นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 704

เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?

เฟิ่งชิงเฉินไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยิน ทำไมผลลัพธ์ที่ออกมาถึงได้ต่างจากสิ่งที่นางคิดไปโดยสิ้นเชิง สิ่งที่เซวียนเส้าฉีทำนี่มันดูไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย

ตามเหตุผลต่อให้เซวียนเส้าฉีเข้าใจในความรักของนาง ไม่โทษที่นางมีความรู้สึกที่ละอายต่อบาป ก็น่าจะรู้สึกเสียใจที่สัญญาหมั้นถูกยกเลิก เนื่องจากในยุคสมัยนี้มีผู้ชายเพียงไม่กี่คนที่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงซึ่งสูญเสียความบริสุทธิ์ไปก่อนหน้านั้นแล้ว

เสด็จอาเก้ากล่าวว่าจะแต่งงานเนื่องจากนางคือเฟิ่งชิงเฉิน เนื่องจากเสด็จอาเก้าชื่นชอบในตัวนาง เฟิ่งชิงเฉินไม่เชื่อว่าภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่สิบวันเซวียนเส้าฉีจะรักใคร่นางได้

งั้นเป็นเพราะอะไร? ทำไมถึงกลายเป็นเช่นนี้?

รอนาง? หากนางไม่แต่งงานก็จะรอนางตลอดไป งั้นถ้าชีวิตนี้นางไม่แต่งงาน หรือว่าเซวียนเส้าฉีจะรอนางไปทั้งชีวิต?

แรงกดดันและความรู้สึกที่หนักหน่วงเช่นนี้ นางไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเซวียนเส้าฉีถึงได้ดื้อดึงขนาดนี้ เฟิ่งชิงเฉินพบว่าขาทั้งสองข้างของนางราวกับมีตะกั่วมาถ่วงน้ำหนักไว้ ไม่ว่าจะทำเช่นไรก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย

ความรู้สึกอันหนักหน่วงนี้ นางรับไว้ไม่ได้

ไม่คุ้มค่า มันไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย!

เฟิ่งชิงเฉินถอนหายใจอย่างหมดกำลัง เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเงียบๆ......

เซวียนเส้าฉีเป็นตัวปัญหามากกว่าที่นางคิดเอาไว้ ขี้เซ้าซี้ นางไม่อยากแบบรับความรู้สึกอันหนักหน่วงเช่นนี้ไว้ นี่ทำให้นางรู้สึกว่านางกำลังติดหนี้เซวียนเส้าฉีอยู่

ทำเช่นไรดี?

เฟิ่งชิงเฉินถามท้องฟ้า แต่ท้องฟ้าไม่ได้ให้คำตอบนาง

รอเฟิ่งชิงเฉินจัดการกับความรู้สึกจนดีขึ้นแล้วกลับห้องไป สายลับเองก็ได้ตัดสินใจแล้ว นั่นก็คือต้องนำเรื่องนี้ขึ้นรายงาน มันเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก!

เฟิ่งชิงเฉินปิดประตู สายลับรีบมุ่งหน้าไปยังจวนอ๋องเก้า นำทุกคำพูดที่เซวียนเส้าฉีกล่าวออกมารายงานเสด็จอาเก้าโดยละเอียด

ตอนแรกสายลับคิดว่าจะต้องถูกไอเย็นจากร่างกายของเสด็จอาเก้าทำร้าย คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากเสด็จอาเก้าได้ยินคำรายงาน เขาแค่พยักหน้าเท่านั้น ไม่ได้แสดงอาการโกรธแต่อย่างใด

สายลับถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไม่รอให้เสด็จอาเก้าออกคำสั่ง พวกเขาถอยออกมาและจากไป หลังจากพ้นสายตาของเสด็จอาเก้าแล้ว สายลับยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผาก

เสื้อที่สวมใส่ในค่ำคืนนี้ไม่ธรรมดา ดูดซับเหงื่อได้ดี มันน่าจะถูกเตรียมไว้ให้กับพวกเขาโดยเฉพาะ ต้องรู้ก่อนว่าสายลับที่ปกป้องเฟิ่งชิงเฉินนั้นมีเหงื่อออกมากกว่าคนทั่วไป

หลังจากกล่าวชมเสื้อผ้า สายลับสูดลมหายใจเข้าอีกครั้งและมุ่งหน้าไปยังจวนเฟิ่ง เขาไม่กล้าชักช้า หากถูกนายท่านจับได้ มันอาจเป็นสัญญาณของการละเลยหน้าที่!

เจ้าเด็กน้อย สิ่งที่เจ้าเชื่อนั้นถูกแล้ว โชคดีที่เจ้านั้นวิ่งเร็วมากพอ!

ในคืนนี้ ซุนซือสิงกลับมาจากเวชศาลา ยังไม่ทันได้พักหายใจทงจือก็วิ่งเข้ามาเพื่อเตือนเข้าไปตรวจร่างกายประจำวันให้กับชุยห้าวถิง นี่คือความต้องการของเฟิ่งชิงเฉิน อย่างน้อยในหนึ่งวันซุนซือสิงจะต้องเข้าไปในห้องผู้ป่วยของชุยห้าวถิงหนึ่งครั้ง

เฮ้อ......ซุนซือสิงพยักหน้า เดินไปทางห้องผู้ป่วยอย่างไม่เต็มใจ หลายวันที่ผ่านมานี้เขาเห็นผู้ป่วยมากมายซึ่งไม่สามารถรักษาอาการป่วยได้เพราะความยากจน ซุนซือสิงจึงมีความรู้สึกอยากประณามชุยห้าวถิงอย่างแรงกล้าที่มีห้องรักษาส่วนตัว และมีหมอหญิงเฉพาะทางคอยให้การดูแล

ตามคำกล่าวของเหล่าอาจารย์ นี่เป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรทางการแพทย์ ดังนั้นแม้ซุนซือสิงจะทำตามหน้าที่ แต่สายตาที่มองชุยห้าวถิงก็ไม่ค่อยดีนัก

สองสามวันแรกชุยห้าวถิงคิดว่าเป็นเพราะความเหนื่อยล้าของซุนซือสิง แต่เมื่อผ่านไปสิบกว่าคน ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม สุดท้ายชุยห้าวถิงก็ทนไม่ไหว เอ่ยปากถามออกมาว่า “หมอซุน ข้าไปทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจหรือเปล่า?”

ไม่ว่าจะทำอะไรก็แสดงสีหน้าอันเย็นชา หรือว่าคนเหล่านี้ลืมไปแล้วว่าเขาคือคนป่วย?

ชุยห้าวถิงเป็นคนน่าหดหู่ ตอนกลางวันต้องทำตัวกระฉับกระเฉงเพื่อรับมือกับเสด็จอาเก้า เมื่อเผชิญหน้ากับใบหน้าอันเยือกเย็นของเสด็จอาเก้า เขารู้มันดี แต่ทำไมเมื่อถึงยามดึกเขายังต้องเผชิญหน้ากับใบหน้าอันเยือกเย็นของซุนซือสิงอีก นี่เขาไปทำอะไรให้เฟิ่งชิงเฉินต้องลำบากหรือเปล่า?

“ไม่มี” ซุนซือสิงผงะไปครู่หนึ่งถึงเข้าใจ ที่ชุยห้าวถิงกล่าวออกมาเช่นนี้เป็นเพราะว่าสีหน้าของเขาในหลายวันที่ผ่านมาดูไม่ค่อยดี เอ่อ......

อาจารย์เคยกล่าวไว้ว่าห้ามนำความรู้สึกส่วนตัวมายุ่งเกี่ยวกับงาน นี่เขาทำมันได้ไม่ได้งั้นหรือ?

ซุนซือสิงมองไปที่ชุยห้าวถิงด้วยความงงงวย

ด้วยเหตุนี้......ทำให้ชุยห้าวถิงสงสัยว่าตนเองคิดมากเกินไป ชุยห้าวถิงจึงรีบกล่าวปลอบใจออกไปว่า “ข้าคงคิดมากเกินไป หลายวันที่ผ่านมาข้าเห็นหมอซุนเอาแต่ทำหน้าตาเย็นชาจึงนึกว่าหมอซุนมีเรื่องอะไรไม่พอใจข้าอยู่”

ใบหน้าอันเย็นชาของเฟิ่งชิงเฉินและเสด็จอาเก้า เขาคุ้นชินกับมันแล้ว แต่ใบหน้าอันเย็นชาของซุนซือสิงซึ่งแสร้งทำเป็นเงียบขรึมเขาไม่คุ้นชินกับมัน นี่ทำให้เขาเข้าใจผิด หรือว่าตนเองไม่ได้จ่ายค่ารักษา

“อ่า ข้าทำหน้าตาไม่พอใจใส่ท่านอย่างนั้นหรือ? ท่านเห็นเช่นนั้นหรือ?” ซุนซือสิงอ้าปากกว้าง ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดปากของเขา

ชุยห้าวถิงไม่ได้พูดอะไรออกมา ใบหน้าของเขากลายเป็นสีแดง วางมือทั้งสองข้างลงเหมือนกับเด็กที่ทำความผิด ก้มลงต่ำมองหน้าอกยืนอยู่ด้านหน้าของชุยห้าวถิง กล่าวออกมาด้วยเสียงเบาว่า “งั้นคุณชายชุย ข้าต้องขอโทษด้วย ข้าไม่ควรนำความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้องกับงาน ข้าไม่ได้ตั้งใจ......”

เมื่อคิดถึงใบหน้าเย็นชาที่ตนเองใช้เผชิญหน้ากับผู้ป่วย แถมยังถูกผู้ป่วยสังเกตเห็น ซุนซือสิงรู้สึกไม่สบายใจ รีบกล่าวขอโทษออกไปทันที

ที่แท้มันเป็นเรื่องจริง ข้าไม่ได้คิดมากไปเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ