นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 9

จูอวี้รู้ว่าการทำเหล้าพิษหกในที่สาธารณะ ไม่ช้าก็เร็วฮองเฮาคงทราบเรื่องนี้

นางได้ทำสิ่งหนึ่งพลาดไปแล้ว ฉะนั้นเรื่องนี้จะต้องห้ามพลาด

เฟิ่งชิงเฉินต้องตาย!

ในฐานะนางกำนัลใกล้ตัวของฮองเฮา จูอวี้ทราบดีว่าฝีมือของฮองเฮาโหดเหี้ยมเพียงใด

มีเพียงแต่การแต่เฟิ่งชิงเฉินตายไปเท่านั้น ฮองเฮาจึงจะไว้ชีวิตนาง

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ก็มีเสียงหัวเราะเยาะเย้ยปรากฏขึ้นที่มุมปากของจูอวี้

ข้าจะตายมิได้ ในเมื่อไม่ช้าก็เร็วเฟิ่งชิงเฉินจะต้องตาย หากว่าเจ้าตายก็สามารถช่วยชีวิตข้าได้ ก็ทำมันเสีย

หากกษัตริย์ต้องการให้ขุนนางสิ้นชีวิต ขุนนางก็ต้องทำตาม

ฮองเฮาสั่งให้เจ้าตายยามนี้ ข้าจะต้องไม่ปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อ

หากว่าลงนรกไปก็อย่าโทษข้าแล้วกัน โทษฮองเฮาหรือโทษตัวเองที่เกิดเรื่องแบบนี้แล้วกัน

จูอวี้ก้มหน้าลงและหยิบผ้าขาวขึ้นมา จากนั้นเดินตรงไปหาเฟิ่งชิงเฉินอย่างสง่างาม...

เมื่อมองจูอวี้ที่กำลังเดินเข้ามาหาตนด้วยรอยยิ้มกระหายเลือด เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกหนาวชา นางกัดปากตัวเองไว้แน่น และริมฝีปากที่อมชมพูดของนางถูกกัดจนเลือดออก

เจ็บหรือไม่?

เจ็บ!

แต่นางเจ็บจนชินชาไปแล้ว!

นางปวดหัวอย่างมาก ปวดแก้วและรู้สึกปวดไปทั้งตัว ปวดไปที่หัวใจ ปวดเสียจนอยากจะร้องไห้ออกมา

แต่ความเจ็บปวดเหล่านี้ เมื่ออยู่ในช่วงที่ชีวิตมีอันตราย มันไม่มีความหมายกระไรเลย

คราวนี้เฟิ่งชิงเฉินกลัวและเกลียดชังจริงๆ!

ในยุคแห่งชีวิตคนด้อยค่าเยี่ยงขี้ดินนี้ หากว่าฮองเฮาผู้สูงส่งต้องการให้นางตาย นางก็คงไม่สามารถมีชีวิตรอดได้

ในฐานะที่เป็นแพทย์ นางรู้สึกชินชากับความตาย แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ กลับยิ่งทำให้นางอยากมีชีวิตอยู่ต่อ

ทันทีที่เข้ามาในวัง นางก็เข้าใจว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะเอาชีวิตรอดไปได้ ฉะนั้นนางจึงเสี่ยงที่จะลงมือกับลั่วอ๋อง เพื่อหวังว่าจะสามารถปกป้องตัวเองได้

โชคดีที่นางประสบความสำเร็จในสิ่งที่นางต้องการ ไม่คาดคิดว่าคนในพระราชวังนี้จะไม่มีความน่าเชื่อถือเลย ทันทีที่หันหลังไปก็สั่งให้นางตาย

เหล้าพิษและผ้าขาว ทั้งสองอย่างนี้ไม่เกี่ยวข้องกับลั่วอ๋องเลยรึ?

ต่อให้ตายเฟิ่งชิงเฉินก็ไม่เชื่อ

คำพูดของสุภาพบุรุษนั้นมีค่างั้นหรือ น่าตลกสิ้นดี บนโลกนี้จะมีความบังเอิญมากมายเช่นนี้ได้อย่างไร ทันทีที่ตงหลิงจื่อลั่วเข้าตำหนักไป เหล้าพิษและผ้าขาวของฮองเฮาก็ถูกนำออกมา

คราวนี้เฟิ่งชิงเฉินเข้าใจตงหลิงจื่อลั่วผิดไปจริงๆ ตงหลิงจื่อลั่วไม่ทราบว่าฮองเฮามีแผนนี้ เพียงแต่ว่า เขาเห็นภาพนี้ในตำหนัก แต่ก็มิได้ห้ามเอาไว้

คงจะดีถ้าหากเฟิ่งชิงเฉินตายไป

เมื่อเฟิ่งชิงเฉินยังมีชีวิตอยู่ ก็เป็นการเตือนว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกผู้หญิงที่อ่อนแอข่มขู่

สำหรับผู้ชายแล้ว สำหรับผู้ชายที่มีศักดิ์ศรีอันสูงส่งแล้ว นี่เป็นสิ่งที่ทนรับมิได้

"เฟิ่งชิงเฉิน จฮองเฮาให้รางวัลแก่เจ้า"

จูอวี้มอบผ้าขาวในมือให้เฟิ่งชิงเฉิน และด้วยการเคลื่อนไหวนี้ ปิ่นปักผมกระทบเข้ามาหา ทำให้เกิดเสียงที่ดังไยเพราะออกมา ซึ่งช่วยบรรเทาบรรยากาศที่หนักหน่วงนี้บรรเทาลงเล็กน้อย และทำให้เฟิ่งชิงเฉินมีสติมากขึ้นเช่นกัน

ดูเหมือนว่า เฟิ่งชิงเฉินจะไม่เห็นมัน นางก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว หายใจเข้าลึก ๆ และปิดบังอารมณ์ทั้งหมดในดวงตาของนาง

ด้วยรอยยิ้มที่ดูดี เฟิ่งชิงเฉินเงยหน้าขึ้นและถามอย่างเฉยเมย "ฮองเฮาได้มีคำสั่งกระไรหรือไม่?"

นางต้องการเดิมพัน และนางคาดว่าฮองเฮาคงไม่พูดประโยคที่ว่าข้าจะให้เจ้าตายเหล่านี้หรอก

ตราบใดที่ฮองเฮามิได้กล่าวออกมาชัดเจน นางก็สามารถทำเหมือนว่าไม่เข้าใจ และรอให้ออกจากพระราชวังแล้วค่อยว่ากัน เพราะถึงอย่างไรนางได้ทำให้ตงหลิงจื่อลั่วและฮองเฮาโกรธเคืองไปแล้ว หากเป็นเช่นนี้อีกก็คงไม่เป็นกระไร

หากว่ากษัตริย์ต้องการให้ขุนนางตาย ขุนนางก็จะต้องตาย!

อืม ตลกดีนะ

ในโลกนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่โง่เขลาและจงรักภักดีเช่นนี้ ตายเพราะความเป็นพระมหากษัตริย์และขุนนาง คนอื่นนางไม่ทราบว่าจะทำหรือไม่ แต่นางเฟิ่งชิงเฉินไม่ทำอย่างแน่นอน

กษัตริย์คืออะไร แล้วขุนนางคืออะไร?

เดิมเจ้าและข้าน้อยต่างก็ไม่เกี่ยวข้องกัน แผ่นดินตงหลิงนี้ก็แย่งชิงมาจากผู้อื่น สร้างเมืองมาไม่ถึงร้อยปี จักรพรรดิเช่นนี้มีสิทธิ์กระไรมาสั่งให้นางตายสองรอบภายในหนึ่งวัน

มุมปากของจูอวี้ยิ้มอย่างเย็นชา หากว่าเหล้าพิษยังอยู่ ฮองเฮาก็ไม่มีคำสั่งกระไร แต่ตอนนี้เหล้าพิษไม่มีแล้ว เรื่องบางเรื่องจึงต้องกล่าวออกมาอย่างชัดเจน

หลังจากเตรียมการแล้ว จูอวี้กล่าวด้วยความหยิ่งยโสว่า " ลั่วอ๋องกล่าวว่าคุณหนูเฟิ่งไม่รักนวลสงวนตัว ฮองเฮาขอให้คุณหนูเฟิ่งอ่านหนังสือเรื่อง "เตือนหญิง" ให้มาก และต่อไปต้องปฏิบัติตาม "เตือนหญิง"และยึดเป็นบรรทัดฐาน"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ