บทที่ 766 เรือนดอกไม้ ชายหนุ่มและชายชรารูปงาม – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ตอนนี้ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 766 เรือนดอกไม้ ชายหนุ่มและชายชรารูปงาม จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เสด็จอาเก้าหยุดอยู่หน้าประตู แจ้งเตือนคนด้านในว่าเขามาแล้ว
มองผ่านช่องบังลม เสด็จอาเก้าเห็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่บนพรม ด้านข้างของเขามีกระดาษหมากล้อมอยู่ มือด้านซ้ายของชายวัยกลางคนถือหมากสีขาว ส่วนมือด้านขวาถือหมากสีดำ เขาวางหมากสีขาวดำสลับกัน เห็นได้ชัดว่ากับเล่นหมากล้อมกับตนเองอยู่
ชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมยาวขนาดใหญ่ โดยเปิดคอเสื้อออกกว้างเผยให้เห็นผิวสีเหลือง มองจากหน้าอกของเขา คนผู้นี้ได้รับการฝึกฝนมาอย่างหนักโดยไม่ต้องสงสัย
แต่ท่วงท่าของเขาเต็มไปด้วยความสง่างามและน่านับถือ ประกอบกับลักษณะและอายุซึ่งอยู่ในวัยผู้ใหญ่ของเขา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคือปรมาจารย์ด้านวรรณกรรมรุ่นต่อไป
ชายผู้นี้สมแล้วที่เป็นบุคคลผู้ยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดินจิ่วโจวในเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เสด็จอาเก้าแอบยกย่องเขาอยู่ในใจ ในขณะเดียวกันก็รู้สึกสงสาร
ตอนนั้นชายผู้นี้มีชื่อเสียงไม่น้อยไปกว่าหวังจิ่นหลิง ความสามารถของเขาไม่ด้อยไปกว่าหวังจิ่นหลิง แต่ชะตากรรมของเขานั้นไม่ได้ดีเหมือนกับหวังจิ่นหลิง
หวังจิ่นหลิงเป็นผู้นำตระกูลหวังผู้มีอำนาจสูงส่ง แต่เนื่องจากชายผู้นี้หลงรักเจ้าหญิง ประกอบกับความสงสัยของราชวงศ์ ทำให้เขาสูญเสียตำแหน่ง ถูกปกปิดชื่อเสียง และถูกมองว่าเป็นคนไม่ดีในทุกวันนี้
ตอนแรกคิดว่าเขาคงรู้สึกเคียดแค้นต่อโลกหลังจากถูกเหยียดหยามและปล่อยให้เคว้งคว้าง คิดไม่ถึงเลยว่าชายผู้นี้ยังคงเจิดจรัสและสง่างาม เขาไม่ได้ถูกบดขยี้ด้วยความเป็นจริง แต่กลับซ่อนความเฉลียวฉลาดไว้ในตัวเอง
อารมณ์ จิตใจ ความสามารถ มันช่างน่าเสียดายเหลือเกิน
เสด็จอาเก้ายืนมองอยู่ตรงที่เดิม ไม่เข้าไปรบกวนการเล่นหมากล้อมของชายผู้นั้น และไม่คิดว่าอีกฝ่ายไร้มารยาท เนื่องจากเขาเป็นคนเข้ามารบกวนอีกฝ่ายเอง ไม่ใช่อีกฝ่ายละเลยเขา
ชายผู้นี้ราวกับไม่เห็นการมีอยู่ของเสด็จอาเก้า เขาเล่นหมากล้อมต่อไปตามลำพัง จนกระทั่งผ่านไปครึ่งชั่วโมง ผลการแพ้ชนะถูกตัดสิน ชายผู้นี้เลิกเล่น วางหมากในมือลงบนโต๊ะ
“ได้ยินมาว่าเสด็จอาเก้านั้นเย่อหยิ่งและจองหอง ไม่เห็นใครอื่นอยู่ในสายตา วันนี้ถึงได้รู้ว่าข่าวลือพวกนั้นไม่ใช่ความจริง” ชายผู้นั้นลุกขึ้นยืนพร้อมกับหันมามองเสด็จอาเก้า
หากมีคนอยู่ด้วยคงรู้สึกแปลกใจ คนอย่างเสด็จอาเก้าถึงกับรอชายผู้นี้เล่นหมากล้อมอยู่ตั้งครึ่งชั่วโมง ชายผู้มีอารมณ์รุนแรงผู้นี้ ยืนขึ้นเพื่อกล่าวทักทายเสด็จอาเก้า
เผชิญหน้ากับการเยาะเย้ยอย่างอ่อนโยน เสด็จอาเก้ากล่าวออกไปว่า “ผู้อาวุโสหยินหลี่ผิดแล้ว ที่จริงข้าเย่อหยิ่งและหยาบคายยิ่งกว่าข่าวลือพวกนั้นอีก”
เสด็จอาเก้าพยักหน้าเพื่อบ่งบอกว่าตนเองรับการทักทายพร้อมกับนั่งลงอีกด้านหนึ่ง “ผู้อาวุโสหยินหลี่ต่างหากที่แตกต่างจากข่าวลือ วันนี้ในที่สุดข้าก็ได้รู้ว่าชายผู้โด่งดังและงดงามที่สุดในแผ่นดินจิ่วโจวตอนนั้นเป็นเช่นไร”
“ขอไม่พูดถึงเรื่องในอดีต แต่ละยุคล้วนมีอัจฉริยะ ผู้ประสบความสำเร็จจะอยู่ในความทรงจำของผู้คนไปตลอดกาล ทุกวันนี้บนแผ่นดินจิ่วโจว น้อยมากที่จะรู้จักข้า” ดวงตาของผู้อาวุโสหยินหลี่ตกลงเล็กน้อย ราวกับเขากำลังนึกถึงเรื่องราวที่เคยผ่านมาในช่วงเวลาเหล่านั้น
อวสานวีรบุรุษผู้โด่งดัง สำหรับผู้อาวุโสหยินหลี่ สิ่งที่เขาเจอในหลายปีที่ผ่านมามันช่างห่างไกล เขาไม่กล้าจะคิดถึงมัน และต่อให้คิดก็คิดไม่ออก
“ทุกคนล้วนแต่ทะเยอทะยานเพื่อไปสู่เป้าหมาย ผู้อาวุโสหยินหลี่ประเมินตนเองต่ำเกินไป” อยู่อย่างไร้ร่องรอยมามากกว่า 20 ปี พูดตามตรงมันเป็นระยะเวลามากเกินไปสำหรับผู้มีความสามารถ
“ข้าไม่ได้ประเมินตนเองต่ำเกินไป นี่คือโลกของชายหนุ่มเฉกเช่นพวกเจ้า” ผมสีขาวมีหนวดเครา มันเป็นเครื่องเตือนตนเองว่าเขาไม่ใช่เด็กอีกต่อไป และแม้ชีวิตนี้ของเขาจะไม่รู้สึกรู้สา แต่มันก็ธรรมดา ไม่ได้มีประโยชน์อะไร
ชีวิตนี้ของเขาถือเป็นชีวิตอันไร้ค่า ทิ้งพรสวรรค์ที่พระเจ้าให้มาโดยเปล่าประโยชน์
แต่ในวัยสี่สิบกว่าผมของเขากลับหงอกขาวไปแล้ว มันไม่ได้เหมือนกับสิ่งซึ่งผู้อาวุโสหยินหลี่กล่าวออกมา คิดไปคิดมามันก็ใช่ การมีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อยช่างเป็นสิ่งซึ่งน่าพอใจ แต่การที่เขาไปชอบองค์หญิงชาง ทำให้ทุกอย่างนั้นสูญสิ้นไป
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาไม่พบใครที่กล้าเล่นหมากล้อมกับเขาเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงนั่งเล่นกับตัวเองอย่างน่าเบื่อหน่าย
แม้จะเชื่อมั่นในทักษะหมากล้อมที่ตนเองมี แต่ผู้อาวุโสหยินหลี่มีทักษะที่ดีกว่า ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร เล่นหมากล้อมเก่งแค่ไหน เขาก็จะทำให้ดีที่สุดเพื่อเป็นเกียรติของทั้งสองฝ่ายที่ได้เล่นหมากล้อมด้วยกัน
ตามการคาดเดาของผู้อาวุโสหยินหลี่ เขาจะสามารถเอาชนะเสด็จอาเก้าได้ภายในร้อยหมากอย่างแน่นอน แต่เมื่อเดินมาถึงตัวที่หนึ่งร้อยยี่สิบหก เขายังไม่มีวี่แววว่าจะชนะ จากสัญชาตญาณของเขา นี่มันคือความพ่ายแพ้
“น่าสนใจ” ในชีวิตของผู้อาวุโสหยินหลี่ เขากลัวความโดดเดี่ยวและแสวงหาความพ่ายแพ้ เขาต้องการแพ้เรื่องการเล่นหมากล้อม เมื่อเห็นว่าเสด็จอาเก้าอาจเอาชนะเขาได้ เลือดของเขาเดือดพล่าน ดูเหมือนเขากำลังพบกับความรู้สึกที่เขามีในตอนนั้น
ผู้อาวุโสหยินหลี่ดูมีพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่เสด็จอาเก้าเองก็ดูผ่อนคลายมากขึ้นเช่นกัน หลังจากเดินมาถึงหมากที่ร้อยห้าสิบ เสด็จอาเก้าแทบจะเคลื่อนไหวโดยไม่ต้องคิด ดูจากท่าทางแล้วเหมือนกับว่าเขามีโอกาสชนะ และสิ่งที่เกิดขึ้นคือ......
ในตอนที่เสด็จอาเก้าวางหมากตัวสุดท้ายลงบนกระดาน เขาพูดออกมาอย่างมีชัยว่า “ผู้อาวุโสหยินหลี่ เจ้าแพ้แล้ว !”
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของผู้อาวุโสหยินหลี่ที่ได้ยินประโยคนี้
“ฮ่าฮ่าฮ่า ดี ดีมาก ข้าแพ้แล้ว แพ้อย่างมีความสุข หมากของเจ้าคาดเดาไม่ได้ มันแปลกมาก ดูหลากหลาย ข้าขอนับถือ แต่หากเจ้าเล่นกับข้าอีกหนึ่งเกม ข้าจะต้องชนะอย่างแน่นอน” ผู้อาวุโสหยินหลี่หัวเราะอย่างกล้าหาญราวกับว่าเขามีความสุขมากกว่าการชนะหมากล้อม
เสด็จอาเก้ายิ้มและไม่พูดอะไร ผู้อาวุโสหยินหลี่พูดถูก หากเล่นอีกหนึ่งเกมเขาจะแพ้ให้กับอีกฝ่ายอย่างแน่นอน แต่ทุกอย่างมันก็เท่านั้น เนื่องจากตอนนี้เขาเอาชนะผู้อาวุโสหยินหลี่ไปแล้ว......
วันนี้เขาเอาชนะผู้ชายคนนี้ มันก็เท่ากับว่าเส้นทางด้านหน้าของซีหลิงเทียนเหล่ยมีแต่ความตายเท่านั้น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...