คำพูดของหนานหลิงจิ่นฝานและซีหลิงเทียนเหล่ยนั้น มีพลังยิ่งนัก หากว่าคำพูดเช่นนี้เป็นคำพูดของขุนนางภายในตงหลิงเอ่ยออกมาละก็ นับว่าเป็นเรื่องเล็ก หากแต่ทั้งสองคนนี้ กลับเป็นราชวงศ์ของแคว้นอื่นที่เอ่ยออกมา ฝ่าบาทย่อมรู้สึกอับอายยิ่งนัก อีกทั้งยังเป็นเรื่องขายหน้าที่ถูกเผยแพร่ออกไปนอกแคว้นให้ได้รับฟังกันอีกด้วย
หากผู้ใดไม่รู้ ย่อมต้องคิดว่าจักรพรรดิแห่งตงหลิงตระหนี่ยิ่งนัก สิ่งของดี ๆ มิยินยอมนำออกมาต้อนรับองค์ชายจากหนานหลิงและซีหลิง ทว่า เขาที่เป็นองค์จักรพรรดิของแว่นแคว้นหาได้มีสุราชั้นดีของจวนเฟิ่งอยู่ในมือไม่
ถึงแม้ว่าฉากหน้า ฝ่าบาทจะมิได้เอ่ยอันใดออกมา หากแต่ขันทีที่อยู่ข้างกายพลันรับรู้ได้ถึงใบหูที่ขยับเป็นอย่างดี นี่คือสัญญาณเตือนความกรุ่นโกรธขององค์จักรพรรดิ ของที่อยู่ภายในจวนเฟิ่งชิงเฉิน กลับดีกว่าขององค์จักรพรรดิ นี่นับได้ว่าเป็นโทษหมิ่นประมาท หากฝ่าบาทมิรู้สึกโมโหในเรื่องนี้ เขาจะนับได้ว่าเป็นจักรพรรดิของแว่นแคว้นไปได้อย่างไร
เขาที่เป็นเพียงข้ารับใช้ ย่อมเข้าใจว่าคำพูดใดไม่ควรเอ่ย คำพูดใดควรกล่าวออกไป ขอเพียงแค่รู้จักประจบสอพลอเพียงเล็กน้อยก็พอแล้ว นี่นับได้ว่าเขาคู่ควรกับเงินห้าหมื่นตำลึงที่ท่านเจ้าเมืองเย่เฉิงมอบให้เช่นกัน
ใช่ มันคือห้าหมื่นตำลึง จักรพรรดิมีความปราดเปรื่ยงฉลาดเฉลียว ทว่าข้ารับใช้ที่ติดตามย่อมต้องมีความเฉลียวฉลาดตาม นั่นหาใช่คนไม่ ฝ่าบาทชื่นชอบที่จะได้เป็นผู้ควบคุมทุกอย่าง ฉลาดเฉลียวแน่วแน่ หากว่าพวกเขาเผลอโผล่มือโผล่เท้าตนเองออกไปเมื่อใด เพื่อให้ฝ่าบาท "พบเห็น" ข้ารับใช้ที่ไม่มีความโลภมากอยากได้ ฝ่าบาทก็ไม่กล้าใช้เช่นเดียวกัน
ขันทีมิได้เอ่ยอันใดออกมามาก เพียงแค่เดินเข้าไปเพื่อช่วยประคององค์จักรพรรดิเดินไปที่วังหลัง มีสาวงามมากมายเข้าใหม่ถึงเพียงนี้ ฝ่าบาทจะไม่เสด็จไปลิ้มลองนำชาค้างปีได้อย่างไรกัน
เมื่อจักรพรรดิเดินไปได้เพียงสองก้าว ก็ค่อย ๆ สงบสติอารมณ์โกรธของตนลงไป ถึงแม้ว่าเขาที่เป็นองค์จักรพรรดิจะไม่พอใจเฟิ่งชิงเฉินมากเพียงใด ก็มิอาจเปิดเผยผ่านทางสีหน้าออกมาได้ "สามารถได้รับความชื่นชมจากองค์ชายทั้งสองนั้น ดูเหมือนว่าสุราในเรือนจวนเฟิ่งคงจะมิแย่นัก กลับไปเอามาสักสองไห เจิ้นเองก็อยากจะลิ้มลองเช่นกัน ว่าสุราที่มีรสชาติดีกว่าสุราในวังหลวงจะมีรสชาติเช่นไร"
คำพูดนี้หมายความว่า ฝ่าบาทต้องการที่จะลิ้มลองสุราจากจวนเฟิ่ง เพื่อจะได้ตัดสินในภายหลังว่า คำพูดของซีหลิงเทียนเหล่ยเป็นความจริงหรือไม่ โดยเฉพาะการทำขึ้นมาได้อย่างไรนั้น หาใช่เรื่องที่ฝ่าบาทเช่นเขาจะต้องกังวลใจ
"นู๋ไฉจะไปจัดเตรียมให้เดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ" จวนเฟิ่งหาใช่พระราชวังไม่ การจะไปเอาสุราเพียงสองไห นับว่าง่ายดายยิ่งนัก ขันทีข้างกายราวกับรับรู้ได้ถึงความโชคร้ายของเฟิ่งชิงเฉินได้ในทันที
ฝ่าบาทพลันพยักหน้าเล็ก ๆ ด้วยความพอใจ การจะจัดการกับเฟิ่งชิงเฉินนับได้ว่าเป็นเรื่องเล็ก ตัวการหลักที่ต้องจัดการย่อมต้องเป็นเสด็จอาเก้า "น้องเก้าของเจิ้น ยังไม่รู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินเจอกระดูกของบิดามารดาของตนเองแล้วเป็นแน่ กลับไปให้คนไปส่งข่าวบอกกับเขาเสีย นี่นับว่าเป็นข่าวดีอย่างหนึ่งเช่นกัน"
ความหมายขององค์จักรพรรดิก็คือ ให้ขันทีนำข่าวที่น่าสงสารของเฟิ่งชิงเฉิน ไปรายงานเพื่อยั่วโมโหเสด็จอาเก้าเสีย
ยามที่มนุษย์กำลังสูญเสียสติสัมปชัญญะของตนเองไปนั้น ย่อมสามารถทำเรื่องที่เสียสติไปได้ง่ายดาย ในยามนี้เสด็จอาเก้ามิได้ขยับตัวไปทำสิ่งใดมากนัก เขาย่อมไม่อาจหาโอกาสลงมือได้ การที่จะยั่วโมโหเสด็จอาเก้าได้นั้น เฟิ่งชิงเฉินนับว่าเป็นหมากที่จะนำมาใช้การได้ดีเลยทีเดียว
"ฝ่าบาททรงปราดเปรื่องยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ" ขันทีพลันแย้มยิ้มออกมาราวกับดอกเบญชมาศกำลังแย้มบานก็ไม่ปาน
การรายงานสถานการณ์ของเฟิ่งชิงเฉินให้เสด็จอาเก้าได้ฟังนั้น มิจำเป็นต้องเพิ่มเติมใส่ไฟลงไปไม่ เพียงแค่พูดไปตามความจริงเท่านั้น เพียงแค่บอกเล่าเรื่องราวที่เฟิ่งชิงเฉินร่ำไห้ราวกับสายเลือดลงไป เพียงแค่นี้ก็มากพอที่จะทำให้เสด็จอาเก้ารู้สึกปวดใจได้แล้ว
เขาได้ยินมาว่า ภายใต้อากาศที่หนาวเหน็บในคืนวันนั้น เฟิ่งชิงเฉินเอาแต่ก้มหน้าคุกเข่าอยู่แต่หน้าโรงหยก ทั่วร่างพลันแข็งทื่อไปด้วยความเย็นยะเยือก เมื่อนึกถึงความโศกเศร้าที่เฟิ่งชิงเฉินต้องพบเจอนั้น แม้แต่มนุษย์เช่นเขา เพียงแค่ได้ยิน ก็ยังอดรู้สึกที่จะเศร้าใจมิได้เช่นกัน
เด็กน้อยที่น่าสงสาร!
แน่นอนว่า เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกสงสารเพียงแค่พริบตาเดียวเท่านั้น เฟิ่งชิงเฉินจะเป็นหรือตายหาได้เกี่ยวข้องอันใดกับเขาไม่ เมื่อมาถึงทางแยกของวังหลังแล้ว ขันทีทำหน้าที่ของตนเองได้ดียิ่งนัก ก็พลันเอ่ยความคิดเห็นของเขาออกมา "ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ผินเหนียงเหนียงไม่กี่วันมานี้ พระนางแกะท่ารำระบำชนิดใหม่ขึ้นมาพ่ะย่ะค่ะ พลางกล่าวว่าต้องการให้ฝ่าบาทไปชื่นชม เหลียงเหนียงเหนียงแต่งกลอนหนึ่งบทพ่ะย่ะค่ะ ต้องการเชิญฝ่าบาทไปช่วยออกความคิดเห็น เจินเฟยเหนียงเหนียงกำลังคิดค้นขนมสูตรใหม่ขึ้นมา เรียกว่าไป๋เหยียนเฟย แม้แต่ฮองเฮายังเอ่ยปากชมว่าอร่อยยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ"
บทพูดด้านหน้า เป็นเพียงบทเสริมเท่านั้น ส่วนสำคัญคือด้านหลัง ฝ่าบาทที่ได้ยินเช่นนั้น พระองค์ย่อมเสด็จไปหาเจินเฟยเหนียงเหนียงอยู่แล้ว เมื่อพระสนมเอกเซี่ยได้ยินเช่นนั้น พระนางก็กำผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในมือจนยับยู่ยี่ไปในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...