นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 747

สรุปบท บทที่ 747-2 กระสุนปืน? ไม่สิ การต่อสู้อันดุเดือด!: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

บทที่ 747-2 กระสุนปืน? ไม่สิ การต่อสู้อันดุเดือด! – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอนนี้ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 747-2 กระสุนปืน? ไม่สิ การต่อสู้อันดุเดือด! จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตูม......

ตูม......

ตูม......

ครั้งนี้ไม่ทำให้เซวียนเส้าฉีผิดหวัง จำนวนห้าร้อยที่สั่งออกไป ในที่สุดก็สามารถทำลายกับดักแรกของอีกฝ่ายได้ น้ำหนักนี้มันเพียงพอจะทำลายไม้กระดาน และราคาที่ต้องจ่ายเมื่อแผ่นไม้ถูกทำลายก็คือ แกะแต่ละตัวจะตกลงไปในหลุมกับดักทราย

“แบะ แบะ......”

ช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตาย แกะฝูงนี้ไม่สนใจที่จะหาอาหารอีกต่อไป แกะที่ไม่ได้ตกลงไปในหลุมทรายวิ่งหนีไปด้านหน้าอย่างสิ้นหวัง และในตอนนี้ก็ถึงช่วงเวลาที่ดินปืนจะแผลงฤทธิ์

“จุดไฟ!”

ภายใต้การออกคำสั่งของเฟิ่งชิงเฉิน ได้ยินเพียงเสียงที่เหมือนสายฟ้าฟาด แต่เสียงนี้กลับถูกกลบอย่างสมบูรณ์โดยเสียงของการโจมตี แต่พลังทำลายของมันนั้นไม่ถูกได้ถูกซ่อนเอาไว้เลย เมื่อสายชนวนติดไฟ ความงดงามของมันก็ผลิบาน

ตูม......

เสียงระเบิดอันรุนแรงดังขึ้น ภายใต้การระเบิดของดินปืน ทรายดูดและฝูงแกะปลิวขึ้นไปบนท้องฟ้า อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นดินปืนและเนื้อแกะย่าง

หัวและขาของแกะบินไปทั่วท้องฟ้า และเสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวดที่ดังภายใต้แรงระเบิดนั้นมันก็ไม่เพียงพอ

ห่ากระสุนปืน?

ไม่ นี่เรียกว่าการต่อสู้อันดุเดือด กลิ่นดินปืนปกคลุมทั่วทั้งสนามรบ ทุกคนต่างเชื่อมั่นในพลังทำลายล้างอันทรงพลังของมัน คนที่เห็นฉากนี้ต่างอดไม่ได้จนต้องกลืนน้ำลาย ผู้คนที่อยู่ด้านข้างของเผ่าเสวียนเซียวกงมีดวงตาที่สดใสและใบหน้าอันบ้าคลั่ง

พลังสังหารของดินปืนนี้รุนแรงมาก ชั่วพริบตาสามารถสังหารผู้คนได้มากมาย พลังของมันน่านับถือเป็นอย่างมาก แต่น่าเสียดายของเหล่านี้ที่เสด็จอาเก้าและหวังจิ่นหลิงนำมา จำนวนที่นำมาได้นั้นมีจำกัด

การฝึกครั้งนี้ใช้มันไปถึงหนึ่งในสามของจำนวนทั้งหมด ที่จริงมันเป็นการสิ้นเปลือง แต่หากไม่ทำเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่เห็นประสิทธิภาพที่แท้จริงของดินปืน

และจากฝ่ายโจมตี เห็นได้ชัดว่าพวกเขาดูขี้ขลาดเล็กน้อย เมื่อเห็นแกะจำนวนห้าร้อยตัวตายไปต่อหน้า ในใจของพวกเขารู้สึกผิด และในขณะเดียวกันก็รู้สึกขอบคุณที่แกะฝูงนี้ไม่ใช่ของตนเอง ไม่อย่างนั้นถูกเผาไปแบบนี้คงกลายเป็นเนื้อย่างไปตั้งนานแล้ว

เสียงระเบิดหยุดลง แต่พลังทำลายล้างของมันยังคงอยู่ กลิ่นดินปืนที่เข้มข้น ทุกอย่างสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล

“เจ้ารู้ตั้งแต่แรกแล้วหรือว่ามันผิดปกติ?” หวังจิ่นหลิงใช้เวลาครู่หนึ่งกว่าจะดึงสติกลับมาจากฉากที่เกิดขึ้นได้

ภาพเปลวเพลิงที่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้านี้ช่างน่าตกใจจริง ๆ ขอแค่ได้เห็นมัน รับรองได้ว่าจะไม่มีวันลืมมันไปตลอดกาล

“อ่า ชั้นของผิวทรายมันมีปัญหา” เสด็จอาเก้าตอบไม่ตรงคำถาม เขารู้ว่าหวังจิ่นหลิงต้องการถามอะไร แต่เขาแค่ไม่อยากจะตอบคำถามนั้นของหวังจิ่นหลิง

“ใครถามเจ้าเกี่ยวกับปัญหาของผิวทราย เรื่องนั้นข้ารู้ตั้งแต่แรกแล้ว ไม่อย่างนั้นเจ้าคงไม่ส่งทหารห้าร้อยนายไปโจมตีหรอก” หวังจิ่นหลิงจ้องไปที่เสด็จอาเก้า “เจ้าคิดว่าข้าหมายถึงเรื่องนี้งั้นหรือ ? ตอนนั้นคนที่ใช้ระเบิดสังหารคนของหลี่เซี่ยงก็คือชิงเฉินใช่ไหม”

ความกล้าของเฟิ่งชิงเฉินช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน นางกล้าแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อฝังดินปืน แต่การเข้าไปฝังดินปืนในพระราชวังไม่ใช่เรื่องที่เฟิ่งชิงเฉินสามารถทำด้วยตัวคนเดียวได้ ผู้ชายคนนี้น่าจะคอยให้ความช่วยเหลือนางอยู่

“ใช่” เสด็จอาเก้าตอบกลับมาโดยไม่คิดอะไร คำถามของหวังจิ่นหลิงนั้นชัดเจนในตัวเอง เขายังสามารถเสแสร้งต่อไปได้อีกอย่างนั้นหรือ ?

ดินปืนก็เอาออกมาแล้ว จะเสแสร้งต่อไปก็ไม่มีความหมาย แต่ไม่ใช่ว่าของสิ่งนี้จะไม่มีจุดอ่อน ตัวอย่างเช่นเมื่อมันเปียกน้ำก็หมดประโยชน์ และหากตัดสายชนวนของมัน มันก็หมดประโยชน์เช่นกัน

“ฮ่าฮ่า” หวังจิ่นหลิงหัวเราะออกมาแต่ไม่ได้พูดอะไร วันนี้เขามีโอกาสชนะ และต้องมาดูกันต่อว่าเขาจะทำอย่างไรเพื่อเพิ่มความได้เปรียบ

กองทัพของทั้งสองได้สู้กันอีกครั้ง เซวียนเส้าฉีใช้แกะแทนคน หลังจากผ่านสนามเพลาะ เซวียนเส้าฉีก็ใช้แผ่นไม้สร้างเป็นสะพาน แต่แกะนั้นไม่มีสติปัญญาเหมือนมนุษย์ ครั้งนี้มีการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก แกะมากกว่าพันตัวสูญเสียชีวิต

เฟิ่งชิงเฉินเห็นจำนวนผู้เสียชีวิตของฝ่ายศัตรูมีจำนวนมากขึ้น นางก็ส่งเสียงออกมาว่า “ให้เซวียนเส้าฉีประหยัดหน่อย อย่าปล่อยให้ทหารทั้งหมดตายไปก่อนที่จะบุกเข้ามาถึงเผ่าเสวียนเซียวกง”

ทหารทั้งหมดในการฝึกครั้งนี้ถูกแทนที่ด้วยฝูงแกะ พวกเขาไม่สามารถนำแกะที่มีชีวิตมาได้ถึงสามหมื่นตัว ดังนั้นจึงทำได้เพียงนับเป็นฐานเท่านั้น

ไม่นานทหารก็ถ่ายทอดคำสั่งกลับมาว่า “เจ้าวังฝากมาบอกว่า ให้ท่านช่วยยังมือสักนิด”

“ไม่มีเยื่อใยในสนามรบ บอกเขาว่าฝันไปเถอะ” เฟิ่งชิงเฉินตอบกลับไปโดยไม่คิด

เหล่าผู้ควบคุมกลไกยิ้มออกมา พวกเขานั่งชงชาอยู่ด้านข้าง ดื่มมันอย่างมีความสุข

อีกฝ่ายยังอยู่ห่างจากเผ่าเสวียนเซียวกงเป็นอย่างมาก แต่กลับสูญเสียทหารไปแล้วกว่าห้าพันนาย แต่ฝ่ายตนเองยังไม่มีใครเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว แบบนี้จะไม่ให้พวกเขามีความสุขได้อย่างไร

จำนวนทหารทั้งหมดที่บุกเข้ามายังแนวป้องกันที่สามคือหมื่นสามร้อยคน ตอนนี้เหลือไม่ถึงหกพัน สูญเสียไปแล้วมากกว่าสี่พันแปดร้อย และอีกสองหมื่นที่เหลือซึ่งอยู่ด้านหลังก็ยังตามมาไม่ทัน

เนื่องจากไม่มีแผ่นไม้อยู่บนกับดักทรายแล้ว เซวียนเส้าฉีใช้เพียงแค่สามร้อยคนก็สามารถทำให้คนอีกเจ็ดพันคนบุกเข้ามาได้ และตอนที่บุกเข้ามาจากด้านนอกอีกหมื่นเก้าพันคน เมื่อเข้ามาแล้วก็เหลือเพียงหมื่นแปดพันคนเท่านั้น

ทหารสามหมื่นคนบุกฝ่าแนวป้องกันมา ตอนนี้เหลือแค่ประมาณสองหมื่นสี่พันคนเท่านั้น ต้องบอกเลยว่าจำนวนของผู้เสียชีวิตนั้นไม่ได้สูงอย่างไม่น่าเชื่อ และนี่เป็นสถานการณ์ที่รู้ว่าเผ่าเสวียนเซียวกงได้จัดเตรียมกับดักและกลไกไว้ หากไม่รู้ว่ามีสิ่งเหล่านี้อยู่ ทหารทั้งสามหมื่นนายคงตายไปอย่างสิ้นซากตั้งแต่แนวการป้องกันแรก

เมื่อเทียบกับเสด็จอาเก้า ถือว่าเจ้าเล่ห์กว่ามาก......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ