นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 663

สรุปบท บทที่ 663 ทั้งเพลงหมัด เตะต่อย ไม่มีออมมือ: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

สรุปเนื้อหา บทที่ 663 ทั้งเพลงหมัด เตะต่อย ไม่มีออมมือ – นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

บท บทที่ 663 ทั้งเพลงหมัด เตะต่อย ไม่มีออมมือ ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาช้าย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เจ้ายังมีข้า ยังมีข้าอยู่ตรงนี้!

ข้าจักช่วยรักเจ้า เฉกเช่นบิดามารดาของเจ้าที่รักเจ้าด้วยเช่นกัน!

คำพูดนี้ เสด็จอาเก้าอยากจะเอ่ยออกมา ทว่ามิทันได้เอ่ยออกจากปาก เฟิ่งชิงเฉินที่รับรู้ได้มีคนกอดนางนั้น ปฏิกิริยาแรกของนางก็คือต่อกรกลับ พร้อมทั้งผลักคนตรงหน้าออกไปในทันที

ทว่า ยามที่เฟิ่งชิงเฉินลงมือนั้น หาใช่เพลงหมัดธรรมดาไม่ การเคลื่อนไหวของนางเต็มไปด้วยพละกำลังมากมายเลยทีเดียว สมองยังมิทันได้ประมวลผลอันใดออกไป มือไม้ของนางก็ออกท่าทางไปก่อนเสียแล้ว

พลัก เฟิ่งชิงเฉินพลันยกมือขึ้นมาผลักไปที่อกของเสด็จอาเก้า พร้อมทั้งผลักร่างของทั้งสองคนให้ออกจากกันในทันที นางยกขาขึ้นมาเตะไปที่เสด็จอาเก้า เสด็จอาเก้ารู้สึกเจ็บยิ่งนัก ทว่ายามที่พระองค์กำลังตกตะลึงอยู่นั้น เฟิ่งชิงเฉินก็ผละออกจากอ้อมกอดไปได้ในทันที พร้อมทั้งหมุนกายกลับมา ถอยตัวหนีห่างในทันควัน

ซู้ด เสด็จอาเก้าที่เจ็บเสียจนต้องร้องโอดครวญออกมา เฟิ่งชิงเฉินลงมือหนักยิ่งนัก แต่เขากลัวว่าหากตนเองลงมือไปนั้น จะเป็นการทำร้ายเฟิ่งชิงเฉินเอาได้ เขากล้าออมมือ แต่ไม่กล้าลงมือกับนาง จึงได้แต่ยืนให้นางกระทำเช่นนั้น

เสด็จอาเก้ามั่นใจได้ว่า ทรวงอกของเขาต้องช้ำในเป็นแน่ โดยเฉพาะขาของเขาต้องเป็นรอยฟกช้ำอย่างแน่นอน

"ใครกัน?" เฟิ่งชิงเฉินถอยไปสามเก้า พร้อมกับจับหน้าตนเอง เพื่อเช็ดหยาดน้ำตาที่ไหลออกมา สายตาพลันปรากฏความเย็นชาและไอสังหารออกมาในทันที เพียงแค่เงยหน้าขึ้นมานั้น ไอสังหารของนางก็พลันเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม ดวงตาทั้งคู่มีแต่ความกรุ่นโกรธที่กำลังปะทะออกมา "ตงหลิงจิ่วเป็นท่าน?"

แม้แต่คำว่าเสด็จอาเก้านางก็ไม่เรียก ดูเหมือนว่าเฟิ่งชิงเฉินในยามนี้จะโมโหจริง ๆ !

"แค่ก แค่ก เป็นเปิ่นหวาง" เสด็จอาเก้าพยายามที่จะนวดบริเวณทรวงอกของตนเอง ด้วยท่าทีนิ่งขรึม

เขากำลังรอ รอให้เฟิ่งชิงเฉินเอ่ยคำขอโทษออกมา

ยังมิทัน ที่จะล่วงรู้ว่าผู้ที่เข้ามาเป็นผู้ใด นางก็รีบร้อนลงมือเช่นนี้ นับว่าเป็นความเคยชินที่ไม่ดี

เป็นไปได้หรือไม่ว่า ทุกครั้งที่เขาจะต้องเข้าใกล้เฟิ่งชิงเฉิน จะต้องโดนนางทุบตีก่อนงั้นหรือ นี่มันอันตรายเกินไปแล้ว

ความเคยชินของเฟิ่งชิงเฉินเช่นนี้ นับว่าต้องเปลี่ยนมันเสียแล้ว!

เสด็จอาเก้าที่กล่าวกับภายในใจของตนเองเงียบ ๆ นั้น ก็พลันจ้องมองไปที่เฟิ่งชิงเฉิน เพื่อรอให้เฟิ่งชิงเฉินก้าวขึ้นมาด้านหน้า แต่ไม่คาดคิดว่า เฟิ่งชิงเฉินจะเริ่มจู่โจมเข้ามา แต่หาได้เป็นอย่างที่เขาคิดไม่

"ตงหลิงจิ่ว ท่านมาก็ดีแล้ว ข้าจะได้คิดบัญชีกับท่าน" เฟิ่งชิงเฉินพลันหยิบกระดาษจากพื้นขึ้นมา พร้อมกับก้าวขึ้นไปด้านหน้า "ผลัก" กระดาษพลันถูกโยนเข้าไปที่หน้าเสด็จอาเก้า

"ตงหลิงจิ่ว ท่านดูเสีย ท่านดูเสียว่าราชวงศ์ตงหลิงของท่านมันหยิ่งจองหองมากเพียงใด ดูเสียว่าราชวงศ์ตงหลิงของท่านเห็นแก่ตัวและไร้ยางอายเพียงใดกัน ตงหลิงจิ่ว ราชวงศ์ตงหลิงของท่านหาได้มีผู้ใดเป็นคนดีไม่ พวกท่านมันไร้ใจ ท่านก็เช่นกัน พวกเจ้ามันเป็นคนบ้า"

กระดาษที่ถูกปาเข้ามาที่หน้านั้น พลันบาดแก้มเสียจนรู้สึกเจ็บปวดไปในทันที เสด็จอาเก้าในยามนี้โมโหยิ่งนัก

เขาต้องการมาปลอบใจเฟิ่งชิงเฉินนับว่าไม่ผิดนัก แต่นั่นมิได้หมายความว่าจะทำเช่นไรกับเขาก็ได้ เขาหาได้ทำผิดอันใดไม่ ถึงแม้จะทำผิดแล้วอย่างไร เขาก็มีความภาคภูมิใจให้เคารพด้วยเช่นกัน เฟิ่งชิงเฉินทำเกินไปแล้ว

เขาโตมาจนป่านนี้ ยังมิเคยมีผู้ใดโยนสิ่งของใส่หน้าเขาเลยสักครั้ง ทั้งยังไม่มีผู้ใดกล้ามาชี้หน้าต่อว่าเขาอีกด้วย เฟิ่งชิงเฉินนับว่าเป็นคนแรก

ดีมาก!

เฟิ่งชิงเฉิน เปิ่นหวางจะจำเอาไว้

เฟิ่งชิงเฉินที่ไม่พอใจนั้น เสด็จอาเก้าย่อมไม่พอใจมากกว่า ความคิดที่จะกอดเฟิ่งชิงเฉินเพื่อเอ่ยปลอบใจนางนั้น พลันหายไปกับสายลมในทันที พร้อมกับกวาดตามองก้อนกระดาษที่อยู่ตรงหน้า พร้อมคลี่มันออกต่อหน้าเฟิ่งชิงเฉินด้วยฝ่ามือที่สั่นเทา

"เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าควรสวดมนตร์อ้อนวอนให้กระดาษสองแผ่นนี้มีค่ามากพอให้เปิ่นหวางต้องดู มิเช่นนั้น เปิ่นหวางจะไปคิดบัญชีกับเจ้า ที่กล้านำมันมาโยนใส่หน้าของเปิ่นหวาง"

"คิดก็คิดไป ข้าเกรงกลัวท่านหรืออย่างไรกัน ท่านต้องการมาคิดบัญชีกับข้า ข้ายังมิทันได้คิดบัญชีกับท่านเสียด้วยซ้ำ" เฟิ่งชิงเฉินพลันเงยหน้าขึ้นมอง พร้อมกับจ้องหน้ากลับไปในทันที

"เช่นนั้นเล่า? ท่านคิดว่าหากไม่มีผู้ใดตั้งใจเปิดเผยความลับให้ข้าฟัง แล้วข้าจะไม่สามารถสืบหามันได้งั้นหรือ ? แม้แต่ท่านที่มิรู้เรื่องนี้ แล้วข้าจะสามารถหาข้อมูลพวกนี้ได้ภายในระยะเวลาสั้นได้อย่างไรกัน แน่นอน ว่าหาใช่องค์รัชทายาทเพียงผู้เดียวไม่ นอกจากองค์รัชทายาท ย่อมมีผู้อื่นอีกมาก " คำพูดของเฟิ่งชิงเฉินในยามนี้ เต็มไปด้วยความเย้ยหยันมาก แต่นางก็บอกเล่าเรื่องราวให้เสด็จอาเก้าฟังจนหมด

นางรู้ ว่าการตายของบิดามารดาของนางไม่เกี่ยวข้องอันใดกับเสด็จอาเก้า แต่นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโมโหออกมา ผู้ใดให้เสด็จอาเก้าสกุลตงหลิงกัน ผู้ใดให้เขาเกิดในราชวงศ์ตงหลิงกันเล่า

เสด็จอาเก้าค่อย ๆ ถอนหายใจออกมา เขาไม่ชอบเลย เขาไม่ชอบที่เฟิ่งชิงเฉินชิงตัดสินคนไปก่อนหน้านี้ นี่มิเหมือนเฟิ่งชิงเฉินคนเดิมเลยแม้แต่น้อย

"ชิงเฉิน เจ้าใจเย็น ๆ ก่อน ในเมื่อเจ้ารู้แล้วว่าองค์รัชทายาทจงใจเปิดเผยข้อมูลนี้ให้เจ้ารู้ เจ้าก็ควรจะรู้ว่าองค์รัชทายาทมีจุดประสงค์เช่นไร" เสด็จอาเก้ารู้ดีว่าเรื่องนี้มีผลกระทบต่อเฟิ่งชิงเฉินมากนัก แต่ทว่า เขาก็ยังคาดหวังว่าให้นางค่อย ๆ ใจเย็นคิดทบทวนเรื่องราวดี ๆ

เรื่องนี้ หาได้ง่ายดายอย่างที่คิดไม่

"ใจเย็นหรือ? เสด็จอาเก้า ท่านคิดว่าข้ายังใจเย็นไม่พอหรือ? ข้าควรจะทำเช่นไรถึงจะเรียกว่าใจเย็นได้ จะให้ข้าทำเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร ทำเหมือนกับว่าไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้นงั้นหรือ พร้อมทั้งให้ข้าจงรักภักดีต่อราชวงศ์ตงหลิงต่อไปหรืออย่างไร เพื่อรอให้ฝ่าบาทผลักข้าออกไปตายงั้นหรือ?

เสด็จอาเก้า ข้าจะบอกอะไรกับท่านเอาไว้ หากมิใช่เพราะข้ามีความใจเย็นมากพอ ท่านย่อมไม่เห็นข้าอยู่ที่นี่แล้ว ขอเพียงแค่ข้าได้รู้ความจริงในวินาทีนั้น ข้าคงจะหอบหิ้วดินปืน เข้าพระราชวัง พร้อมทั้งจุดไฟเผาจักรพรรดิกับฮองเฮาให้ตาย เพื่อให้พวกเขาเป็นที่ฝังศพร่างของบิดามารดาของข้า

เสด็จอาเก้า ท่านรู้หรือไม่ ว่าข้ามีความสามารถมากเพียงใด ขอเพียงแค่ข้าได้ฝังระเบิดเอาไว้ เพียงแค่กดมันลงไปเบา ๆ ก็สามารถทำให้จักรพรรดิกับฮองเฮาตายโดยไร้กระดูกฝังได้แล้ว ส่วนการที่ข้าจะแอบเข้าไปในวังได้เช่นไรนั้น นั่นมิใช่เรื่องยาก ต้องขอบคุณที่ท่านพาข้ารู้เรื่องเส้นทางลับภายในราชวังทั้งหมด"

ใจเย็น นางยังใจเย็นไม่พออีกหรือ นางหาได้ทำสิ่งใดไม่ ต้องให้นางทำเช่นไร ถึงจะเรียกว่าใจเย็นกัน เฟิ่งชิงเฉินพลันทำกิริยาที่ก้าวร้าวออกมา พร้อมด้วยสีหน้าที่เย้ยหยัน

เมื่อมองเสด็จอาเก้าในยามนี้แล้ว นางคล้ายกับมองบุรุษที่นางไม่รู้จัก

ความรู้สึกภายในใจของเสด็จอาเก้ายิ่งย่ำแย่เข้าไปอีก ภายในใจพลันสงสัยเกี่ยวกับคนที่ลอบส่งข่าวยิ่งนัก เหตุใดถึงไม่รีบบอกเล่าเรื่องราวที่เฟิ่งชิงเฉินรู้ข่าวในวันนี้ให้เขาฟัง ทำร้ายเขาที่เพิ่งมาถึง ก็เจอเข้ากับปากกระบอกปืนที่เฟิ่งชิงเฉินชี้มาในทันทีเช่นนี้

กลับไป เขาจะต้องไปเอาองครักษ์เงาที่คอยปกป้องเฟิ่งชิงเฉินอยู่ไปฝึกปรือใหม่เสีย องครักษ์เงาที่ดี ไม่เพียงแต่ต้องปกป้องเจ้านายของตนเองได้ ต้องเรียนรู้ที่จะแบ่งเบาภาระของเจ้านายตนเองด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ