การเคลื่อนไหวของตระกูลชุย ทำให้เซวียนเส้าฉีถึงกับหน้าซีดเซียว การมาในครั้งนี้ของเสด็จอาเก้าพูดได้เลยว่าคุ้มค่ามาก บรรลุเป้าหมาย เสด็จอาเก้ามิได้อยู่นานนัก เพียงเสวนาอยู่ชั่วครู่ เสด็จอาเก้าก็ลุกขึ้นมา
“นี่ก็สมควรแก่เวลาแล้ว ข้ามิขอรบกวนเวลาพักผ่อนของคุณชายชุยแล้วหล่ะ”
เมื่อเสด็จอาเก้ากล่าวจบก็เดินออกไป เฟิ่งชิงเฉินดีใจมากถึงกับรีบลุกพรวดพราดขึ้นมา พร้อมกับพาเขาออกไป
อันที่จริง เฟิ่งชิงเฉินก็เหมือนกับระเบิดลูกหนึ่งที่น่ากลัว หากพกพาติดตัวไปด้วย นางก็คงจะเกรงว่าซุนซือสิงคงจะหนีมิพ้นเงื้อมมือของเขา แม่นางคนนี้มีความเจ้าเล่ห์เพทุบาย อาจทำให้เขาเดือดร้อนได้
อาการของเฟิ่งชิงเฉินดูรีบร้อนที่จะไปส่งเขา นั่นทำให้เสด็จอาเก้ามิสะดวกใจนัก เดินไปเพียงสองสามก้าว เสด็จอาเก้าก็หันกลับไปหาเฟิ่งชิงเฉินแล้วพูดขึ้นว่า “ทำไมเหรอ?เฟิ่งชิงเฉินเจ้ามิอยากให้ข้ากลับงั้นหรือ?”
แน่นอนว่ามันไม่ใช่แบบนั้น......
เฟิ่งชิงเฉินเกือบพูดประโยคนั้นออกมา เงยหน้ามองเสด็จอาเก้าด้วยแววตาที่เย็นยะเยือก เฟิ่งชิงเฉินเป็นคนที่มีปฏิภาณไหวพริบ จึงรีบเก็บคำพูดที่ต้องการพูดได้ทันท่วงที
เสด็จอาเก้าค่อยๆ แสยะยิ้ม แล้วพูดขึ้นว่า “คืนนี้ข้ายังต้องไปที่เวชศาลา มิทราบว่าเสด็จอาเก้าต้องการไปที่เวชศาลากับข้าหรือไม่”
เจ้าหมอนี่ยังมิไปอีก ถ้างั้นให้ตามข้าไปที่เวชศาลา ดูสิว่าถ้าต้องไปที่คนเยอะแบบนั้นยังจะมีท่าทีแบบนี้อีกไหม
ในเมื่อเฟิ่งชิงเฉินต้องการจี้จุดอ่อนของเสด็จอาเก้า เพราะด้วยสถานะของเขาเอง มิควรที่จะไปยังเวชศาลา หากเขาไปยังเวชศาลาในเวลานี้ มิเพียงแค่ทำให้จักรพรรดิต้องหวาดวิตก ผู้คนมากมายที่นั่นต่างต้องคาดเดาไปต่างๆ นานา และในกาลข้างหน้าเขาจะทำการสิ่งใดก็อาจจะมิราบรื่นได้
ในที่สุดสตรีผู้นี้ก็มิได้โง่เขลาอีกต่อไป เสด็จอาเก้ามองไปยังเฟิ่งชิงเฉินด้วยสีหน้าเต็มใจ “ในเมื่อชิงเฉินมีใจอยากให้ข้าไปด้วย ข้าก็ยินดีนักที่จะไปเป็นเพื่อน......”
หา? ไปจริงหรือนี่?
เฟิ่งชิงเฉินส่ายหน้า มองเสด็จอาเก้าด้วยความกังวล พร้อมถอยหลังไปสามก้าว เสด็จอาเก้าคงจะยังมิรู้ว่าหากไปยังเวชศาลาในเวลานี้มันจะเป็นเยี่ยงไรสินะ หรือเขาจะเสียสติไปเสียแล้ว
หึๆ หรือเสด็จอาเก้าจะเสียสติไปแล้วจริงๆ ......
ความกังวลของเฟิ่งชิงเฉินเพิ่มขึ้น คำพูดของเสด็จอาเก้าทำให้นางรู้สึกลำบากใจที่จะปฏิเสธ
เฟิ่งชิงเฉินถอนหายใจออกมา ด้วยความรู้สึกห่อเหี่ยว
เฟิ่งชิงเฉินค่อยๆ กัดฟัน มิได้พูดอะไรกับเสด็จอาเก้า พร้อมกับพาเสด็จอาเก้าไปส่ง เมื่อเห็นเสด็จอาเก้าเดินออกไปสักพักแล้ว เฟิ่งชิงเฉิงจึงค่อยโล่งใจ ยืนพิงกับประตู ถอนหายใจอย่างโล่งอก ราวกับเมื่อครู่ได้ทำศึกวิวาทะครั้งใหญ่
เซวียนเส้าฉีที่ยืนเงียบๆ อยู่ด้านข้าง ก็ยื่นผ้าเช็ดหน้าออกมาให้เฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินรับเอาไว้ พร้อมกับกล่าวขอบคุณ แล้วค่อยๆ เช็ดเหงื่อ หลังจากนั้นก็เตรียมที่จะคืนให้กับเซวียนเส้าฉี แต่ก็พบว่าผ้าเช็ดหน้านั้นสกปรกเสียแล้ว นางจึงเก็บผ้าเช็ดหน้ากลับมา “ข้าขอซักให้สะอาดเสียก่อนแล้วข้าจะคืนให้เจ้า”
“มิเป็นไร มันก็แค่ผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่ง ข้างนอกนี่อากาศเย็นนัก เรากลับเข้าไปข้างในกันเถอะ” เซวียนเส้าฉีที่ถูกเสด็จอาเก้ากดดันจนนั่งไม่ติด แต่ท่าทางก็ยังคงปกติ เฟิ่งชิงเฉินหันไปมอง จากนั้นก็พยักหน้าแล้วก็เดินเข้าไปด้านใน
มิเกิดเรื่องขึ้นก็ดีแล้ว!
ระหว่างเดินเข้าไป ทั้งสองมิได้กล่าวอะไรกัน พวกเขาต่างคิดถึงเรื่องที่เสด็จอาเก้าพูดกับคุณชายหยวนซี
เสด็จอาเก้าอาจมิได้เล่าออกมาทั้งหมด แต่เรื่องนี้มันคงเป็นเรื่องจริง เสด็จอาเก้าหามีทางมาโกหกเรื่องอะไรแบบนี้ได้ไม่ แต่การที่เสด็จอาเก้าพูดต่อหน้าเซวียนเส้าฉีก็ไม่ได้ที่จะทำให้เซวียนเส้าฉีต้องรู้สึกลำบากใจหรืออับอายขายหน้า
เรื่องที่เสด็จอาเก้าพูดกับคุณชายหยวนซี มันเกี่ยวกับตระกูลชุย และมันก็เกี่ยวข้องกับเซวียนเส้าฉีด้วย มันทำให้เซวียนเส้าฉีต้องกดดัน และทำให้เซวียนเส้าฉีถึงกับนั่งไม่ติด
คนปกติหากได้ยินว่าขั้วฝ่ายตรงข้ามต้องการมาทำร้ายตัวเอง ก็ย่อมโกรธเป็นธรรมดา จากนั้นคงต้องเตรียมตัวรับมือกับการปะทะจากฝ่ายตรงข้าม
เสด็จอาเก้าต้องการทำให้เซวียนเส้าฉีสติแตก
นี่มันคือแผนการอะไรกันแน่นะ เฟิ่งชิงเฉินกังวลว่าเซวียนเส้าฉีจะกดดัน ตอนนี้ดูออกเลยว่านางคิดเยอะมาก
เฟิ่งชิงเฉินมิได้คิดเยอะ ที่จริงแล้วเซวียนเส้าฉีแสร้งทำตัวปกติ แต่ที่แท้เซวียนเส้าฉีเมื่อได้ยินเรื่องแบบนี้ก็แทบสติแตก เซวียนเส้าฉีจะมิกังวลใจไปได้เยี่ยงไรกัน หากเป็นเช่นนั้น เขาก็คงเป็นคนที่มิมีหัวจิตหัวใจเป็นแน่
เซวียนเส้าฉีเดินเข้าไปด้านใน และยังแสร้งทำตัวปกติ โดยที่เฟิ่งชิงเฉินก็ดูมิออกเลยว่าเซวียนเส้าฉีมีท่าทางผิดปกติแต่อย่างใด
ปกติเซวียนเส้าฉีจะหยุดส่งเฟิ่งชิงเฉินที่บริเวณหน้าประตู และรอเฟิ่งชิงเฉินเข้าไปก่อน แต่ว่าวันนี้เขาเดินมุ่งตรงไปโดยมิหยุด
เห้อ......
เฟิ่งชิงเฉินถอนหายใจออกมา “นายท่านน้อย หากกังวลสิ่งใดก็พูดมาเสียเถอะ”
“หา?” เซวียนเส้าฉีที่กำลังก้าวเดินอยู่ ก็หยุดชะงัก สายตาพร่ามัว มองไปรอบๆ ด้าน จนสายตาที่พร่ามัวกลับมาชัดเจนอีกครั้ง “ ขอโทษด้วย ที่ข้าเสียมารยาทแบบนี้”
เซวียนเส้าฉีมิได้กล่าวอะไรต่อ เขาหันและเดินกลับออกมา มิได้ปฎิเสธอะไรกับเฟิ่งชิงเฉิน อย่างไรเสียเขาก็จะอยู่ข้างกายเฟิ่งชิงเฉิน ทั้งสองต่างมีสัญญาต่อกัน ว่าเขาจะจะไม่มีวันทำอะไรให้เฟิ่งชินเฉินต้องลำบากใจ จะมิทำอะไรเลยเถิด จะเป็นผู้พิทักษ์และคอยปกป้องเฟิ่งชินเฉิน
ด้วยเหตุนี้เฟิ่งชินเฉิงจึงพยายามรักษาเขาไว้ และการที่เซวียนเส้าฉีเดินเลยไปแบบนี้ เฟิ่งชิงเฉิงได้แต่มองด้วยสายตาประหลาดใจ และปวดใจเป็นอย่างยิ่ง
เฟิ่งชิงเฉินรีบวิ่งเข้าไป ขวางเซวียนเส้าฉี “นายท่านน้อย เรื่องราวที่เสด็จอาเก้าพูดในวันนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง ถ้าหากนายท่านน้อยอยากปกป้องเผ่าเสวียนเซียวกง ก็ต้องรีบลงมือเตรียมการแล้ว”
เห้อ นี่มันนับว่าเป็นค่าตอบแทนที่เซวียนเส้าฉีปกป้องสินะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...