นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 697

การที่องค์จักรพรรดิเดินทางมาหาเสด็จอาเก้าและเล่นหมากรุกด้วยนั้น ไม่ใช่เพราะว่าเขารู้สึกเหงา แต่ต้องการที่จะใช้หมากรุกในการกดดันเสด็จอาเก้า ให้เสด็จอาเก้ายอมสนทนาต่อรองถึงบทสนทนาที่จะกล่าว หรือเรียกได้ว่าให้เสด็จอาเก้าเป็นรอง คาดไม่ถึงว่า......

ทักษะการเดินหมากของเสด็จอาเก้านั้นยอดเยี่ยมขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ที่องค์จักรพรรดิเคยเล่นหมากรุกพร้อมกับเสด็จอาเก้าบางครั้งก็ยังสามารถเสมอหรือชนะกันบ้าง แต่บัดนี้อย่าว่าแต่ชนะเลย หากแพ้เพียงไม่กี่หนก็นับว่าดีมากแล้ว

องค์จักรพรรดิไม่อยากจะนับเลยว่าหมากที่สูญเสียไปนั้นมากมายเพียงไร เขาโยนมากในมือทิ้งและไม่เล่นมันต่อ

ก็เขาเป็นจักรพรรดินี่ หากเขากล่าวว่าไม่อยากเล่นแล้วใครจะทำอย่างไรได้อีก เสด็จอาเก้าซึ่งไม่ได้พูดอะไรออกมา องค์จักรพรรดิจะโมโหเสียจนโยนตัวหมากอย่างไร้อารมณ์ แต่เสด็จอาเก้านั้นได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดีไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ล้วนไม่ทำท่าทีใดๆ ออกมา เขาค่อยๆเก็บมันทีละตัว

เป็นองค์จักรพรรดิแล้วอย่างไรเล่า หากว่าเขายินดีที่จะพ่ายแพ้ ต่อให้อีกฝ่ายเป็นยาจกเขาก็สามารถยอมให้ได้ แต่เมื่อไหร่ที่เขาอยากชนะ แม้ให้อีกฝ่ายเป็นจักรพรรดิเขาก็ไม่ยอมให้

นิ้วมืออันเรียวยาวของเสด็จอาเก้าเมื่อเอื้อมมือไปจับตัวหมาก ทำให้อีกฝ่ายอดไม่ได้ซึ่งจะมองไปยังนิ้วมือที่ขยับเขยื้อนอยู่นั้น องค์จักรพรรดิเพิ่งจะรู้สึกตนว่าถูกเสด็จอาเก้าชักจูงเข้าให้เสียแล้ว

รอจนกระทั่งองค์จักรพรรดิรู้สึกตัว เสด็จอาเก้าก็ได้เก็บตัวหมากทั้งหลายไปจนเกือบสิ้น สีหน้าขององค์จักรพรรดิแม้จะดูสงบ แต่ในใจกลับปั่นป่วนดุจดังคลื่นในมหาสมุทร องค์จักรพรรดิผู้สง่างามกลับถูกคนอื่นจูงจมูกเสียดายง่ายๆ หากกล่าวประโยคนี้ออกไปก็คงไม่มีใครเชื่อ แต่เรื่องราวเช่นนี้กลับเกิดขึ้นจริง

เฮ้อ......องค์จักรพรรดิได้แต่ถอนหายใจแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก หยิบถ้วยน้ำชาด้านข้างขึ้นมา พยายามทำให้จิตใจสงบลงแล้วจิบชาอุ่นๆ เข้าไปในปาก พยายามทำใจให้คืนสู่สภาวะปกติ

ตุ้บ......องค์จักรพรรดิตั้งใจจะออกแรงวางแก้วน้ำชาให้แรงกว่าเดิม จนทำให้น้ำชากระฉอกออกมา ตามปกติแล้วด้วยการกระทำเช่นนี้ขององค์จักรพรรดิ ไม่ว่าจะเป็นขุนนางบู๊บุ๋นหรือเป็นสนมแม้แต่องค์ชาย ล้วนต้องพากันหวาดกลัวเสียจนคุกเข่าลงสู่พื้น แต่ทว่า......

เสด็จอาเก้ากลับทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วลงมือเก็บตัวหมากต่อไป หลังจากที่เก็บหมากเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งอยู่ที่นั่นโดยไม่ขยับเขยื้อน ไม่ว่าองค์จักรพรรดิจะใช้วิธีการใดก็ตามแต่ เสด็จอาเก้าก็ยังคงนั่งนิ่งดุจดั่งภูเขา

องค์จักรพรรดิเข้าใจดีว่าน้องชายคนที่ไม่มีใครดูแลตั้งแต่เล็กแต่กลับได้รับการอบรมสั่งสอนจากจักรพรรดิพระองค์ก่อนจนเติบใหญ่ กริยาท่าทางและวิธีการของเขาในการข่มขู่เมื่อครู่จึงใช้ไม่ได้ผลอย่างแน่นอน องค์จักรพรรดิทำได้เพียงเอ่ยขึ้นว่า “น้องเก้า ฝีมือการเดินหมากของเจ้านับวันยิ่งพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ข้าคิดว่าน้องเก้าอยู่ในวังเป็นเวลาเนิ่นนาน บัดนี้ทักษะเดินหมากจะแย่ลงเสียอีก”

ภายนอกอาจจะฟังเป็นเช่นนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วเสด็จอาเก้ากำลังถูกตำหนิว่ามือยืดมือยาว แม้อยู่ในพระราชวังยังสามารถมีส่วนร่วมกับ เรื่องภายนอกนี้ได้ ประโยคนี้ขององค์จักรพรรดิก็เพื่อที่จะเป็นการเอ่ยเตือน เขารู้ดีว่าชายนิรนามลึกลับคนนั้นก็คือเสด็จอาเก้าอย่างแน่นอน จึงมาตักเตือนให้เสด็จอาเก้าระมัดระวังการกระทำของตนเอง

น่าเสียดายเหลือเกิน......เสด็จอาเก้ารู้จักองค์จักรพรรดิดีเหลือเกินอย่างถ่องแท้ เมื่อไหร่ที่องค์จักรพรรดิพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ เมื่อนั้นเขาก็จะไม่ค่อยมีความมั่นใจเท่าไรนักในความเป็นจริง หากองค์จักรพรรดิแน่ใจว่าผู้ที่ออกไปแจกจ่ายอาหารคือเสด็จอาเก้าจริงๆ เขาคงจะหาหลักฐานออกมาเปิดโปงไปนานแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น......

ผู้คนในโลกนี้ก็จะจดจำเขาได้ แต่บรรดาคนในราชสำนักคงจะยืนกรานให้ประหารชีวิตเขา เนื่องจากว่ากระทำการเกินกว่าองค์จักรพรรดิ

“นั่นเป็นเพราะข้าไม่ได้มีเรื่องราวมากมายต้องจัดการเช่นเดียวกันกับเสด็จพี่ แต่ละวันข้าอยู่กับความเงียบเหงาว่างเปล่า จึงได้ใช้เวลานี้ในการฝึกฝนทักษะเล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้น ให้พัฒนามากยิ่งขึ้น” เสด็จอาเก้ากล่าวออกมาเบาๆ

เขาไม่สนใจหรอกว่าคนใดในใต้หล้าจะรู้หรือไม่เรื่องที่เขาเป็นคนแจกจ่ายอาหารให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติ บัดนี้เขาได้พยายามอย่างมากและสูญเสียทุกสิ่งอย่างมากมาย ดังนั้นจึงต้องการที่จะจะทำผลลัพธ์ออกมาให้ดีที่สุด

หากว่าบัดนี้ถูกเปิดเผยออกมาล่ะก็ ความรู้สึกของเขายังได้ไม่เพียงพอตามที่ต้องการ อีกอย่าง ตอนนี้องค์จักรพรรดิก็ได้ออกแจกจ่ายอาหารเช่นกัน หากตอนนี้เขาเปิดเผยตัวเองออกไปคาดว่าชื่อเสียงและผลงานที่ได้รับคงจะหายไป

องค์จักรพรรดิขยับดวงตาเล็กน้อย ราวกับกำลังคำนวณถึงความน่าเชื่อถือสำหรับคำพูดของเสด็จอาเก้า แต่หลังจากที่พยายามครุ่นคิดอยู่เนิ่นนาน ก็รู้สึกว่าไม่มีสิ่งใดที่ดูผิดปกติไป ดังนั้นจึงทำได้เพียงถอดใจ

“น้องเก้าอยู่ในวังนี้เหงามากงั้นหรือ คนในวังดูแลน้องไม่ดีหรืออย่างไร?” คนที่องค์จักรพรรดิส่งมาอยู่ข้างกายของเสด็จอาเก้าล้วนเป็นผู้ที่ส่งมาเป็นหูเป็นตาให้ ไม่ว่าเสด็จอาเก้าจะนอนหลับหรือทำสิ่งใดล้วนมีคนคอยจับตามอง หากเสด็จอาเก้ารู้สึกพึงพอใจก็คงจะแปลก

“คนในวังให้การดูแลรับใช้เป็นอย่างดี เพียงแต่ในราชวังนี้ดีอย่างไรก็ไม่ใช่บ้านของข้า ข้าคิดถึงจวนอ๋องของข้าเหลือเกิน” ประโยคนี้ของเสด็จอาเก้า เท่ากับเป็นการเอ่ยถามว่าเมื่อไหร่องค์จักรพรรดิจะปล่อยเขาออกไป และเขาไม่รู้สึกอยากจะอยู่ในพระราชวังแห่งนี้

หัวใจขององค์จักรพรรดิตกตะลึงทันทีราวกับมีก้อนหินก้อนใหญ่ทุบลงไปกลางใจ องค์จักรพรรดิเงยหน้าขึ้นมองดูแววตาอันแหลมคมของเสด็จอาเกาอย่างไม่หวาดกลัว เมื่อแววตาของทั้งสองคนมองประสานกันก็เห็นได้ถึงความไม่แยแส และดูสงบของเสด็จอาเก้า

สองพี่น้องซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดในราชวงศ์ตงหลิงสบตากันไปมาเช่นนี้ อีกคนหนึ่งโจมตีอย่างดุเดือด อีกคนหนึ่งกลับรักษาความสงบเอาไว้ จนกระทั่งองค์จักรพรรดิรู้สึกพึงพอใจจึงได้ละสายตากลับไป การจ้องมองเมื่อครู่นี้จึงได้สิ้นสุดลง

องค์จักรพรรดิสายตากลับคืนมาแล้วเอ่ยถาม เบาๆ ว่า “ในปีนี้ ประสบภัยพิบัติหิมะอย่างรุนแรง ซึ่งไม่เคยเจอเลยในรอบหนึ่งร้อยปี ข้าเป็นกังวลว่าชาวบ้านจะพากันขุ่นเคืองใจเพราะได้รับการช่วยเหลือไม่ทั่วถึง คาดไม่ถึงว่าจะมีผู้ลึกลับคนหนึ่งเก้าออกมาแล้วช่วยเหลือประชาชน ออกจากจำหน่ายอาหารและโจ๊กให้ประชาชนตงหลิงได้รอดพ้นจากภัยพิบัติในครั้งนี้”

องค์จักรพรรดิจะเดินทางมาคุยเล่นเรื่อยเปื่อยกับเสด็จอาเก้าได้อย่างไรกัน การที่เขาเดินทางมาที่นี่ เพียงต้องการให้เสด็จอาเก้าบอกมาว่าชายนิรนามผู้นั้นคือใคร แล้วเขาจะปล่อยเสด็จอาเก้ากลับไปที่จวนของตน

ความหมายอันลึกซึ้งนี้แน่นอนว่าเสด็จอาเก้าฟังเข้าใจ องค์จักรพรรดิกำลังบีบบังคับให้เขายอมรับว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับชายนิรนามผู้บริจาคอาหารเหล่านั้น ในเมื่อองค์จักรพรรดิทรงคิดเช่นนี้ เขาก็จะทำให้ความคิดเป็นจริง

สิ่งใดที่ควรกล่าวเขาก็จะกล่าว ขึ้นอยู่กับว่าองค์จักรพรรดิจะเข้าใจเช่นไรนั้นก็ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับเขาแล้ว สีหน้าของเสด็จอาเก้าดูผ่อนคลายลง แล้วตอบด้วยความเรียบง่ายว่า “เสด็จพี่ เฟิ่งชิงเฉิน คือผู้หญิงของข้า เมื่อไม่กี่วันก่อนนางรักษาคุณชายสิบหกผู้สูงส่งแห่งตระกูลชุย”

เพียงไม่กี่ประโยคบทสนทนานี้ก็ถูกชักจูงไปยังตระกูลชุย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ