นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 8

อันที่จริงแววตาที่พวกเขามองอีกฝ่ายนั้นเป็นแววตาของความเกลียดชัง

ใครถอยก่อนคนนั้นแพ้

ตงหลิงจื่อลั่ว รับไม่ได้ที่ตนนั้นแพ้ให้กับผู้หญิง

ส่วนเฟิ่งชิงเฉินนั้นแพ้ไม่ได้ หากว่านางแพ้สิ่งที่นางจะเสียไปคือชีวิตของตน

สองคนนั้นนิ่งงันอยู่อย่างนั้น ไม่มีใครยอมใคร.....

เฟิ่งชิงเฉินไม่รีบร้อน นางรู้ว่าสุดท้ายตนจะต้องชนะอย่างแน่ เพราะนางเดิมพันด้วยชีวิตของตน

เป็นไปตามคาด เขามิได้ปล่อยให้เฟิ่งชิงเฉินรอนาน เมื่อตงหลิงจื่อลั่วมั่นใจว่าเฟิ่งชิงเฉินจะไม่ยอมแล้ว เขาจึงกัดฟันยอมแทน

"ตกลง ข้ารับปากว่าในครึ่งปีนี้จะไม่มีใครสร้างปัญหาให้เจ้าเพราะเรื่องนี้ ส่วนปัญหาที่เจ้ามีอยู่แล้ว มันไม่เกี่ยวกับข้า" ชีวิตของเขา มีค่ายิ่งกว่าเฟิ่งชิงเฉิน

ก็แค่ครึ่งปีมิใช่หรือ? ตงหลิงจื่อลั่วอดทนได้

หลังจากครึ่งปีผ่านไป เขาจะขอมันกลับมาอย่างเต็ม

เฟิ่งชิงเฉิน เมื่อไหร่ที่ข้าตงหลิงจื่อลั่วยังอยู่ เจ้าก็อย่าได้คิดจะตั้งหลักในราชวงศ์ตงหลิงนี้

"ขอบพระคุณลั่วอ๋อง" เฟิ่งชิงเฉินกล่าวอย่างไม่จริงใจ และในขณะเดียวกันนางก้าวถอยหลังและมองตงหลิงจื่อลั่วอย่างใจเย็น

นางไม่สนใจว่าตงหลิงจื่อลั่วจะคิดอย่างไร นางขอเอาตัวรอดจากสถานการณ์ตรงหน้าเสียก่อน

ภายใต้การจ้องมองของตงหลิงจื่อลั่ว เฟิ่งชิงเฉินยื่นมือออกไปพร้อมยิ้ม และปรับปกคอเสื้อที่มีรอยยับของตงหลิงจื่อลั่วให้เรียบ

"ลั่วอ๋อง นี่เป็นครั้งแรกที่เราใกล้ชิดกันเช่นนี้ และคงเป็นครั้งสุดท้าย หากว่าพบกันใหม่อีกครั้ง ลั่วอ๋องและเฟิ่งชิงเฉินก็.........."

"ศัตรู!"

"เพี๊ยะ……"

เฟิ่งชิงเฉินพูดสองคำสุดท้ายไม่จบ นางก็ถูกตงหลิงจื่อลั่วตบหน้าจนล้มลงไป

เมื่อองครักษ์ที่อยู่ไม่ไกลเห็นสถานการณ์นี้ พวกเขาก็เร่งก้าวเข้ามาและชี้หอกไปที่เฟิ่งชิงเฉิน เพียงแค่ตงหลิงจื่อลั่วออกคำสั่ง เฟิ่งชิงเฉินก็จะตายอย่างอนาถอยู่ตรงนี้ทันที

เขาตบนางหนักมาก เฟิ่งชิงเฉินนอนอยู่กับพื้นครู่หนึ่งแล้วจึงได้สติ นางพ่นเลือดในปากลงบนพื้น และมีฟันที่หักออกมาอยู่ในกองเลือด...

เฟิ่งชิงเฉินไม่แม้แต่จะพ่นลมหายใจ นางค่อยๆ เงยศีรษะขึ้น ผมยาวของนางปิดใบหน้า และปกปิดความเฉียบแหลมและความโกรธในดวงตาของเฟิ่งชิงเฉินไปด้วย

เมื่อเผชิญหน้ากับหอกยาวที่เย็นยะเยือก เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้แสดงความกลัวแม้แต่น้อย แต่กลับยิ้มอย่างคลุมเครือ "ที่แท้สุภาพบุรุษเช่นลั่วอ๋อง ก็ลงมือกับผู้หญิงเหมือนกัน"

ขณะพูด นิ้วเรียวยาวค่อยๆ เปิดผมยาวที่ปิดบังใบหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าที่เปื้อนเลือด

แก้มซ้ายของนางเปื้อนเลือด แก้มขวาบวมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนหัวหมูที่เปียกโชกไปด้วยเลือด น่าเกลียดอย่างมาก

แต่เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินเป็นเช่นนี้ กลับไม่มีใครกล้าหัวเราะเยาะนาง ว่านางน่าเกลียด

เพราะดวงตาคู่นั้น...

เย็นชาจนน่ากลัว...

ตงหลิงจื่อลั่วไม่เคยเห็นดวงตาคู่นี้มาก่อน แววตานั้นเหมือนดั่งสัตว์ร้ายที่ได้เห็นทุกสิ่งในโลกและวใกล้ตาย กำลังมองดูศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าตัวเอง และพร้อมที่จะสู้ตาย

"ถอยออกไป" ตงหลิงจื่อลั่วโบกมือสั่งให้องครักษ์ถอยออกไป

เมื่อมองไปที่เฟิ่งชิงเฉิน ความหงุดหงิดในใจของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ

นี่เป็นเฟิ่งชิงเฉินคนที่ขี้ขลาดและไร้ความสามารถ เมื่อเจอเขาแล้วเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้จริงๆหรือ?

เขาเริ่มไม่แน่ใจ และมีความรู้สึกเสียดายผุดขึ้นมาในหัวของเขา

ดูเหมือนว่าการแต่งงานกับเฟิ่งชิงเฉินนั้นก็ไม่เลว

แต่เรื่องมันมาไกลถึงขนาดนี้แล้ว เขาไม่สามารถเสียดายได้แล้ว

ตงหลิงจื่อลั่วสูดหายใจเข้าลึกๆ ระงับอารมณ์ที่อธิบายไม่ได้นี้ไว้

"เฟิ่งชิงเฉิน ออกไป อย่าให้ข้าได้เห็นหน้าเจ้าอีก" หลังจากพูดจบ เขาก็หันหลังเดินไปยังห้องบรรทมของฮองเฮา

การจัดการที่เสด็จพ่อมีต่อเฟิ่งชิงเฉิน เขาได้ให้ขันทีคนสนิทไปแจ้งเสด็จแม่แล้ว คิดว่าเสด็จแม่คงไม่เข้ามายุ่งแล้ว

หลังจากที่ตงหลิงจื่อลั่วเดินจากไป เฟิ่งชิงเฉินก็ลุกขึ้นช้าๆ มองดูองครักษ์ที่กลัวนางราวกับกลัวหมาป่า นางจึงยิ้มอย่างเย็นชา

ตงหลิงจื่อลั่วไม่เป็นกระไรเลย แต่นางได้รับบาดเจ็บทั่วร่างกาย คนที่พวกเขาควรกลัวคือเขามิใช่ตนเอง........

อย่างไรก็ตาม ปล่อยเรื่องเหล่านี้ไปเถิด สามารถออกไปจากพระราชวังนี้ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น คือว่าดีอย่างมากแล้ว

ภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคน เฟิ่งชิงเฉินหันกลับไปอย่างเฉยเมย ผ้าสีแดงเปื้อนเลือดและติดอยู่ที่ร่างกายของนาง นางยืนอยู่บนหินอ่อนสีขาวซึ่งดูงดงามและสะดุดตายิ่งนัก แม้แต่ดอกไม้สีแดงที่เบ่งบานทั้งสองข้างทางก็มิอาจเทียบได้

นางกำนัลและขันทีองครักษ์มองดูเฟิ่งชิงเฉินในสภาพนี้ ไม่รู้เพราะกระไรแต่ไม่มีใครกล้าเยาะเย้ยนาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ