่งชิงเฉินถอดหน้ากากออกแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มอันสดใส "การผ่าตัดประสบความสำเร็จไปด้วยดี!"
ทั้งสองยืนตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ร่างกายทั้งเครียดทั้งเหนื่อยล้า แต่หลังจากได้ยินประโยคนี้จึงจะรู้ได้ว่าทุกสิ่งมีค่ายิ่ง การทำงานหนักด้วยความพยายามช่างคุ้มกับชีวิต!
การผ่าตัดประสบความสำเร็จ!
แม้ว่าการผ่าตัดนี้จะเป็นไปด้วยดีโดยไม่มีการรบกวนจากภายนอก แต่ซุนซือสิงรู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมาก
สำหรับหมอ การรักษาคนเป็นเรื่องใหญ่ หากชุยห้าวถิงเสียชีวิตลงบนโต๊ะผ่าตัด เฟิ่งชิงเฉินจะสูญเสียชื่อเสียงและอาชีพของนางในฐานะหมอก็จะสิ้นสุดลง ไม่มีใครจะเชื่อทักษะทางการแพทย์ของนาง ไม่ต้องกล่าวถึงว่าจะมีใครตามหานางเพื่อให้ไปรักษาอีกหรือไม่
หมอเป็นอาชีพที่ต้องระมัดระวัง โรคร้ายหลายโรคหมอหลายคนยอมตายดีกว่าต้องไปเสี่ยง เพราะหากรักษาคนไข้ตาย ชื่อเสียงจะย่ำแย่ตามไปด้วย
อาจารย์และศิษย์ทั้งสองได้ใช้เวลาในการทำความสะอาดห้องผ่าตัดเล็กน้อย หลังจากกลับสู่สภาพเดิม ทั้งสองก็ได้เข็นรถเข็นของหยวนซีกับชุยห้าวถิงออกไป สั่งคนรับใช้พาพวกเขาออกไป
หยวนซีถูกส่งกลับไปที่ห้อง เขาตื่นขึ้นมาในเวลาจากนั้นไม่นาน ชุยห้าวถิงถูกส่งไปยังห้องพักผู้ป่วยซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านไม้นัก เฟิ่งชิงเฉินติดตามมา หลังจากที่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมแล้ว ก็ได้บอกซุนซือสิงให้ดูแลเขาอย่างดีและอาศัยอยู่ที่นี่สักสองสามวัน หากมีบางอย่างเกิดขึ้นให้ส่งคนไปเรียกนาง จากนั้นนางก็เดินทางออกไป
ทันทีที่นางก้าวออกจากห้องผู้ป่วย นางได้เห็นทงจือและทงเหยายืนรอตนอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว เฟิ่งชิงเฉินเร่งฝีเท้าของนาง "เกิดอะไรขึ้น?"
“คุณหนู พวกเราสืบพบแล้ว” เมื่อทงจือและทงเหยากล่าวเช่นนี้ ใบหน้าของพวกนางหาได้มีความสุขมากนัก
“เร็วเพียงนี้เชียว?” เฟิ่งชิงเฉินขมวดคิ้ว “กลับไปคุยกันที่จวนเถิด”
ที่นี่ไม่ใช่สถานที่เหมาะสมในการสนทนา ทงจือและทงเหยาพยักหน้าและปฏิบัติตามอย่างเชื่อฟัง......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...