นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 736

เฟิ่งชิงเฉินเปิดประตูก็เห็นเสด็จอาเก้ายืนรออยู่ด้านนอก เนื่องจากได้ยินเรื่องราวของหลานอีหลิน เฟิ่งชิงเฉินจึงรู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย พยายามกล่าวออกมาว่า “ท่านได้ยินหมดแล้วใช่ไหม?”

“อือ” เสด็จอาเก้าพยักหน้าเพื่อบ่งบอกว่าตนเองได้ยินแล้ว ถึงต่อให้ไม่ได้ยิน การคาดเดาของเขาก็ถูกต้อง

หากเป็นเขา เขาเองก็คงทำเช่นนี้ บนโลกนี้จะมีคนโง่ที่จงรักภักดีสักกี่คน

“ยังจะส่งตัวนางให้ตระกูลชุยอีกหรือไม่? เมื่อกลับไป นางก็เป็นได้แค่หุ่นเชิดของตระกูลชุยเท่านั้น” เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกใจอ่อน เด็กผู้หญิงที่ชื่อหลานอีหลิน ทำให้นางคิดถึงตัวเองในตอนแรก หมดหนทางและหวาดกลัว แต่ก็ไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา

ในโลกมนุษย์อันแสนแปลกประหลาดนี้ พวกเขาคือผู้ถูกเอาเปรียบอย่างสมบูรณ์ แต่แค่นางกับหลานอีหลินเลือกทางที่แตกต่างกัน นางเลือกที่จะทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวนางอย่างระมัดระวังเพื่อก้าวเข้ามาในโลกใบนี้ แต่หลานอีหลินกลับแสดงตนว่าให้คนอื่นรู้จัก ซึ่งนั่นคือสิ่งที่แตกต่างออกไป

หากนางไม่ได้แซ่หลาน ไม่ถูกเลี้ยงดูมาโดยตระกูลชุย นางอาจจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี แต่ในความเป็นจริงนางอยู่ในมือของตระกูลชุย ไม่ว่าตนเองจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่สามารถเขย่ากองกำลังอันยิ่งใหญ่ได้

“หุ่นเชิด? พวกเราไม่ว่าใครก็ล้วนเป็นหุ่นเชิด เจ้าก็ใช่ ข้าเองก็ใช่ หากต้องการลิขิตชีวิตตนเอง ก็ต้องมีพลังเพียง นางจะเป็นอย่างไรจะโทษคนอื่นไม่ได้ ต้องโทษที่นางเกิดมามีแซ่หลาน นางไม่กลับไปตระกูลชุย ด้วยความสามารถของนางก็คงมีแค่ความตายเท่านั้นที่รออยู่ หากไม่อยากให้นางตายก็ส่งนางกลับไปตระกูลชุย ตระกูลชุยไม่มีทางสังหารนาง”

ตระกูลชุยคือผู้ปกป้องที่ดีที่สุดของหลานอีหลิน หากไม่มีตระกูลชุย หนทางด้านหน้าของหลานอีหลินก็คงมีแต่ความตาย เรื่องนี้เขาเชื่อว่าเฟิ่งชิงเฉินเข้าใจดี

ใช่ เฟิ่งชิงเฉินเข้าใจดี ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงแค่พูด ขนาดตอนนี้พวกเขาเองยังถูกไล่ล่า แบบนั้นจะเอาอะไรไปช่วยปกป้องหลานอีหลิน

“ข้าเข้าใจแล้ว” เฟิ่งชิงเฉินหลับตา ขจัดจิตใจที่อ่อนโยน

ไม่นางไม่คุณสมบัติที่จะไปสงสารหลานอีหลิน นางไม่มีความสามารถที่จะไปปกป้องสาวน้อยผู้ไร้เดียงสาคนนั้น

“ดูแลนางให้ดี ก่อนที่ตระกูลชุยจะมา อย่าให้นางฟื้นขึ้นมาเป็นอันขาด ข้าไม่อยากให้เกิดเหตุไม่คาดฝัน” เสด็จอาเก้าสั่งอย่างไร้ความปราณี และเขารู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินสามารถทำได้

“ได้” เฟิ่งชิงเฉินตั้งใจที่จะป้อนยาให้หลานอีหลินตั้งแต่แรก เด็กคนนี้สามารถหนีออกมาได้ครั้งหนึ่งแล้ว ก็ต้องมีครั้งที่สองอย่างแน่นอน โชคดีที่ครั้งนี้ได้เจอกับพวกเขา ครั้งหน้านางจะจะถูกฆ่าหรือไม่ก็พาไปขาย

เฟิ่งชิงเฉินเดินกลับไปที่ห้อง ป้อนยาให้หลานอีหลิน ขณะที่เสด็จอาเก้าเดินไปทางด้านซ้าย เขาหยุดตรงมุมอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็เดินออกไปพร้อมกับคุณชายใหญ่ที่อยู่ตรงนั้น

ทั้งสองคนเดินมาถึงพื้นที่วาง พวกเขายืนอยู่ข้างกัน มองไปในระยะไกล สายลมพัดเข้ามา เสื้อผ้าของพวกเขาเต้นระบำ คนหนึ่งเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง อีกคนสงบนิ่งราวกับสายน้ำ แค่เหงาหลังของคนเพียงคนเดียวก็สามารถทำให้คนทั้งโลกโหยหา คิดจะก้าวไปด้านหน้า ต้องลองดูก่อนว่าผู้เป็นเจ้าของเงาหลังผู้นั้นเป็นคนแบบไหน

แต่ไม่มีใครกล้าก้าวออกไป เนื่องจากด้วยท่าทางที่ทั้งสองยืนอยู่ มันเหมือนกับจักรพรรดิกำลังยืนคุยกับเสนาบดีคนสนิทผู้มีปัญญาเหลือล้น และเป็นคนที่เขาไว้ใจที่สุด คนธรรมดาไม่กล้าเข้าใกล้

“เจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม?” ผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดเสด็จอาเก้าก็เอ่ยปากออกมา

“ได้ยินแล้ว พระราชวงศ์ที่น่านับถือที่สุด กับตระกูลชุยที่ใกล้ชิดกับราชวงศ์มากที่สุด” ดวงตาของหวังจิ่นหลิงมองไปด้านหน้าอย่างว่างเปล่า

ปลายทางของตระกูลหลานเป็นสิ่งที่ทำให้หัวใจของเขาสั่นสะเทือน บนโลกนี้สิ่งที่พึ่งพาได้มากที่สุดมีเพียงอำนาจเท่านั้น!

ราชวงศ์แห่งตระกูลหลานอันสูงส่ง ถูกเข่นฆ่าจนไม่เหลือใคร ผู้รอดชีวิตมาโดยบังเอิญถูกเลี้ยงดูราวกับสัตว์ เด็กที่เกิดมาโง่เท่านั้นถึงเอาชีวิตรอดต่อไปได้

ทำไมถึงได้เศร้าถึงขนาดนี้ หากวันหนึ่งตระกูลหวังถูกโค้นล้ม ทายาทของตระกูลหวังเกรงว่าคงจะน่าอนาถกว่าตระกูลหลาน ทายาทของตระกูลหลานยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ แต่ทายาทของตระกูลหวังนั้นไร้ค่า

“งั้นเจ้าจะตัดสินใจอย่างไร?” เสด็จอาเก้าหันไปมองหวังจิ่นหลิง ไม่อนุญาตให้เขาปฏิเสธหรือหลบหนี

การต่อสู้ครั้งนี้ได้เปิดฉากแล้ว พวกเขาต่างเป็นตัวละครตัวหนึ่งในการต่อสู้ครั้งนี้ ใครก็หนีไม่พ้น และเขาไม่สามารถปล่อยให้ตระกูลหวังตกเป็นของตระกูลชุย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ