นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 739

ทันทีที่ฮูหยินของผู้นำก้าวเข้ามาก็เห็นพระสวามีของตนเองกำลังเดินไปเดินมาอยู่ในตำหนักด้วยใบหน้าอันเคร่งขรึม นางรีบเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าพร้อมกับเดินเข้าไป “พระสวามี เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นหรือ?”

ขณะที่พูดออกมาก็กอดแขนของผู้นำไว้แน่น ท่าทางของนางเหมือนกับไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เจ้ากับข้าจะผ่านมันไปด้วยกัน และด้วยท่าทางนี้ของนาง แม้เวลาจะผ่านไปแล้วยี่สิบปี แต่ผู้นำเผ่าเสวียนเซียวกงก็รู้สึกเหมือนวันแรกที่ได้เจอ ไม่ว่าจะรู้สึกสงสัยมากเพียงใด ทุกอย่างก็ถูกคลายลงอย่างรวดเร็ว

“อี่โม่......”

“พระสวามีเป็นอะไรไปงั้นหรือ? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” ผู้นำเผ่าเสวียนเซียวกงจมอยู่ในอารมณ์ของเขาเอง ไม่เห็นรอยยิ้มอันแข็งทื่อตรงมุมปากของฮูหยิน

ช่วงนี้นางได้ยินชื่อของอี่โม่ทุกวันจนนางจะบ้าตายอยู่แล้ว

“อี่โม่ ข่าวลือในยุทธจักร เจ้า นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” โชคดีที่ผู้นำเผ่าเสวียนเซียวกงยังไม่ลืมถึงจุดประสงค์เดิมของเขา

“ข้า? ข้าจะไปฆ่าใคร?” ใบหน้าของฮูหยินแข็งทื่อราวกับได้ยินอะไรแปลกไป แต่ในใจของนางตื่นตระหนก เกรงว่าคงมีแต่นางเท่านั้นที่รู้

“ไม่ใช่เจ้าอย่างนั้นหรือ? ทำไมโลกของมือสังหารถึงได้ลือกันว่าเจ้ายอมจ่ายถึงสองแสนแผ่นทองเผื่อเอาชีวิตของผู้หญิงที่ชื่อเฟิ่งชิงเฉิน?” ผู้นำเผ่าเสวียนเซียวกงขมวดคิ้วขึ้นมา ในความประหลาดใจ ก่อนอื่นไม่พูดถึงว่าอี่โม่ไปเอาเงินจำนวนมากขนาดนั้นมาจากไหน เพราะหากอี่โม่ทำเช่นนั้นจริง ข่าวนี้ไม่มีทางแพร่กระจายออกมาได้ถึงจะถูก

มือสังหารมีกฎเกณฑ์ของมือสังหาร พวกเขาไม่มีทางเปิดเผยตัวตนของผู้ว่าจ้าง

ตุบ ตุบ ตุบ......

หัวใจของฮูหยินเต้นแรง แววตาของนางมีความกลัวเผยออกมาให้เห็น แต่ก็อธิบายออกไปอย่างใจเย็น “จะเป็นไปได้อย่างไร มือสังหารชั้นยอดในเผ่าเสวียนเซียวกงมีอยู่มากมาย ทำไมข้าต้องไปจ้างมือสังหารภายนอกด้วย อีกอย่าง......แม่หญิงที่ชื่อเฟิ่งชิงเฉินทำให้เสี่ยวเฟยได้รับบาดเจ็บ ไม่ว่ายังไงท่านก็ต้องแก้แค้นทางอยู่แล้ว ข้าไม่เห็นมีความจำเป็นต้องลงมือ และเงินตั้งสองแสนแผ่นทอง ข้าจะไปเอามาจากไหน”

พูดจบนางก็ไม่ลืมเงยหน้าขึ้นมามองผู้นำ แววตาของนางแสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นธรรม ดูเศร้าสร้อย ทำเป็นเหมือนกำลังปกปิดมัน ไม่ต้องการให้ใครเห็น ทำให้คนอื่นรู้สึกว่านางกำลังดื้อรั้น

ที่นางแสดงท่าทางเช่นนี้ออกมาก็เพราะนางรู้ว่าชายที่อยู่ด้านหน้าของนางแพ้ให้กับท่าทีนี้

ลู่อี่โม่ ผู้หญิงที่ไม่ร้องขอความเป็นธรรมยามที่ตนเองต้องเจ็บปวด ผู้หญิงที่ชอบปิดปากเงียบถึงแม้ตนเองต้องมีน้ำตา

ตอนนี้นางคือลู่อี่โม่ เห็นได้ชัดว่าได้รับความไม่เป็นธรรม แต่ไม่อยากให้อีกฝ่ายรับรู้

“อี่โม่ ขอโทษ ข้าไม่ได้สงสัยเจ้า แค่ข่าวนี้มันทำให้ข้าตกใจเป็นอย่างมากจึงอยากจะมาถามเจ้า ข้ารู้ว่าไม่ใช่เจ้า......” ผู้นำเผ่าเสวียนเซียวกงรีบเข้าไปโอบฮูหยินไว้ในอ้อมกอดพร้อมกล่าวคำปลอบใจ

“พระสวามี ข้าไม่เป็นไร ข้ารู้ว่าท่านอาจสงสัยในตัวข้า ข้ากับท่านครองรักกันมานานถึงขนาดนี้ แต่ข้าก็ยังไม่เข้าใจท่านทั้งหมด แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ต้องทำให้กระจ่าง จะปล่อยให้ใครมาใส่ความเผ่าเสวียนเซียวกงของพวกเราแบบนี้ไม่ได้ คนที่ไม่รู้จะคิดว่าเผ่าเสวียนเซียวกงของพวกเรารังแกเด็กหญิงที่ไม่มีทางสู้”

ฮูหยินตอบรับคำปลอบใจของผู้นำ จากนั้นก็ทำในสิ่งที่คนโง่อย่างลู่อี่โม่จะทำ เห็นได้ชัดว่าตนเองได้รับความไม่เป็นธรรม แต่ยังคิดถึงคนอื่น ปลอบโยนอีกฝ่าย

ยี่สิบปีแล้ว นิสัยเหล่านี้ของลู่อี่โม่นางจำได้ดีกว่าลู่อี่โม่เสียอีก และในบางครั้งนางก็ลืมตัวไปว่าเวลาไหนกำลังแสดงอยู่ เวลาไหนเป็นความจริง

“อี่โม่ เจ้าวางใจ คำพูดนี้ข้าต้องป่าวประกาศออกไปแน่ ไม่มีทางปล่อยให้เจ้าพวกนั้นอยู่อย่างเป็นสุข ข้าได้บรรลุข้อตกลงกับจักรพรรดิแห่งตงหลิงแล้ว ศึกครั้งนี้ข้าจะจัดการกับเสด็จอาเก้าแทนเขา และดึงคนอื่นเข้ามาเป็นพวก” ตราบใดที่ยังมีความแข็งแกร่งก็ไม่มีทางขาดแคลนพันธมิตรบนโลกใบนี้

“พระสวามี ข้ารู้อยู่แล้วว่ามีท่านอยู่ จะไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับข้าและเสี่ยวเฟย ครอบครัวของพวกเราอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหนก็สามารถผ่านไปได้” ฮูหยินกอดเผ่าเสวียนเซียวกงด้วยความอ่อนโยน พวกเขาสองคนกอดกัน เป็นความอบอุ่นที่ไม่สามารถอธิบายได้......

เซวียนเส้าฉีที่อยู่ด้านนอกได้ยินคำพูดของฮูหยิน เขาเกือบจะอาเจียนออกมา เมื่อเดินเข้าไปก็เห็นฉากซึ่งทั้งสองกำลังโอบกอด เขาอดไม่ได้ที่จะพูดประชดประชันออกมา “ครอบครัวเดียวกัน? ฮูหยิน ท่านช่างหน้าไม่อายเสียจริง”

เสียงนี้ทำให้ทั้งสองซึ่งกำลังกอดกันตกใจ ผู้นำและฮูหยินแยกออกจากกันโดยเร็ว ผู้นำอายมาก เงยหน้าขึ้นไปมอง ลูกชายที่เขาไม่อยากเห็นปรากฏตัวออกมาแล้ว กล่าวออกไปด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “เส้าฉี ยิ่งนานวันเจ้ายิ่งไร้มารยาท ทำไมถึงได้เข้ามาโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง”

ใช่ ทำไมถึงไม่ให้สุ้มให้เสียงเลยสักนิด เส้าฉีเข้ามาโดยปราศจากการรับรู้ของเขา ลูกของเขาคนนี้เก่งขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? แววตาของผู้นำเผยให้เห็นถึงความระมัดระวังกับลูกชายของตนเอง......

เร็วมาก แต่เซวียนเส้าฉีกับฮูหยินต่างเห็นมัน ใบหน้าของเซวียนเส้าฉีไม่แสดงความรู้สึกอะไร เขาชินกับความเฉยเมยของพ่อเขาแล้ว ส่วนฮูหยิน เซวียนเส้าฉีไม่มีทางโอกาสในการโจมตีด้วยสายตาหลุดมือไป

หากไม่มีเขา ลูกชายของนางเซวียนเส้าเจี๋ยถึงจะสามารถเป็นผู้นำคนต่อไปได้

เซวียนเส้าเจี๋ยยังเด็ก แต่กลับเป็นความหวังในสายตาของพ่อแม่อย่างมาก แต่น่าเสียดาย นั่นคงเป็นได้แค่ฝัน......

“ท่านพ่อ ข้ามีเรื่องอยากจะเตือนท่าน เป็นเพราะพวกท่านกอดกันแน่นเกินไปจึงไม่เห็นการมีตัวตนของข้า” เซวียนเส้าฉีอธิบายออกไปอย่างสงบ พ่ออาจไม่สนใจเขาก็ได้ แต่เขาจำเป็นต้องให้เกียรติพ่อ ไม่อย่างนั้นประชาชนคนรังเกียจเขา

ใบหน้าของผู้นำเผ่าเสวียนเซียวกงแดงขึ้นมาทันที ดุออกมาอีกครั้ง “เส้าฉี เจ้าพูดแบบนี้ออกมาได้อย่างไร”

“ข้าก็พูดแบบนี้ออกมาโดยตลอด ท่านพ่อ ท่านไม่รู้อย่างนั้นหรือ?” ที่จริงเขาน่าสงสารกว่าชิงเฉิน มีพ่อแบบนี้ไม่มีเสียยังดีกว่า

“เส้าฉี เจ้าไม่เคยถูกสั่งสอนหรืออย่างไร?” ท่าทางที่ไม่สนใจของเซวียนเส้าฉีทำให้ผู้นำโกรธมาก นี่คือทัศนคติที่ผู้เป็นลูกมีต่อพ่ออย่างนั้นหรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ