ผู้หญิงในพระราชวังจะขาดแคลนสิ่งใด? ผู้หญิงซึ่งกับตั้งครรภ์ในพระราชวังจะขาดแคลนสิ่งใด?
เฟิ่งชิงเฉินคิดไปคิดมา สิ่งซึ่งนางสามารถทำได้ และอีกฝ่ายมองเห็นคงมีเพียงแค่เตรียมยาบำรุงครรภ์ให้สตรีมีครรภ์เหล่านั้น ซึ่งเป็นยาที่ไม่มีผลข้างเคียง ยิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
ส่วนสนมเอกเซี่ยและพระสนมเวินจะกล้ากินหรือไม่ นี่ไม่ใช่เรื่องที่นางต้องกังวล ผู้หญิงในวังล้วนแต่เป็นคนเจ้าเล่ห์ ไม่ว่าใครก็มีวิธีการเป็นของตนเอง ก่อนจะกินอะไรแน่นอนว่าพวกนางจะต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด
ไม่กลัวว่าจะไม่รู้จักสินค้า แต่กลัวเสียเปรียบมากกว่า แค่พวกนางสั่งให้หมอหลวงในวังตรวจสอบก็จะรู้ได้ทันทีว่ายาบำรุงครรภ์นี้ล้ำค่าแค่ไหน
เฟิ่งชิงเฉินค้นพบถึงเส้นทางหารายได้ใหม่อย่างกะทันหัน กลับไปต้องลองปรึกษากับซูเหวินชิงดูสักหน่อย ทั้งสองคนร่วมมือกันค้าขายยาบำรุงครรภ์ นี่ต้องเป็นธุรกิจที่มีกำไรมหาศาลอย่างแน่นอน
วัตถุดิบแผนปัจจุบันที่นำมาใช้ในการทำยาราคาแพงมาก แต่ในระบบแลกเปลี่ยนจรรยาแพทย์ ยาประเภทยาบำรุงภายในไม่จำเป็นต้องใช้คะแนนจรรยาแพทย์มากนัก และจากการค้นหาอยู่นาน ในที่สุดเฟิ่งชิงเฉินก็ค้นพบยาบำรุงครรภ์ที่ใช้ประโยชน์ได้
น้อยมาก มีแค่สิบกว่าชนิด เฟิ่งชิงเฉินพูดได้เลยว่าสิ่งของเกี่ยวกับการทหารและผู้ชายนั้นถูกให้ความสำคัญมากกว่าผู้หญิง หรือว่าตอนวิจัยกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะ ไม่เคยคิดว่ามีทหารเพศหญิงอยู่ ทหารเพศหญิงไม่อยู่ในการไตร่ตรองเลยแม้แต่น้อย
เฟิ่งชิงเฉินเลือกยาบำรุงสองชนิดที่แตกต่างกันออกมา ชนิดแรกเป็นยาที่เหมาะกับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ในระยะเวลาไม่เกินสามเดือน ส่วนอีกชนิดหนึ่งเป็นยาสำหรับผู้หญิงซึ่งตั้งครรภ์ในระยะเวลามากกว่าห้าเดือน เหมือนกัน ต้องใช้สามคะแนนจรรยาแพทย์ในการแลกมันมา ทั้งหมดต้องใช้สิบคะแนนจรรยาแพทย์ ยังเหลืออีก 986 คะแนนจรรยาแพทย์
10 คะแนนจรรยาแพทย์ หากเป็นเมื่อก่อนนางคงเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้......นางยิ่งใหญ่แล้ว คะแนนจรรยาแพทย์มีถึงสามหลัง มันต่างจากสี่หลักเยอะอย่างนั้นหรือ?
เจ้ารอข้าก่อน ไม่ช้าก็เร็วต้องมีสักวันที่ข้าจะเอาเจ้าไปแลก จากนั้น......ใช้เจ้าในการตัดหัวของซีหลิงเทียนเหล่ย
แฮ่ม แฮ่ม......ความคิดอาชญากรรมรุนแรง เรื่องนี้เอาไว้ค่อยพูดแล้วกัน ตอนนี้คิดเรื่องพวกนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์
เฟิ่งชิงเฉินนำยาออกมาออกมาจากห่อบรรจุ แบ่งประเภทไว้เป็นอย่างดี เขียนถึงประโยชน์และวิธีการใช้ยา เนื่องจากตัวยาค่อนข้างมีหลายชนิด เฟิ่งชิงเฉินใช้เวลากว่าสองชั่วโมงถึงจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ในตอนที่นางออกไปด้านนอก นางก็พบว่า......
ศิษย์ของนางกำลังสร้างอนาคตอันสดใส เขารู้จักการขยายอาชีพ
ในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินเดินออกมา ซุนซือสิงกำลังตรวจให้กับองครักษ์ของขันทีที่ประกาศกฤษฎีกา จากนั้นทำการจ่ายยา แถมยังบอกให้พวกเขาใส่ใจและกินยาให้ตรงเวลา จากนั้นก็วางยาไว้หน้าของขันทีที่ประกาศกฤษฎีกาผู้นั้นด้วย ดูจากท่าทางแล้วซุนซือสิงก็น่าจะทำการตรวจให้เขาเช่นกัน
หมออย่างซุนซือสิง เป็นคนที่เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นหมอจริงๆ ไม่ว่าจะไปแห่งหนใดก็ไม่เคยลืมจะช่วยเหลือผู้ป่วย แม้แต่คนในพระราชวังเขายังทำการรักษาให้เป็นอย่างดี เขาช่างสุดยอดเหลือเกิน
เหล่าองครักษ์ต่างพูดกันออกมาว่า “หมอเทวดาน้อยซุน” ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินแสดงออกถึงความชื่นชม เป็นความรู้สึกภูมิใจที่ศิษย์ของนางสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง แม้เส้นทางของเขาจะต่างจากคนอื่น แต่เขาก็สามารถกลายเป็นคนสำคัญได้เช่นกัน
ในที่สุดวันนี้ก็มีเรื่องดีเกิดขึ้นมาบ้าง อย่างน้อยก็สามารถทำให้ความหดหู่ใจกับเรื่องขององค์หญิงเหยาหวาลดลงได้บ้าง
เฟิ่งชิงเฉินยืนเงียบอยู่หน้าประตู ไม่ได้เข้าไปรบกวนซุนซือสิง จะกระทั่งซุนซือสิงทำการรักษาผู้ป่วยคนสุดท้ายเป็นอันเรียบร้อย เฟิ่งชิงเฉินถึงเดินเข้าไป
“อาจารย์ ในที่สุดท่านก็ออกมาแล้ว” ซุนซือสิงเห็นเฟิ่งชิงเฉินราวกับเห็นดวงดาวช่วยชีวิต รีบเดินเข้าไปทันที
ไม่ถนัดเรื่องเชื่อมความสัมพันธ์กับผู้คน อาจารย์ให้เขาอยู่เป็นเพื่อนขันทีผู้นี้ เขาไม่รู้จริงๆว่าควรจะพูดอะไรกับอีกฝ่าย ทั้งสองคนนั่งจ้องกันเป็นเวลานาน เงียบอยู่พักใหญ่ ซุนซือสิงเห็นว่าสีหน้าของอีกฝ่ายไม่ค่อยดี ดังนั้นจึงลองถามออกไป และหลังจากนั้น......
เขาก็เริ่มทำการรักษาให้กับทุกคน
วิธีการที่ซุนซือสิงค้นพบนั้นยอดเยี่ยมมาก มันช่วยเขาให้ไม่ต้องลำบากในการเข้าสังคมกับคนอื่น แต่......หลังจากตรวจผู้ป่วยคนสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว เฟิ่งชิงเฉินยังไม่ทันเดินเข้ามา ซุนซือสิงกลับร้องไห้
กลุ้มใจอยู่นาน ที่จริงเขาทนต่อความกลุ้มใจเช่นนี้อีกต่อไปไม่ไหวแล้ว แต่ในตอนที่เขากลั้นใจเงยหน้าขึ้น คิดไม่ถึงว่าจะเห็นเฟิ่งชิงเฉินกำลังเดินเข้ามา แบบนี้เขาจะไม่มีความสุขได้อย่างไร
“ลำบากเจ้าแล้ว” เฟิ่งชิงเฉินยิ้มอย่างชื่นชม จากนั้นหันไปหาขันทีที่ประกาศกฤษฎีกาและกล่าวว่า “กงกง สิ่งที่มอบให้กับเหนียงเหนียงทั้งสองท่าน ชิงเฉินได้จัดเตรียมไว้เป็นอันเรียบร้อย และยังมีของกำนัลชิ้นเล็กอยู่อีกชิ้นหนึ่ง นั่นเป็นสิ่งที่มอบให้กับกงกง ขอกงกงได้โปรดรับไว้”
นี่เป็นสิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินตัดสินใจ สำหรับนางแล้วราคายาไม่สำคัญอะไร มันเทียบไม่ได้กับบุญคุณหรือความสัมพันธ์อันดี
ขันทียิ้มออกมาด้วยความดีใจอย่างที่คิด “ได้ ได้ ได้เลย นี่ก็ได้เวลาแล้ว พวกข้าเองก็คงต้องกลับไปวัง”
ตอนที่เขาเห็นของกำนัลซึ่งเฟิ่งชิงเฉินเตรียมไว้ให้เขา ขันทีชื่นชมในความสามารถในการจัดการเรื่องราวของเฟิ่งชิงเฉิน เขามีหน้าที่นำของกลับไปมอบให้สนมเอกเซี่ยและพระสนมเวิน ก็จริงอยู่ว่าเขาได้ความดีความชอบอยู่แล้ว แต่เจ้าเฟิ่งชิงเฉิน เจ้าก็ต้องแสดงออกถึงอะไรบางอย่างสักเล็กน้อยอย่างที่เจ้าทำ ไม่อย่างนั้นคงยากที่เขาจะกลับไปรายงานผล
อย่างที่คิด เฟิ่งชิงเฉินฉลาดหลักแหลมมาก นางไม่ได้เอ่ยถึงผลประโยชน์แต่อย่างใด แค่มอบของกำนัลให้เขาเท่านั้น เหมือนกับว่าเป็นน้ำใจเล็กน้อย สตรีเช่นนี้......
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเหล่าเหนียงเหนียงในวังถึงได้ชอบใจนาง สตรีผู้มีจิตใจงดงามเช่นนี้จะไม่ให้ชอบได้อย่างไร
หลังจากพวกของขันทีที่ประกาศกฤษฎีกากลับไปแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็ทรุดตัวลงบนเก้าอี้โดยตรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ