นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 676

สรุปบท 676 ความร่วมมือ เรื่องเก่าอันบ้าบอ: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

676 ความร่วมมือ เรื่องเก่าอันบ้าบอ – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอนนี้ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง 676 ความร่วมมือ เรื่องเก่าอันบ้าบอ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

หยุนเซียวและหวังจิ่นหลิงมาที่นี่หรือ?

เกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้ถึงได้เดินทางมาพร้อมกัน แล้วจะเจรจาเรื่องจริงจังได้อย่างไรเฟิ่งชิงเฉินเริ่มปวดหัว แต่เมื่อคิดว่าหวังจิ่นหลิงอยู่ที่นี่ ก็มีคนช่วยนางจัดการเซวียนเส้าฉี ความรู้สึกของนางรู้สึกดีขึ้น

“นายท่านน้อย ขอตัวก่อน” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวออกมาประโยคหนึ่งแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจว่าเซวียนเส้าฉีจะยืนอยู่ตรงนั้นและได้รับบาดเจ็บเพียงใด

หยุนเซียว เจ้าชายใหญ่ หากเขาจำไม่ผิดละก็หยุนเซียวน่าจะเป็นเจ้าชายใหญ่ของตระกูลหยุน คนเดียวที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นเจ้าชายใหญ่ ควรเป็นหวังจิ่นหลิงของตระกูลหวัง

เฟิ่งชิงเฉินรู้จักสองคนนี้ สามารถทำให้พวกเขามาเอาอกเอาใจได้

เซวียนเส้าฉีพบว่าหนทางการตามจีบภรรยาของเขาดูเหมือนจะไม่ง่าย แต่เขาเป็นคนที่มีความดื้อรั้น ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

ทงจือเห็นเซวียนเส้าฉียืนอยู่คนเดียวจึงรู้สึกเห็นใจเขาเล็กน้อย เมื่อเขาได้พบกับคุณหนูของพวกนาง ชายหนุ่มคนนี้ช่างน่าสมเพชเหลือเกิน

แม้แต่เจ้าชายใหญ่ยังต้องพบกับเรื่องสลดใจ นับประสาอะไรกับนายน้อยเหล่านี้ คุณหนูของพวกนางเป็นคนแปลก ยามใจดีก็ดีเสียยากเกินพรรณนา ยามโหดเหี้ยมก็โหดเสียยิ่งกว่ากระไรดี

ความเห็นอกเห็นใจก็ส่วนความเห็นอกเห็นใจ ทงจือหันหลังกลับและจากไปอย่างไร้ความปรานี ใครให้เขามีตาหามีแวว ตามตื๊อคุณหนูอยู่ได้

หยุนเซียวและหวังจิ่นหลิงล้วนเป็นเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ ขณะนี้พวกเขากำลังนั่งอยู่ในห้องโถงของจวนเฟิ่ง ทั้งห้องโถงสว่างไสวขึ้นเพราะทั้งสองคน เฟิ่งชิงเฉินยืนอยู่นอกประตู สีหน้านิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่......

ในที่สุดนางก็เข้าใจว่าแขกผู้มาเยือนสร้างความสว่างไสวแก่จวนนั้นคืออะไร ห้องโถงของนางไม่ถือว่าหรูหรา แต่เนื่องจากชายสองคนนี้ผู้โดดเด่นกำลังนั่งอยู่ที่นี่ พวกเขายกระดับห้องโถงของจวนเฟิ่งขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง

“เจ้าชายทั้งสองเดินทางมาที่นี่ ชิงเฉินไม่ได้เดินทางออกไปรับ โปรดยกโทษให้ชิงเฉินด้วย” เดิมทีเฟิ่งชิงเฉินเพียงต้องการล้อเลียนเขา แต่เมื่อเห็นหยุนเซียวและหวังจิ่นหลิงนั่งด้วยท่าทีจริงจังจึงได้คารวะอย่างเป็นทางการ

หยุนเซียวลุกขึ้นอย่างสุภาพพร้อมทักทายกลับ แต่หวังจิ่นหลิงไม่ขยับเขยื้อน เขายิ้มแล้วกล่าวว่า “ชิงเฉินกำลังตำหนิว่าข้ามาเร็วหรือ?”

อย่าเห็นว่ารูปลักษณ์อันสูงส่งและสุภาพเรียบร้อยของเฟิ่งชิงเฉินเป็นเช่นนี้ ที่จริงแล้วนางเป็นคนที่ไม่ชอบกฎเกณฑ์มากที่สุด แน่นอนว่าหากต้องการให้นางทำ นางก็สามารถทำได้ แต่เฟิ่งชิงเฉินเช่นนั้นจะขาดรสชาติความดุดัน

หวังจิ่นหลิงไม่เคยถือสาเฟิ่งชิงเฉินเกี่ยวกับเรื่องมารยาทเหล่านี้

“จะเป็นไปได้อย่างไร เจ้าชายใหญ่มาเมื่อใดก็ตาม ชิงเฉินล้วนยินดีต้อนรับท่าน” เฟิ่งชิงเฉินเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม รู้สึกว่าคำพูดของหวังจิ่นหลิงหมายถึงบางสิ่งบางอย่างตามที่คาดไว้ หวังจิ่นหลิงกล่าวโดยไม่รอให้เฟิ่งชิงเฉินนั่งลงเสียก่อนว่า “ข้าคิดว่าชิงเฉินตำหนิข้าที่มาเร็วเกินไป ทำให้รบกวนเวลาที่เจ้าใช้กับคู่หมั้นคนนั้นเสียอีก”

อึก......เฟิ่งชิงเฉินร่างกายโอนเอนเกือบล้ม

"เจ้าได้ยินเรื่องคู่หมั้นนั้นมาจากที่ใด?" เฟิ่งชิงเฉินจ้องไปทางสาวรับใช้ซึ่งเข้ามารินน้ำชาให้อย่างดุดัน

ไอ้พวกนี้ นับวันยิ่งมากเรื่องมากความเข้าไปทุกที

“ข้าได้ยินมาผิดหรือ? คนผู้นั้นไม่ใช่คู่หมั้นของเจ้าตั้งแต่เด็กหรือ? อีกฝ่ายมาหาถึงประตูพร้อมจี้หยกในมือเพื่อขอแต่งงาน?” คำพูดของหวังจิ่นหลิงเต็มไปด้วยดินปืนทำเอาแทบระเบิด เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกผิดทันที ต่อมานางก็ได้สติ จะไปรู้สึกผิดทำไมกัน แต่เมื่อหันหลังกลับก็ได้พบกับแววตาของหยุนเซียว ดูเหมือน......

ทั้งคนที่ควรรู้และไม่ควรรู้ บัดนี้ล้วนรู้กันสิ้น

อนิจจา......เฟิ่งชิงเฉินถอนหายใจอย่างหนัก

เฟิ่งชิงเฉินหันไปหาหยุนเซียวแล้วกล่าวว่า “คุณชายหยุน อาการของคุณชายชุยเริ่มดีขึ้นแล้ว เขาตื่นขึ้นมาเมื่อวานนี้ เจ้าต้องการไปพบเขาหรือไม่?”

นี่คือข้ออ้างในการส่งแขก แน่นอนว่าหยุนเซียวเข้าใจ แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจก็คือเฟิ่งชิงเฉินรักษาโรคให้ห้าวถิงได้จริง

“อาการของห้าวถิง? เจ้าเริ่มรักษาแล้วหรือ?” ไม่ใช่ว่าหยุนเซียวไม่สนใจชุยห้าวถิง แต่เป็นเพราะเขาไม่คิดว่าเฟิ่งชิงเฉินจะสามารถรักษาชุยห้าวถิงได้ตามที่สัญญาไว้หลังจากผ่านเหตุการณ์เรื่องราวใหญ่โตเช่นนั้น

แม้เขาจะไม่ได้เห็นด้วยตาของคน แต่เขาก็เคยได้ยินว่าเฟิ่งชิงเฉินหมดสติไปตกอยู่ในอันตราย เขาไม่คิดว่านางจะสามารถรักษาชุยห้าวถิงได้ในเวลาต่อมา

หยุนเซียวพบว่าเขาประเมินเฟิ่งชิงเฉินต่ำเกินไป

“ข้าได้ตกลงกับคุณชายชุยเอาไว้แล้ว แน่นอนว่าควรทำให้สำเร็จตามที่สัญญาไว้ บัดนี้คุณชายชุยอยู่ในสถานะฟื้นตัว ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี”

เฟิ่งชิงเฉินอธิบายอย่างอดทน หยุนเซียวดูตกใจ นางจึงอธิบายอีกครั้ง “คุณชายหยุน งานคืองาน ชีวิตคือชีวิต ข้าไม่อาจให้ชีวิตมามีผลกระทบต่องานของข้า และข้าจะไม่ให้งานมามีผลต่อชีวิต การรักษาคุณชายชุยคืองานของข้า ข้าจริงจังกับงาน หากคุณชายหยุนไม่มีเรื่องใดต้องทำมากมาย หลังจากเดินทางไปดูคุณชายชุยแล้ว ข้าอยากจะคุยกับคุณชายหยุนเกี่ยวกับอาการของเจ้าด้วย"

เฟิ่งชิงเฉิน ไม่ใช่คนบ้างาน แต่วันนี้นางมาหาหยุนเซียวเพื่อสิ่งนี้

หือ...... ไม่ว่าการแสดงออกของหยุนเซียวจะดีแค่ไหน แต่เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเฟิ่งชิงเฉิน การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไป

เขารู้ในอาการป่วยของเขาดี เขาจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงหนึ่งปีแล้ว แต่เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินเช่นนี้ ดูเหมือนว่าจะมีวิธีทำให้เขามีความหวังมากขึ้น จะมีปาฏิหาริย์เช่นเดียวกับชุยห้าวถิงหรือไม่?

หยุนเซียวสังเกตว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้น นิ้วมือของตนสั่นคลอนเล็กน้อย เขาหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับความกระตือรือร้นในหัวใจของตนเอาไว้ พยักหน้าไปทางเฟิ่งชิงเฉิน......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ