นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 702

นี่มันตรรกะของโจร!

เสด็จอาเก้าช่างไร้ยางอายเหลือเกิน!

เฟิ่งชิงเฉินตะโกนอยู่ในหัวใจของนาง นางอยากจะกระโดดออกไปแก้ไขข้อผิดพลาดของเสด็จอาเก้า แต่เสด็จอาเก้ากลับพูดออกมาด้วยความมั่นใจ ดวงตาที่ไม่แยแสของเสด็จอาเก้าคู่นั้น เฟิ่งชิงเฉินพูดอะไรไม่ออกสักคำ ทำได้แค่ก้มหน้าเงียบ

เสด็จอาเก้าจะ......จะสงบเกินไปแล้ว เขาพูดราวกับว่าสิ่งที่เขาพูดออกมาเป็นความจริง และต่อให้โต้เถียงกลับไปสักเท่าไหร่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร

เอาเถอะ นี่ไม่ใช่เหตุผล ในความเป็นจริงนางไม่มีความกล้าที่จะต่อต้านเสด็จอาเก้า และไม่มีความคิดที่จะต่อต้านด้วย ดังนั้น......เฟิ่งชิงเฉินจริงเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ หันออกไปทางนอกหน้าต่าง

เซวียนเส้าฉี เจ้าภาวนาให้ตัวเองเถิด เรื่องนี้ข้าช่วยอะไรเจ้าไม่ได้ ต่อให้อยากช่วยก็ช่วยไม่ได้ เนื่องจากมันมีเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับข้าอยู่

แม้บัวหิมะอายุพันปีจะล้ำค่า แต่ถ้าหากไม่ใช่เพราะนาง เสด็จอาเก้าก็คงไม่มีทางจำของสิ่งนั้นได้

ตอนแรก เสด็จอาเก้ายอมก้มหัวให้จักรพรรดิเพื่อดอกบัวหิมะอายุพันปีนั่น อ้อนวอนจักรพรรดิ แต่จักรพรรดิกลับปฏิเสธ หันกลับไปมอบบัวหิมะอายุพันปีให้กับเผ่าเสวียนเซียวกง นี่เป็นการหักหน้าเสด็จอาเก้าอย่างชัดเจน เหตุการณ์นี้เสด็จอาเก้าไม่เพียงแค่ต้องไปคิดบัญชีกับจักรพรรดิเท่านั้น แต่ยังต้องไปคิดบัญชีกับเผ่าเสวียนเซียวกงด้วย

ไม่แปลกใจว่าทำไมคนโบราณถึงกล่าวไว้ว่า ความงดงามคือหายนะ นางเป็นผู้ทำร้ายคนอื่นไม่ใช่หรือ ในเวลานี้ผู้ที่มีคุณสมบัติน้อยสุดในการกล่าวหาว่าเสด็จอาเก้าใช้ตรรกะของโจรก็คือตัวนางเอง

เช่นเดียวกัน จากผู้คนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ ผู้มีคุณสมบัติกล่าวหาว่าเสด็จอาเก้าใช้ตรรกะของโจรมากสุดก็คือเซวียนเส้าฉี แต่เซวียนเส้าฉีกลับไม่ได้กล่าวหาเสด็จอาเก้าเป็นโจรหรือไร้เหตุผล แต่กลับถามออกมาว่า “เจ้าต้องการให้เผ่าเสวียนเซียวกงชดใช้อย่างไร?”

เสด็จอาเก้ากล่าวว่าตนเองต้องการบัวหิมะอายุพันปี แต่เซวียนเส้าฉีแอบรู้สึกว่าคำพูดของเขานั้นแฝงถึงเฟิ่งชิงเฉินอยู่โดยใน ดังนั้นเขาจึงอยากทดสอบและต้องการรู้ว่าเสด็จอาเก้าจะตอบกลับมาเช่นไร

ความคิดของเซวียนเส้าฉีนั้นถูกต้อง เสด็จอาเก้าไม่เพียงต้องการบัวหิมะอายุพันปีเท่านั้น ในขณะเดียวกันคำพูดของเขายังต้องการบ่งบอกให้เซวียนเส้าฉีได้รู้ว่า เฟิ่งชิงเฉินคือผู้หญิงที่เขายอมรับ และเป็นของเขาเท่านั้น แน่นอนว่านี่เป็นเพียงเรื่องบังเอิญ แต่เขาก็ถือโอกาสนี้ในการประกาศอำนาจในการครอบครองกับเซวียนเส้าฉี เขาเชื่อว่าเซวียนเส้าฉีจะเข้าใจ

แล้วแบบนั้นเผ่าเสวียนเซียวกงยังต้องชดใช้อะไรอีกหรือไม่?

“นายท่านน้อยคิดว่าเผ่าเสวียนเซียวกงของเจ้ามีอะไรที่พอจะดึงดูดสายตาของข้าได้บ้าง?” สิ่งของที่เขาครอบครองเป็นแค่กองขยะ ต่อให้มีมากแค่ไหนมันก็เป็นแค่สมบัติไร้ค่า

คำพูดนี้......มันน่าโกรธเคืองเสียจริง เสด็จอาเก้าไม่ใช่คนเยอะหยิ่งแบบคนทั่วไป คุณชายหยวนซีกับชุยห้าวถิงมองหน้ากับพร้อมยิ้มอย่างขมขื่น ในใจแอบคิดว่า ถ้าหากวันหนึ่งตระกูลชุยกับเสด็จอาเก้ามีปัญหากันขึ้นมา แล้วเสด็จอาเก้าพูดกับพวกเขาเช่นนี้ พวกเขาจะรู้สึกอย่างไร?

พวกเขาจะต้องโกรธอย่างแน่นอน ตระกูลชุยซึ่งสง่างาม สมบัติของพวกเขาเทียบเท่ากับพระราชวัง สมบัติที่ล้ำค่าขนาดนั้นยังไม่สามารถดึงดูดสายตาของเจ้าได้?

แม้แต่คุณชายหยวนซีกับชุยห้าวถิงยังรู้สึกโกรธ ถ้าหากเซวียนเส้าฉีผู้นั้นโกรธขึ้นมามันก็สามารถเข้าใจได้ แต่เซวียนเส้าฉีกลับยังอารมณ์ดี มองไม่เห็นถึงร่องรอยแห่งความโกรธเลยแม้แต่น้อย แถมพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ดูเข้าใจ “เสด็จอาเก้า แม้แต่เผ่าเสวียนเซียวกงเจ้ายังไม่เห็นอยู่ในสายตา แล้วในเผ่าเสวียนเซียวกงจะมีสิ่งของอะไรที่ทำให้ดึงดูดความสนใจของเจ้าได้ เป็นข้าที่คิดผิดไปเอง”

การเคลื่อนไหวนี้เป็นการล่าถอย ซึ่งทำได้งดงามเป็นอย่างมาก ทำให้คุณชายหยวนซีและชุยห้าวถิงรู้สึกดีกับเซวียนเส้าฉีมากขึ้น

เสด็จอาเก้าชื่นชมในระดับปัญญาของเซวียนเส้าฉี แต่ความชื่นชมก็คือความชื่นชม เรื่องที่ต้องทำมันก็ยังต้องทำอยู่ดี เสด็จอาเก้าจึงกล่าวไปอย่างเยือกเย็นว่า “นายท่านน้อยไม่ต้องกังวล สิ่งที่ข้าต้องการแน่นอนว่าข้าจะนำมันกลับไปโดยธรรมชาติ ส่วนบัวหิมะอายุพันปี ข้าจะทำลายมัน”

นี่ไม่ใช่คำพูดในแง่ของกลอุบาย แต่มันคือความปรารถนาอันแท้จริง

บัวหิมะอายุพันปีดอกนั้นถูกใช้กับใบหน้าของเซวียนเฟย งั้นเขาก็จะทำลายหน้าของเซวียนเฟย ส่วนสิ่งที่เผ่าเสวียนเซียวกงต้องชดใช้ เขาจะนำมันไปด้วยตัวเอง

“หวังว่าเสด็จอาเก้าจะสมหวังตามความปรารถนา” แววตาของเซวียนเส้าฉีเปล่งประกายไปด้วยเปลวไฟแห่งการต่อสู้ เสด็จอาเก้าเป็นผู้ออกคำท้า เขาได้รับมันไว้ เขาไม่มีทางปล่อยให้เสด็จอาเก้าได้ทำตามความปรารถนา

การต่อสู้ของเผ่าเสวียนเซียวกงครั้งนี้ถือเป็นการกระบวนท่าแรกของเขากับเสด็จอาเก้า เช่นเดียวกันมันคือการประลองครั้งแรก เขาจะแพ้ไม่ได้!

ดวงตาของทั้งสองประสานกันกลางอากาศ ส่งเสียงดังเอี๊ยด......มีประกายไฟจางๆ สาดออกมา ดวงตาของเสด็จอาเก้าเคร่งขรึม เขาสะบัดแขนเสื้อเบาๆ ปัง......เกิดเสียงดังขึ้นในอากาศ ทำลายความกดดันในคำพูดของเซวียนเส้าฉีทั้งหมด พูดออกมาโดยไม่มองหน้า “ข้าจะทำให้สิ่งที่ข้าต้องการอย่างแน่นอน คนที่มาขวางทางข้า ข้าจะทำให้คนผู้นั้นต้องเจอกับฝันร้ายไปทั้งชีวิต”

นี่คือเสด็จอาเก้า เขากับเฟิ่งชิงเฉินนั้นเหมือนกัน เมื่อตัดสินใจอย่างแน่วแน่ในสิ่งที่ต้องการไปแล้ว ต่อให้ต้องพบเจอกับอะไรก็ต้องก้าวต้องฝ่ามันไปให้ได้

และนี่ก็คือความอดทนและอดกลั้นที่คนธรรมดานั้นไม่มี มันเป็นสิ่งที่ทำให้เขากับเฟิ่งชิงเฉินก้าวมาถึงทุกวันนี้ได้

เมื่อเห็นการเผชิญหน้าอย่างไม่ยอมถอยของชายทั้งสอง คุณชายหยวนซีและชุยห้าวถิงรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็เห็นแววตาที่ต่างออกไปจากเดิมของเซวียนเส้าฉี ความเย็นชาและเย่อหยิ่งของเสด็จอาเก้า พวกเขาเคยเห็นมาแล้ว

คนที่สามารถสงบสติอารมณ์ ควบคุมตนเองได้เมื่ออยู่ต่อหน้าแรงกดดันของเสด็จอาเก้าในตอนนี้มีไม่มาก เซวียนเส้าฉีสามารถรับมือกับเสด็จอาเก้าได้ด้วยความสงบ นี่แสดงให้เห็นแล้วว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา คุ้มค่าแก่ความสนใจของพวกเขา

สายตาของอาและหลานปะทะกันกลางอากาศ กลายเป็นสัญญาณลับโดยปริยาย เห็นทั้งสองจ้องตากันนานพอสมควร คุณชายหยวนซีจึงพูดแทรก แสดงตัวออกมาเป็นผู้สร้างสันติ

“เสด็จอาเก้า เผ่าเสวียนเซียวกงเป็นสำนักแรกในยุทธจักร มีความสัมพันธ์อันดีกับตงหลิงเป็นอย่างมาก ไม่มีความจำเป็นที่จะมาทะเลาะกันเพราะเรื่องของบัวหิมะอายุพันปีเพียงดอกเดียว ในเมื่อเผ่าเสวียนเซียวกงแย่งบัวหิมะอายุพันปีของเสด็จอาเก้าไป ก็แค่ให้พวกเขาหามาคืนก็เพียงพอแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ