เป็นเพราะเฟิ่งชิงเฉินโกรธมาก เมื่อรู้ซึ้งถึงการตายของท่านแม่ทัพเฟิ่งและฮูหยินเฟิ่ง เขาไม่ควรคิดบัญชีกับเฟิ่งชิงเฉินที่เป็นเช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินในสภาพที่ไร้สตินั้น นับว่ารับมือยากเอาการ ทั้งยังหยิ่งยโสเสียจนเขาปวดหัว
เสด็จอาเก้าค่อย ๆถอนหายใจออกมา พร้อมทั้งเอ่ยเกลี้ยกล่อมอย่างเต็มที่ "ชิงเฉิน เจ้าอย่าเป็นเช่นนี้ นี่มิเหมือนกับเจ้าเลยแม้แต่น้อย หากเจ้าระเบิดจักรพรรดิกับฮองเฮาลงไปนั้น บิดามารดาของเจ้าก็ไม่อาจฟื้นกลับมาได้เช่นกัน เจ้าเองก็จะถูกจับเข้าคุกอีกด้วย ความรู้สึกที่ทำให้ญาติใกล้ชิดเป็นทุกข์ แต่ศัตรูเป็นสุขเช่นนี้ พวกเราไม่ควรทำ หากเจ้าคิดจะแก้แค้น มิควรนำวิธีเช่นนี้มาแก้แค้น"
เอาเถอะ เขายอมรับที่เฟิ่งชิงเฉินพูดมาไม่ผิดนัก เฟิ่งชิงเฉินในยามนี้ นางนับว่าใจเย็นมากพอแล้ว หากนางมิสนสิ่งใดและวิ่งเข้าใส่เลยนั้น เกรงว่าหากนางระเบิดจักรพรรดิและฮองเฮาเข้าจริง ๆ เรื่องคงยุ่งยากกว่านี้เป็นแน่
เมื่อถึงเวลานั้น ตงหลิงจะต้องตกอยู่ในความโกลาหลอย่างแน่นอน อีกทั้งสามแคว้นย่อมต้องใช้โอกาสอันดีเช่นนี้ ในการยกทัพเข้ามาประชิดเป็นแน่ เมื่อถึงเวลานั้น ผู้ที่ต้องรับเคราะห์มากที่สุดย่อมต้องเป็นเหล่าราษฎรของตงหลิง รวมไปถึงเฟิ่งชิงเฉินด้วยเช่นกัน
ความปวดใจของเสด็จอาเก้าและความผิดหวังของเสด็จอาเก้านั้น เฟิ่งชิงเฉินล้วนแต่มองเห็นทุกอย่าง แต่นางไม่อาจควบคุมอารมณ์ของตนเองในยามนี้ได้ เพียงแค่เห็นเสด็จอาเก้าเดินเข้ามา นางก็อดที่จะสาดคำพูดร้ายกาจออกไปไม่ได้เช่นกัน
นางเกลียดตัวเองที่เป็นเช่นนี้ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าตนเองไม่มีสิทธิจะทำเช่นนี้ แต่ตนเองกลับเอาแต่ใจตนเองยิ่งนัก ทั้งยังมิสนใจสิ่งใดอีกด้วย
เฟิ่งชิงเฉินค่อย ๆ หลับตาลง พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ พร้อมกับบอกกับตนเองว่า เช่นนี้ไม่ได้ ถึงแม้ว่าเสด็จอาเก้าจะชอบนางแล้วอย่างไร โปรดปรานนางแล้วอย่างไร แต่พระองค์ก็ไม่อาจทนนิสัยที่ไร้เหตุผลของนางได้เช่นกัน
"ฟู่ เสด็จอาเก้า ท่านพูดมิผิด ข้าจะระเบิดจักรพรรดิกับฮองเฮาแล้วเป็นเช่นไร ในเมื่อบิดามารดาของข้าก็ไม่อาจฟื้นคืนมาได้อยู่ดี" ถึงแม้ว่านางจะระเบิดคนทั้งโลกแล้วอย่างไร นางก็ไม่อาจได้รับความรักของบิดามารดาของตนเองอีกแล้ว
นางเฟิ่งชิงเฉิน ถูกกำหนดให้ไม่มีสายสัมพันธ์ของบิดามารดาเช่นนี้ ในจุดนี้นั้น นางไม่อาจยอมรับโชคชะตาของตนเองที่เป็นเช่นนี้ได้ แม้ว่าตนเองจะไม่อยากได้ก็ตาม
"แค่เจ้าเข้าใจถึงจุดนี้ได้ก็พอแล้ว ชิงเฉิน เรื่องนี้พวกเราต้องคิดมันอย่างรอบคอบ อีกทั้งยังใจร้อนกับเรื่องนี้ไม่ได้อีกด้วย เจ้ามิควรหุนหันหลันแล่นไป สุดท้าย เปิ่นหวางรับปากเจ้า เปิ่นหวางจะไม่ทำให้ท่านแม่ทัพเฟิ่งและฮูหยินเฟิ่งต้องตายเปล่าอย่างแน่นอน"
เมื่อเสด็จอาเก้าเห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินมีท่าทีสงบลงแล้วนั้น เขาพลันรู้สึกโล่งอกออกมาในทันที พร้อมทั้งค่อย ๆ แตะไปที่อาภรณ์ของเฟิ่งชิงเฉิน เมื่อเห็นว่านางมิได้มีท่าทีปฏิเสธนั้น สีหน้าก็บังเกิดความปิติยินดีไปในทันที พร้อมทั้งค่อย ๆ มีความกล้า ที่จะลากเฟิ่งชิงเฉินเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตนเอง
เฟิ่งชิงเฉินขัดขืนไปครู่หนึ่ง ทว่านางก็มิได้ผละกายออกมา ทั้งยังมิได้เคลื่อนไหวอันใดอีกด้วย พร้อมกับยืนพิงไหล่ของเสด็จอาเก้าอยู่เช่นนั้น พร้อมทั้งปล่อยให้เสด็จอาเก้าลูบหลังนางอยู่เช่นนั้น
"ชิงเฉิน ข้ารู้ว่าใจของเจ้ารู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก ข้ารู้ว่าเจ้ามีความเกลียดชังมากเพียงใด หากเจ้ารู้สึกไม่สบายใจนัก เจ้าก็ด่าข้า ตีข้าเสีย แต่ทว่า อย่า อย่าได้คิดทำร้ายตนเองเลย เจ้าที่เป็นเช่นนี้ทำให้ข้ารู้สึกปวดใจยิ่งนัก เจ้ารู้ว่าในยามนี้มิได้มีอิสระมากนัก ชิงเฉิน เจ้ามิต้องกังวลไป"
ในยามนี้เขาถูกฝ่าบาทจับตามองทุกฝีก้าว การจะออกมาสักครั้งหนึ่งนับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถ้าหากว่าเฟิ่งชิงเฉินมิอาจใจเย็นลงได้นั้น เขาที่ต้องอยู่ในคุกนั้น ย่อมร้อนใจจนเป็นบ้าอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น หากเขาทำสิ่งใดไร้สติลงไปละก็ ย่อมเป็นเรื่องง่าย ๆ ต่อองค์จักรพรรดิแล้ว
ที่จริงแล้ว การมีคนมาเอาอกเอาใจนับว่ารู้สึกดียิ่งนัก ยามที่นางรู้สึกเศร้าใจนั้น การมีคนผู้หนึ่งให้พึ่งพาได้ นับว่าโชคดียิ่งนัก เมื่ออยู่ต่อหน้าเสด็จอาเก้านั้น นางมิต้องทำตัวเป็นเข้มแข็ง ไม่ต้องมีความกล้าหาญ นางเป็นเพียงแค่เฟิ่งชิงเฉินเท่านั้น
เฟิ่งชิงเฉินกำหมัด พร้อมกับทุบไปที่เสด็จอาเก้าเบา ๆ "ด่าท่าน ด่าท่านไปแล้วมีประโยชน์อันใดกัน ด่าท่าน บิดามารดาข้าก็ไม่อาจฟื้นขึ้นมาได้ ด่าท่าน มันก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงในสิ่งที่พี่ชายท่านและพี่สะใภ้ท่านทำร้ายบิดามารดาข้าไปได้
ตงหลิงจิ่ว ข้าจะบอกท่าน ข้าเกลียดท่าน เหตุใดท่านต้องเป็นคนสกุลตงหลิงด้วย เหตุใดท่านต้องไปเป็นพี่น้องกับคนบ้าเช่นนั้นด้วย เหตุใดท่านถึงดีกับข้าถึงเพียงนี้ เหตุใด"
เมื่อมาถึงตอนท้ายนั้น จากที่นางเริ่มตีเบา ๆ ก็เริ่มลงน้ำหนักมือขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ดังปักปักปัก เฟิ่งชิงเฉินหาได้ควบคุมน้ำหนักตนเองไม่ หมัดทุกครั้งที่ปล่อยออกไปนั้น ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เท้าของนางก็กระทืบลงไปที่ขาเสด็จอาเก้าเช่นกัน
ในเมื่อเสด็จอาเก้ากล่าวว่าให้นางตีนางด่าได้เช่นนี้ หากนางไม่คว้าเอาโอกาสนี้เอาไว้ก็กระไรอยู่ ต่อไปนางอาจจะไม่มีโอกาสเช่นนี้แล้วก็เป็นได้ อีกทั้งการที่นางตีเสด็จอาเก้าเช่นนี้นับว่าเบาแล้ว
ซู้ด
เสด็จอาเก้ารู้สึกเจ็บไปทั่วตัว หากเฟิ่งชิงเฉินยังทุบตีเขาเช่นนี้ต่อไป วันพรุ่งเขาลุกขึ้นจากเตียงมาเมื่อใด เกรงว่าคงได้เกิดอาการปวดร้าวไปทั่วตัวเป็นแน่ แต่ในเมื่อเขาเป็นคนพูดออกไปแล้วนั้น เขาก็ไม่กล้าขัดขืนเฟิ่งชิงเฉินได้เช่นกัน เพียงแค่ให้เฟิ่งชิงเฉินได้ระบายอารมณ์ออกมาเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...