ซูเหวินชิงพยักหน้าอย่างระมัดระวัง แน่นอนว่าเสด็จอาเก้าได้เอ่ยเตือนเขาแล้ว เขาไม่โง่ที่จะไปวิ่งชนตระกูลชุย สิ่งที่เขากังวลตอนนี้คือ......
“จิ่วชิง ตระกูลชุยและตระกูลหวังให้ความร่วมมือในครั้งนี้ หากตระกูลชุยใช้โอกาสนี้เพื่อเอาชนะตระกูลหวัง ปล่อยให้ตระกูลหวังโอนเอนไปฝั่งพวกเขา คาดว่าคงจะแย่”
ซูเหวินชิงมั่นใจได้ว่าตระกูลชุยได้ตกลงที่จะร่วมมือกับตระกูลหวังในครั้งนี้ ความว่าคงมีความปรารถนาที่จะเอาชนะตระกูลหวัง
ตระกูลชุยร้ายกาจจริงๆ!
ตระกูลหวังโอนเอนไปทางตระกูลชุย?
เสด็จอาเก้าส่ายหัว ไม่มีทางเป็นไปได้ เสือสองตัวสามารถร่วมมือกันได้ชั่วคราวเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม แต่ก็เป็นความร่วมมืออันเท่าเทียมกัน เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่เสือตัวใดตัวหนึ่งจะก้มหัวให้เสือตัวอื่น
สมาชิกของตระกูลชุยและตระกูลหวัง ต่อให้ตายไปไม่ยอมก้มหัวให้อีกฝ่าย นี่เป็นความภาคภูมิใจของตระกูลขุนนาง
ดังนั้นเสด็จอาเก้าจึงไม่กังวลเลยว่าตระกูลหวังจะสนับสนุนตระกูลชุย ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะหยุดความร่วมมือของตระกูลชุยและตระกูลหวัง ป้องกันไม่ให้พวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้นตั้งแต่แรกแล้ว
“เหวินชิง เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ไป ตระกูลหวังจะไม่สามารถสนับสนุนตระกูลชุยและคนที่อยู่ในมือของตระกูลชุย ตระกูลสูงสุดจะมีเพียงตระกูลเดียวเท่านั้น ตระกูลชุยและตระกูลหวังต่างก็อ้างว่าเป็นตระกูลสูงสุดในจิ่วโจว หลายร้อยปีมานี้ทั้งสองตระกูลไม่เคยหยุดต่อสู้กันเพื่อตำแหน่งนี้
หากตระกูลหวังยอมก้มศีรษะให้ตระกูลชุย คนที่สนับสนุนตระกูลชุย แม้จะสำเร็จในท้ายที่สุดแต่ตระกูลหวังก็อยู่ภายใต้ตระกูลชุยอยู่ดี
หากข้าเป็นหวังจิ่นหลิง ข้าจะไม่เข้าไปพัวพันกับการต่อสู้แย่งชิงอำนาจในจิ่วโจวนี้อย่างแน่นอน ทว่าหากต้องการมีส่วนร่วม ก็จะไม่เลือกร่วมมือกับตระกูลชุย ในทางกลับกัน ข้าจะสนับสนุนผู้ที่ต่อต้านตระกูลชุย ด้วยวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถกดขี่ตระกูลชุยได้อย่างสมบูรณ์และกลายเป็นหัวหน้าตระกูล
หวังจิ่นหลิงเป็นคนฉลาดรอบคอบ เรื่องที่จะชนะตระกูลหวังนั้นเขารู้ดีว่าไม่สามารถรีบเร่งได้ หวังจิ่นหลิงจะไม่ไปต่อแถวเพื่อจัดการตระกูลชุย แต่เมื่อจิ่วโจวอยู่ในความวุ่นวาย หวังจิ่นหลิงจะทำมัน”
ในการสู้รบเพื่อแย่งชิงอำนาจของจักรพรรดิ ไม่มีใครสามารถหลุดพ้นจากมันได้เลยจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับตระกูลขุนนางที่มีทรัพยากรมหาศาลและมีความมั่งคั่งอยู่ในมือ การต่อแถวเข้าแก่งแย่งเป็นเรื่องแน่นอน ในเวลานี้จะเป็นการพิสูจน์ความสามารถ หากเลือกคนถูกก็จะสงบสุข หากเลือกผิดก็จะพ่ายแพ้
ซูเหวินชิงไม่ค่อยเชื่อใคร แต่เขาเชื่อฟังสิ่งที่เสด็จอาเก้ากล่าว เสด็จอาเก้ากล่าวว่าตระกูลหวังจะไม่สนับสนุนตระกูลชุย ซึ่งเขาก็เชื่อเช่นนั้น
ซูเหวินชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการบรรเทาภัยพิบัติลงใต้โต๊ะ หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งซึ่งมีแผนที่อยู่ยื่นให้เสด็จอาเก้า “นี่คือแผนที่เข้าสู่เผ่าเซวียนเซียวกง มันถูกส่งมาจากจิงหยุน เขาได้เข้าไปภายในสำเร็จและกำลังมองหาแผนที่ของจิ่วโจวอยู่
นอกจากนี้ ปรมาจารย์แห่งหุบเขาเซวียนยีได้รักษาใบหน้าของเซวียนเฟยเรียบร้อยแล้ว บัดนี้เมื่อเซวียนเฟยไม่พูด นางก็ดูเหมือนกับเฟิ่งชิงเฉินทุกประการ ภรรยาของผู้นำเผ่าเสวียนเซียวกงคล้ายกับเฟิ่งชิงเฉินมาก ปู้จิงหยุนได้ยินผู้นำเผ่าเรียกภรรยาเขาว่าอี่โม่
ซูเหวินชิงไม่รู้จริงๆ ว่า "อี่โม่" เป็นใครมาก่อน แต่ตอนนี้เขาจะไม่รู้เชียวหรือว่ามารดาของเฟิ่งชิงเฉินชื่อลู่อี่โม่
ซูเหวินชิงไม่คิดว่าสตรีที่ชื่อ “อี่โม่” ในเผ่าเซวียนเซียวกงเป็นมารดาของเฟิ่งชิงเฉิน ต้องรู้ว่าเซวียนเฟยแก่กว่าเฟิ่งชิงเฉินครึ่งปีและไม่ว่าลู่อี่โม่จะแข็งแรงแค่ไหนนางก็ให้กำเนิดลูกสองคนในหนึ่งปีไม่ได้
“อี่โม่?” เสด็จอาเก้าเยาะเย้ยและเคาะลงไปบนโต๊ะ “ให้จิงหยุนส่งคนไปตรวจสอบตัวตนของนางอี่โม่ ตรวจสอบแล้วไม่ต้องรายงานกลับ หาทางเปิดเผยให้ผู้นำของเผ่าเซวียนเซียวกงทราบ” เขาไม่มีความเกลียดชังกับเผ่าเซวียนเซียวกง สิ่งที่เขาต้องการคือแผนที่จิ่วโจวของเผ่าเซวียนเซียวกง ดังนั้น...... เผ่าเซวียนเซียวกงควรจะวุ่นวายยิ่งวุ่นวายยิ่งดี
“ข้าเกรงว่าจะยาก ไม่มีใครรู้ที่มาของเฟิ่งฮูหยินในตอนนั้น พวกเขารู้แค่ว่านางเป็นคนนอกรีตที่นายพลเฟิ่งจับไปเป็นภรรยาของเขา แล้วก็ตามนายพลเฟิ่งไปต่อสู้ในทุกทิศทาง ซูเหวินชิงส่งคนไปสอบสวนแต่เน่เนิ่นๆ แล้ว น่าเสียดายที่ไม่ได้ผล
“หากหาข้อมูลไม่พบก็ปล่อยให้นางพูดเอง แล้วให้จิงหยุนเปิดเผยข่าวของแม่ทัพเฟิ่งและเฟิ่งฮูหยินต่อหัวหน้าเผ่าเซวียนเซียวกง” ของปลอมยังไงก็ของปลอม แม้จะแสร้งทำเป็นเหมือนอย่างไน หางก็จะโผล่มาเสมอ
สตรีในเผ่าเซวียนเซียวกงผู้นั้นไม่ใช่ลู่อี่โม่อย่างแน่นอน หากนางเป็นลู่อี่โม่จริงๆ เซวียนเส้าฉีจะไม่มาหาเฟิ่งชิงเฉิน
น่าเสียดายที่หัวหน้าเผ่าเซวียนเซียวกงไม่ได้คิดเรื่องนี้ เพราะอย่างไรก็ตามคงไม่มีใครสงสัยภรรยาของตน
ไม่เป็นไร ในเมื่อหัวหน้าเผ่าเซวียนเซียวกงไม่อยากคิดเกี่ยวกับมัน เขาจะผลักดันเอง
หลังจากอธิบายเรื่องราวต่างๆ กับซูเหวินชิงว่าทำงานเช่นไรแล้ว เสด็จอาเก้าก็ไม่ได้หยุดลงแม้แต่น้อย เขารีบไปที่สถานที่ซึ่งนัดกับหวังจิ่นหลิงเอาไว้ทันที
หวังจิ่นหลิงรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเสด็จอาเก้ามาถึง หวังจิ่นหลิงได้ดื่มชาไปกาที่สองแล้ว เมื่อเสด็จอาเก้ามาถึง หวังจิ่นหลิงก็หยิบถ้วยเปล่าออกมา รินน้ำหนึ่งแก้วยื่นให้เสด็จอาเก้า "ชาเย็นชืดแล้ว หวังว่าเสด็จอาเก้าจะไม่รังเกียจ”
มองจากผิวเผิน เขากำลังรินชาให้เสด็จอาเก้า แต่ในความเป็นจริงเขากำลังบอกเสด็จอาเก้าว่ามาสาย และเขาเดาได้ว่าเหตุใดเสด็จอาเก้ามาสาย
ในโลกนี้นอกจากเฟิ่งชิงเฉินแล้ว มีใครอีกบ้างที่สามารถรั้งตัวเสด็จอาเก้าได้?
“ชาดี” ชาที่เย็นแล้วจะมีรสขมในปาก แต่เสด็จอาเก้าดื่มมันเข้าไปโดยหน้าไม่เปลี่ยนสี ทั้งยังเอ่ยชมด้วย
นี่เป็นการบอกหวังจิ่นหลิงว่าไม่สำคัญว่าเขาจะมาถึงเร็วหรือช้า สิ่งสำคัญคือทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่กระทบต่อความร่วมมือของพวกเขา
“หากเสด็จอาเก้าชอบ จะดื่มอีกสองถ้วยก็ย่อมได้” หวังจิ่นหลิงยกกาขึ้นอีกครั้งและเติมให้เสด็จอาเก้า ชาเย็นรสชาติแย่กว่าน้ำเย็นเสียอีก
ในเมื่อช้าเร็วนั้นไม่สำคัญ เช่นนั้นจะกลับช้าหน่อยก็ย่อมได้ เขาอยากจะเห็นนักว่าคนในคุกหลวงจะช่วยเขายืดเวลาได้นานเท่าไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...