เสด็จอาเก้าเดินทางไปยังจวนเฟิ่ง เขาตรวจสอบพบว่ามีขุนนางสองใจที่หวังทำลายจักรพรรดิอย่างแน่นอน แน่นอนว่าจักรพรรดิไม่มีทางลงโทษที่เสด็จอาเก้าเรื่องหลบหนีไปด้วยเรื่องส่วนตัว
เนื่องจากท้ายที่สุด การหลบหนีของเสด็จอาเก้าก็เปรียบเสมือนการทำเรื่องบางอย่างให้กับเขา ค้นพบภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นกับเขา ถ้าหากลงโทษก็เหมือนเป็นการทำร้ายความรู้สึกมากเกินไป
เสด็จอาเก้าพูดถึงเรื่องนี้ แน่นอนว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับจักรพรรดิ เสด็จอาเก้าเชื่อว่าการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ จักรพรรดิได้รับกำไรอันยิ่งใหญ่
จักรพรรดิไม่พูดถึงเรื่องการหลบหนี เขามองดูเสด็จอาเก้าด้วยสายตาขี้เล่น ชายผู้นี้มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายของเขา แต่ความสงบเยือกเย็นนั้นลูกชายของเขาเทียบไม่ได้เลย
“น้องเก้า ทำไมเจ้าต้องเอาเรื่องนี้มาบอกข้า?” ตามเหตุผลแล้ว เสด็จอาเก้าควรจะติดต่อกับทางด้านของตระกูลลู่ ร่วมมือกับตระกูลลู่ ลากเขาลงสู่พื้นดินถึงจะถูก
ซึ่งนี่ถึงจะสอดคล้องกับการต่อสู้ทางการเมืองและสอดคล้องกับจุดยืนร่วมกันของพวกเขา
การเคลื่อนไหวของเสด็จอาเก้าทำให้จักรพรรดิรู้ไม่เข้าใจ เขากำลังทำเพื่อเฟิ่งชิงเฉินอยู่หรือเปล่า?
เป็นไปไม่ได้ ผู้ชายตระกูลตงหลิงอย่างพวกเขา ไม่มีทางทำเรื่องที่อาจจะทำให้ตนเองสูญเสียผลประโยชน์เพียงเพราะผู้หญิงคนเดียว
เสด็จอาเก้าเงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิ “ท่านพี่ ตั้งแต่ข้าเรียกท่านว่าจักรพรรดิ ท่านก็กลายเป็นจักรพรรดิที่เป็นพี่ชายของข้า ราชวงศ์ตงหลิงของพวกเราต่อสู้ภายในกันอย่างไร นั่นเป็นเพราะของพวกเรา มันคือเรื่องระหว่างพี่น้อง ตระกูลลู่เป็นคนนอก แต่กล้าวางแผนทำร้ายคนในตระกูลตงหลิงอย่างพวกเรา พวกเขาสมควรตาย!”
น้ำเสียงในคำพูดของเสด็จอาเก้าสื่อความหมายออกมาได้อย่างชัดเจน ไม่มีทางที่จักรพรรดิจะสัมผัสไม่ได้ ในตอนนี้ไม่ว่าจิตใจจะแข็งแกร่งแต่ไหน แต่จักรพรรดิก็อดใจสั่นไม่ได้
ใช่ การต่อสู้ระหว่างตระกูลตงหลิงของพวกเขาจะเป็นอย่างไรมันก็เป็นเรื่องภายในตระกูล คนนอกไม่เกี่ยวอะไร แต่วางแผนมาทำร้ายคนในตระกูลของเขา ตระกูลลู่สมควรตาย
ข้าไม่สามารถแตะต้องตระกูลหวังที่มีรากฐานหยั่งลึกได้ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้มั่งคั่งในแห่งซานตง!
จักรพรรดิมีความคิดจะจัดการตระกูลลู่อยู่ในใจ เสด็จอาเก้าเงยหน้ามองจักรพรรดิ มือของเขาหยิบถ้วนชาและจิบอย่างใจเย็น
ตระกูลลู่มันเพียงพอที่จะทำให้ความโกรธของเฟิ่งชิงเฉินลดลง ส่วนเรื่องอื่นค่อยไว้จัดการทีหลัง!
เนื่องจากเรื่องของตระกูลลู่ ทำให้สองพี่น้องที่น่านับถือของตระกูลตงหลิงร่วมมือกัน มันเป็นอะไรที่ยากจะเห็น จักรพรรดิไม่แค้นหรือไล่ต้อนต่อไป เสด็จอาเก้าเองก็ไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้า เป็นแบบนี้ ในช่วงระยะเวลาอันสั้น ทั้งหมดคงไปได้ดีโดยไม่มีอะไรยุ่งเกี่ยวกัน
จักรพรรดิเดินทางออกจากคุกใหญ่แห่งศาลราชวงศ์เพื่อกลับไปยังพระราชวังในตอนเช้าตรู่ เสด็จอาเก้ายังคงอยู่ในคุกใหญ่แห่งศาลราชวงศ์ต่อไป ยังไม่มีอิสระในช่วงเวลานี้ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเหมือนกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ฤดูหนาวเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการนอนหลับ เฟิ่งชิงเฉินเหนื่อยมาทั้งวัน เมื่อหัวถึงหมอนก็หลับไปเป็นเวลานาน ตอนสายของวันยังไม่เห็นหน้า เหล่าสาวใช้รู้นิสัยของสาวใช้ดีจึงไม่มีใครกล้าเข้าไปรบกวน แต่สำหรับคุณชายหยวนซีนั้นแตกต่างกันออกไป
การผ่าตัดเมื่อวานนี้ คุณชายหยวนซีอยู่ในอาการกังวลและหวาดกลัว เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบกว่าตนเองกำลังอยู่ในห้อง ตอนที่รู้สึกตัวก็ลุกขึ้นมาจากเตียงในทันที จากนั้นถามสาวใช้ว่าชุยห้าวถิงอยู่ที่ไหน และรีบออกไป
ด้วยผมที่กระเซอะกระเซิงมันจะไปมีภาพลักษณ์ของไท่ซือที่โด่งดังอยู่ได้อย่างไร แน่นอน......ผู้ที่ได้เห็นฉากนี้มีอยู่ไม่มาก คนรับใช้ในจวนเฟิ่งแต่ละคนล้วนปากแข็ง ไม่ต้องกังวลว่าเรื่องนี้จะถูกเผยแพร่ออกไปให้เสียหน้าของไท่ซือ
คุณชายหยวนซีรีบวิ่งมายังห้องผู้ป่วย สัมผัสชุยห้าวถิงในทันที เมื่อรับรู้ว่าลมหายใจของชุยห้าวถิงยังปกติ สีหน้าไม่เลวก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกทันที
“โชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่ โชคดีเหลือเกิน” เหมือนกับคุณชายหยวนซีได้รีบอิสระ ดวงตาของเขามีสีแดงพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์
ซุนซือสิงถูกคุณชายหยวนซีทำให้ตกใจ เห็นว่าคุณชายหยวนซีกำลังสัมผัสร่างกายของชุยห้าวถิงก็รีบก้าวออกมาเพื่อให้คำแนะนำ และพูดอธิบายออกมาทันทีถึงเหตุผลที่ทำไมชุยห้าวถิงยังไม่ฟื้นขึ้น
คุณชายหยวนซีพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซุนซือสิงเห็นเช่นนั้นก็พูดแจ้งเตือนคุณชายหยวนซีอย่างนุ่มนวล ให้เขากลับไปเพื่อจัดการกับตัวเองก่อน รูปลักษณ์แบบนี้มันดูไม่ได้
ไม่ง่ายเลยกว่าจะทำให้คุณชายหยวนซีออกไปได้ ซุนซือสิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่จะไปรู้ได้อย่างไร......หลังจากผ่านไป 15 นาที คุณชายหยวนซีกลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาจัดการกับตัวเองเรียบร้อย ซุนซือสิงเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะไล่เขาออกไป เขารู้ว่าชุยห้าวถิงในตอนนี้ห้ามแตะเนื้อต้องตัวตามใจชอบ เพราะอาจส่งผลกระทบต่ออาการป่วยของชุยห้าวถิง เขาถามออกมาไม่ยอมหยุดว่า “ทำไมถึงยังไม่ฟื้นขึ้นมาอีก”
“เมื่อไหร่จะฟื้นขึ้นมา”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับชุยห้าวถิงหรือเปล่า”
……
ท่าทางกระวนกระวายและกระสับกระส่ายของคุณชายหยวนซี ไม่เหลือร่องรอยของคุณชายแห่งตระกูลชุย จิตใจอันงดงามของไท่ซือมันก็ไม่ต่างอะไรไปจากคนธรรมดา คนในครอบครัวที่เป็นหัวญาติพี่น้องตนเอง เมื่อเทียบกับความสงบสุขของเมื่อวาน ช่างเป็นอะไรที่ต่างราวฟ้ากับเหว
ซุนซือสิงเคารพในตัวคุณชายหยวนซีมาโดยตลอด หลังจากนั้นคุณชายหยวนซีกล่าวออกมาว่า “เมื่อไหร่จะฟื้นขึ้นมา?” จากนั้นก็พูดขึ้นอีกว่า “ทำไมถึงยังไม่ฟื้น?” และสุดท้ายซุนซือสิงก็โกรธในที่สุด
เขากำลังสังเกตการฟื้นตัวของชุยห้าวถิง บันทึกการเต้นของหัวใจและอุณหภูมิร่างกาย แต่กลับถูกคุณชายหยวนซีรบกวน ทำอะไรไม่ได้เลย ซุนซือสิงโกรธมาก เป็นความโกรธที่ยากจะหยั่งถึง เขายกเท้าเตะคุณชายหยวนซีและพูดออกไปว่า “ไปถามอาจารย์ของข้า”
มีเรื่องอะไรก็ไปถามท่านอาจารย์ นี่เป็นสิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินพูดออกมา และซุนซือสิงก็ดำเนินการเช่นนั้นมาโดยตลอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...