นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 767

สรุปบท บทที่ 767 กลิ่นไม้กฤษณา ข้าไม่รังเกียจที่จะช่วยเจ้า: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอน บทที่ 767 กลิ่นไม้กฤษณา ข้าไม่รังเกียจที่จะช่วยเจ้า จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 767 กลิ่นไม้กฤษณา ข้าไม่รังเกียจที่จะช่วยเจ้า คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย อาช้าย เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ผู้อาวุโสหยินหลี่เป็นปรมาจารย์หมากล้อม หากต้องการชนะจำเป็นต้องเล่น “แปลก” ใช้ประตูทางข้าง หมากที่เสด็จอาเก้าใช้ในวันนี้คือหมากที่เฟิ่งชิงเฉินใช้ตอนที่เจอกับซูหว่านในตอนแรก

ครึ่งแรกของเกมดูธรรมดาแต่ส่อถึงความลึกลับ ไม่เพียงแค่ทำลายโครงหมากของฝ่ายตรงข้ามอย่างชาญฉลาด แต่ยังทำให้อีกฝ่ายคาดเดาถึงหมากตนเองไม่ได้ด้วย

วิธีที่แปลกประหลาดและดูยุ่งยาก มันแตกต่างจากหมากของผู้อาวุโสหยินหลี่ที่เล่นเป็นเชิงหมากล้อมอย่างสิ้นเชิง แต่มันมีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้เล่นหมากล้อมที่นับจำนวนการเดินหมาก แน่นอนว่าวิธีการนี้สามารถใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หากถูกคนเห็นแล้วมันจะไม่สามารถนำมาใช้ได้อีก

หมากของเสด็จอาเก้านั้นเป็นหมากใหม่ เหมือนกับสัตว์ประหลาดที่ปิดทางหนีของตนเองไว้ด้านหลัง สู้ด้วยการคำนวณจากที่หมากดำนั้นมากกว่าหมากขาว เท่านี้ก็สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้

ต้องรู้ก่อนว่าหมากล้อมมีทั้งหมด 361 ตัว สีขาว 180 สีดำ 181 เสด็จอาเก้าให้ผู้อาวุโสหยินหลี่เป็นฝ่ายเล่นก่อนและใช้สีดำ นั่นไม่ใช่เพราะว่าเสด็จอาเก้าให้เกียรติหรือเคารพอีกฝ่ายแต่อย่างใด เสด็จอาเก้าเขาไม่มีคุณธรรมเช่นนั้น

ในตอนช่วงท้ายของเกม แม้จะไม่ได้สัมผัสหรือรู้จักกันอย่างใกล้ชิด แต่จากสิ่งที่เสด็จอาเก้ามอบให้เขา ผู้อาวุโสหยินหลี่สามารถมองออกว่าเสด็จอาเก้านั้นเป็นคนแบบไหน

ความโอหัง ความจองหอง และความเย่อหยิ่งไม่ใช่ประเด็น สิ่งที่สำคัญคือเสด็จอาเก้ามีทักษะและพรสวรรค์ในการสนับสนุนความเย่อหยิ่งของเขา บุคคลเช่นนี้มีค่าควรแก่การฝากทรัพย์สินและชีวิตของเขาไว้

แน่นอน ไม่ว่าจะคุ้มค่าหรือไม่ก็ตาม เขาไม่มีทางเลือก เขาต้องเดิมพัน

ผู้อาวุโสหยินหลี่ไม่ปิดบังความชื่นชมในตัวของเขาที่มีต่อเสด็จอาเก้า หากต้องการให้เขาแสดงความสามารถของตนเองออกมา เขายินดีจะให้ความร่วมมือ ผู้อาวุโสหยินหลี่เลิกอ้อมค้อม เขาถามออกไปโดยตรง “เสด็จอาเก้า เจ้าอยากให้ข้าทำอะไร”

เสด็จอาเก้าคาดไว้ว่าความตรงไปตรงมาเช่นนี้จะสามารถสร้างสะพานได้ง่ายกว่า แต่ซีหลิงเทียนอวี่

เสด็จอาเก้าไม่ได้พูด เขานำนิ้วมือจุ่มลงไปในน้ำแล้วเขียนบนโต๊ะว่า “อัครมหาเสนาบดี”

“เจ้าต้องการให้ข้าจัดการโจ่วอันฟู่?” โจ่วอันฟู่ อัครมหาเสนาบดีแห่งซีหลิง เป็นชายที่องค์หญิงแห่งซีหลิงชื่นชม และเป็นคนที่ลดทอนอำนาจของผู้อาวุโสหยินหลี่

“ไม่ ข้าหวังว่าผู้อาวุโสจะมาแทนที่เขา” จัดการกับโจ่วอันฟู่ไม่จำเป็นต้องให้ผู้อาวุโสหยินหลี่ลงมือ ผู้ที่เอาแต่เล่าเรียนศึกษาตำรา แต่กลับสามารถขึ้นมาถึงตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีได้ จะต้องมีจุดที่ไม่สะอาดอยู่มากมาย

ตราบใดที่ฮองเฮาและซีหลิงเทียนอวี่เคลื่อนไหว แม้จักรพรรดิจะไม่ยินยอมที่จะเปลี่ยนอัครมหาเสนาบดีก็เป็นไปไม่ได้ อีกอย่างโจ่วอันฟู่เป็นอัครมหาเสนาบดีมานานถึงขนาดนี้ จักรพรรดิซีหลิงก็ไม่ค่อยพอใจกับเขาเท่าไหร่ เมื่อมีเหตุผลที่ดีให้กับจักรพรรดิสักหนึ่งข้อ แน่นอนว่าจักรพรรดิจะต้องยอมเปลี่ยนอัครมหาเสนาบดีคนใหม่อย่างแน่นอน

หัวใจของผู้อาวุโสหยินหลี่สั่นไหว ดวงตาที่สงบนิ่งของเขาก็มีประกายแวววาว

ไม่มีผู้ชายคนไหนสามารถปฏิเสธความยั่วยวนของอำนาจได้ แต่เมื่อคิดถึงสถานการณ์ปัจจุบันของเขาแล้ว อย่าว่าแต่เป็นอัครมหาเสนาบดีเลย แค่เป็นตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งที่มีอำนาจยังเป็นไปไม่ได้

ผู้อาวุโสหยินหลี่ระงับความลังเลในหัวใจของเขา พูดในเชิงปฏิเสธตนเองออกมา “ท่านอ๋องกำลังล้อเล่นอยู่ใช่ไหม หรือว่าท่านอ๋องไม่รู้ว่าจักรพรรดิไม่พอใจตระกูลหลินของข้ามากแค่ไหน จักรพรรดิจะยอมให้ข้าเข้าไปรับใช้ในพระราชวังได้อย่างไร”

เสด็จอาเก้ารู้ว่าผู้อาวุโสหยินหลี่ถูกล่อลวง จึงเกลี้ยกล่อมเขาด้วยน้ำเสียงที่สงบ “ตอนนั้นก็คือตอนนั้น ตอนนี้ก็คือตอนนี้ สถานการณ์ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว หลังจากถูกทอดทิ้งมานานหลายปี ตระกูลหลินยังรักษาตัวอยู่ได้อย่างปลอดภัย หากผู้อาวุโสหยินหลี่สามารถทำให้จักรพรรดิเห็นความจงรักภักดีของตระกูลหลิน และความช่วยเหลือที่มีต่อราชสำนัก การที่ตระกูลหลินจะผงาดขึ้นอีกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องยาก”

ทุกอย่างในโลกล้วนขึ้น ๆ ลง ๆ หัวใจของจักรพรรดินั้นเป็นสิ่งที่เอาแน่เอานอนไม่ได้มากที่สุด ยี่สิบปีที่ผ่านมาจักรพรรดิเพียงแค่ไม่สนใจตระกูลหลิน เขาไม่ได้มีอคติกับตระกูลหลินแต่อย่างใด แม้เรื่องสั่งให้แต่งงานกับน้องสาวตนเองจะเป็นความน่าอับอายของผู้อาวุโสหยินหลี่ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังเหลือทางออกให้กับตระกูลหลินเสมอ

“ไม่ยากงั้นหรือ? หากไม่ยากทำไมตระกูลหลินถึงได้ตกต่ำถึงขนาดนี้ ทำไมชายชราคนนี้ถึงหดหู่ใจ ท่านอ๋อง ด้วยอายุของข้าในทุกวันนี้ มันไม่ง่ายเลยที่จะได้เป็นอัครมหาเสนาบดี” ผู้อาวุโสหยินหลี่ไม่ได้มองโลกในแง่ดีเหมือนกับเสด็จอาเก้า สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นชีวิตของเขาไม่ต่างอะไรกับตายไปแล้ว เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเสด็จอาเก้าจะช่วยเหลือเขา

แน่นอน แม้ว่าจะล้มเหลว เขาก็ไม่ได้มีการสูญเสียแต่อย่างใด ศาลของซีหลิงมีซีหลิงเทียนอวี่เป็นผู้ควบคุม เขาไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรมากมาย

แค่อัครมหาเสนาบดีเพียงคนเดียว ต่อให้จะมีอำนาจมากแค่ไหน ทั้งหมดมันก็ล้วนมาจากจักรพรรดิ แค่จักรพรรดิพูดออกมาเพียงคำเดียว ชั่วพริบตาอำนาจทั้งหมดก็หายไปได้

“การที่ท่านอ๋องเห็นประโยชน์ของข้านั้นถือเป็นความโชคดีอย่างมาก ข้าอยู่ในความสับสนวุ่นวายมาครึ่งชีวิตแล้ว ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะตื่นขึ้นเสียที” ดวงตาของผู้อาวุโสหยินหลี่เต็มไปด้วยความสดใส จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาพุ่งขึ้นถึงขีดสุด

แม้บัณฑิตผู้มากความรู้จะดูสูงส่งเพียงใด แต่ก็ไม่มีอำนาจในการควบคุม และเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่จะสามารถทำการแก้แค้นด้วยตัวเองได้

ดูเหมือนผู้อาวุโสหยินหลี่จะค้นพบจิตวิญญาณและความกระหายเลือดในอดีต ทั้งหมดถูกนำมาด้วยชายหนุ่มซึ่งอยู่ตรงหน้า

เมื่อนึกถึงอนาคตของตนเองซึ่งถูกกำหนดโดยชายหนุ่มผู้นี้ ผู้อาวุโสหยินหลี่รู้สึกแปลกอย่างไม่สามารถบรรยายได้และรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยในใจของเขา แต่เมื่อเขาได้เห็นทักษะและกลยุทธ์ที่ไม่ธรรมดาของเสด็จอาเก้า สุดท้ายเขาก็ยอมรับมัน

ขุนนางที่ดีต้องรับใช้จักรพรรดิผู้ชาญฉลาด บางทีชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าของเขาก็คือจักรพรรดิผู้ชาญฉลาดผู้นั้น เมื่อคิดถึงตรงนี้ผู้อาวุโสหยินหลี่รู้สึกเคารพในตัวของเสด็จอาเก้ามากขึ้นโดยไม่รู้ตัว และเสด็จอาเก้าเองก็ยอมรับเหตุผล และไม่มีความคิดที่ผิดแต่อย่างใด

ในช่วงกลางดึก แม้แต่ความบันเทิงบนเรือนดอกไม้ก็ควรแก่เวลาจบลง เสด็จอาเก้านึกถึงเฟิ่งชิงเฉินซึ่งกำลังรอเขาอยู่ที่โรงเตี๊ยม เขาไม่ต้องการอยู่ที่นี่นานกว่านี้จึงหันไปกล่าวลาผู้อาวุโสหยินหลี่และเดินออกไป

เช่นเดียวกับตอนที่เขามา เสด็จอาเก้าเดินลงไปจากเรือนดอกไม้ตามลำพัง แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อลงมาด้านล่างแล้วก็ได้กลิ่นหอมอันแปลกประหลาด สีหน้าของเสด็จอาเก้าดูเยือกเย็น เตรียมพร้อมสำหรับการลงมือ แต่กลับได้ยินเสียงของชายชราผู้หนึ่งดังขึ้นมาจากความมืด “โปรดองค์ชายอย่าได้โกรธ ข้าน้อยไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด แค่เป็นคำสั่งของฝ่าบาท ข้าน้อยจำเป็นต้องทำ”

ชายชราหลังค่อมผมขาวเดินออกมาจากความมืด คุกเข่าลงต่อหน้าเสด็จอาเก้าเพื่อขออภัย......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ