นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 814

คิดเรื่องนี้อยู่ในใจ แต่เมื่อครู่นางได้ทำความผิดอันยิ่งใหญ่ เฟิ่งชิงเฉินไม่กล้าเคลื่อนไหวมากเกินไป และก็ต้องระวังตัวไม่ทำให้เสด็จอาเก้าคับข้องใจ

รีบผ่านเรื่องนี้ไปให้เร็วที่สุด เฟิ่งชิงเฉินดึงหัวข้อการสนทนากลับมาเป็นหัวข้อเดิม ถามออกมาอย่างเป็นธรรมชาติว่า “เสด็จอาเก้า เจ้ารู้ไหมว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับจวนซุ่นหนิงโหวกันแน่? จากคำให้การจากทนายของจวนซุ่นหนิงโหวในวันนี้ ข้าสามารถมั่นใจได้ว่ามันไม่ใช่การสมรู้ร่วมคิดเพื่อกระทำความชั่ว แต่มันน่าจะเป็นความบังเอิญ ไม่อย่างนั้นจวนซุ่นหนิงโหวคงไม่มีทางทิ้งช่องโหว่ที่ใหญ่ขนาดนี้ไว้”

แน่นอนว่าท่าทางและคำพูดของนางราวกับตอนนี้นางเลิกสงสัยในตัวของเสด็จอาเก้าไปแล้ว เสด็จอาเก้าก็ไม่ได้คิดจะโกรธเคืองอะไรเฟิ่งชิงเฉิน ดังนั้นทั้งสองคนจึงทำเหมือนว่าเมื่อสักครู่ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

เสด็จอาเก้าส่ายหน้า “ไม่รู้ จวนซุ่นหนิงโหวไม่ใช่ตระกูลที่โดดเด่น พวกเขาไม่ได้มีอำนาจมากมายอะไรขนาดนั้น ต่อให้ข้าให้ความสนใจ จับตาดูพวกเขา ก็ไม่มีทางที่จะไปจับตาดูถึงตำหนักด้านใน ข้าได้ส่งคนไปสืบข่าวแล้ว แต่คาดว่าคงไม่ได้ข้อมูลอะไรมากมาย หลังจากเกิดเรื่องขึ้น จวนซุ่นหนิงโหวได้จัดการคนรับใช้ยกชุด คนที่รู้เรื่องราวเกรงว่าคงมีแค่ซุนซือสิงและคนของจวนซุ่นหนิงโหวเพียงไม่กี่คน”

หรือพูดอีกอย่างก็คือ จวนซุ่นหนิงโหวจัดการเก็บกวาดทุกอย่างที่สามารถทำได้ไปจนหมดแล้ว หากเฟิ่งชิงเฉินต้องการพิสูจน์หาความจริง แบบนั้นก็คงยาก

“ลงมือได้โหดเหี้ยมมาก จวนซุ่นหนิงโหวจะต้องมีความลับที่พวกเราไม่รู้ และความลับนั้นจะต้องส่งผลถึงรากฐานของจวนซุ่นหนิงโหว ไม่อย่างนั้นจวนซุ่นหนิงโหวคงไม่เคลื่อนใหญ่โตเช่นนี้” เฟิ่งชิงเฉินเชื่อว่าความโหดเหี้ยมของนางเทียบไม่ได้กับจวนซุ่นหนิงโหว

“สังหารคนไปมากมายขนาดนี้ เกรงว่าคงเป็นเรื่องอื้อฉาว บางทีข่าวที่เจ้าแพร่ออกไปโดยกระดาษชิ้นเล็กชิ้นน้อยในวันนี้ มันอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้” เสด็จอาเก้านึกถึงกลอุบายของเฟิ่งชิงเฉินในตอนเช้า เขาส่ายหน้าอีกครั้ง

ไม่ต้องพูดอะไรมาก เฟิ่งชิงเฉินมีกลอุบายอยู่มากมาย และแต่ละกลอุบายต่างเอาออกมาใช้ได้ถูกเวลา ทำให้เกิดผลประโยชน์ หากไม่ใช่เพราะมีข่าวดังกล่าวแพร่ออกไปทั่วเมื่อ ต่อให้เฟิ่งชิงเฉินได้รับการสนับสนุนจากจักรพรรดิเพื่อจัดการกับองครักษ์เสื้อโลหิต เขาเองก็ได้ประโยชน์จากมัน และแทนที่จะละทิ้งความสัมพันธ์ เขาจึงยอมที่จะเห็นด้วยกับการกระทำของเฟิ่งชิงเฉิน

“คงไม่จริงใช่ไหม คุณหนูของจวนซุ่นหนิงโหวเล่นชู้? ไม่ใช่ มันอาจไม่ใช่เล่นชู้ หากเป็นการเล่นชู้จวนซุ่นหนิงโหวคงไม่มีทางลงมือขั้นร้ายแรงขนาดนี้ บางทีอาจจะ......” ร่วมประเวณีในสายเลือดเดียวกัน

ประโยคสุดท้ายเฟิ่งชิงเฉินไม่ได้พูดออกมา นางสูดลมหายใจเข้าและมองไปยังเสด็จอาเก้าราวกับต้องการคำยืนยัน

เห็นท่าทางตกใจของเฟิ่งชิงเฉิน ไม่ว่าเสด็จอาเก้าจะมองยังไงมันก็ดูน่ารัก เขาดึงเฟิ่งชิงเฉินเข้ามากอดในอ้อมแขน ก้มหน้าลงใช้หน้าผากสัมผัสกับหน้าผากของเฟิ่งชิงเฉิน จากนั้นก็ถูไปมา

“จะใช่หรือไม่ใช่มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เป็นแค่เรื่องวุ่นวายของจวนซุ่นหนิงโหว ตอนนี้มีข้าอยู่ ต่อให้ซุนซือสิงสังหารคุณหนูลิ่วจริงก็ไม่มีทางเป็นอะไรเด็ดขาด”

มีพวกเขาอยู่ในเมืองจักรพรรดิ จวนซุ่นหนิงโหวไม่กล้าทำอะไรวู่วาม

“ข้าก็แค่ตกใจเท่านั้น หากความจริงเป็นเหมือนกับที่ข้าคิด การตายของคุณหนูลิ่วผู้นั้นอาจเป็นแผนการที่สร้างขึ้นมา” เฟิ่งชิงเฉินมั่นใจขึ้นเรื่อย ๆ ว่า ซุนซือสิงจะต้องเข้าไปรับรู้เรื่องอื้อฉาวในจวนซุ่นหนิงโหว ไม่อย่างนั้นจวนซุ่นหนิงโหวคงไม่มีทางลงมือกับซุนซือสิงอย่างโหดเหี้ยม จับเขาให้กับองครักษ์เสื้อโลหิต มีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่นางยังไม่เข้าใจ

“แล้วทำไมจวนซุ่นหนิงโหวถึงไม่สังหารซุนซือสิงไปเลย?” คนตายเท่านั้นที่จะสามารถปกปิดความลับได้ ไม่ใช่หรือไง?

“เรื่องนี้ข้าไม่รู้ บางทีอาจเป็นเพราะไม่มีโอกาส เนื่องจากสาวใช้ของเจ้าเองก็อยู่ที่จวนซุ่นหนิงโหว อีกอย่างการถูกส่งไปยังองครักษ์เสื้อโลหิต ซุนซือสิงไม่มีทางรอด เจ้าช่วยซุนซือสิงออกมาได้ ควรจะขอบคุณสำหรับการปฏิบัติขององครักษ์เสื้อโลหิตที่มีต่อซุนซือสิง ซุนซือสิงไม่ได้มีอาการบาดเจ็บสาหัสจากการลงโทษที่รุนแรง”

หากไม่มีคนคอยแอบดูแลเขาอย่างลับ ๆ ด้วยรูปลักษณ์ของซุนซือสิง แม้จะไม่ถูกลงโทษจนตาย แต่ก็อาจจะถูกเล่นงานโดยนักโทษคนอื่น สถานที่เช่นองครักษ์เสื้อโลหิต ของไม่เคยขาด ในสถานการณ์ที่ไม่มีผู้หญิง ชายที่อ่อนแออย่างซุนซือสิง มันสามารถสนองความต้องการของคนเหล่านั้นได้

เนื่องจากในเรือนจำเองก็มีนักโทษหลายคนที่ชอบผู้ชายด้วยกัน การที่ซุนซือสิงได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยถือเป็นพรที่ได้รับจากองครักษ์เสื้อโลหิตในความโชคร้าย แม้ร่างกายของซุนซือสิงจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ในความเป็นจริงนี่ไม่ใช่ฝีมือของจวนซุ่นหนิงโหว น่าเสียใจเหลือเกินที่องครักษ์เสื้อโลหิตต้องมาถูกใส่ร้ายเช่นนี้

“ใช่ บาดแผลบนร่างกายของซือสิงไม่เหมือนกับผู้ที่ถูกลงโทษอย่างหนัก ดูเหมือนข้าจะเข้าใจองครักษ์เสื้อโลหิตผิด หากมีเวลา ข้าจะต้องไปขอบคุณชุยห้าวถิงและจิ่นหลิง แน่นอนว่าข้าไม่มีทางลืมซีหลิงเทียนเหล่ย

จากนั้นก็ลองไปนั่งคุยกับลู่เส้าหลินดู หากลู่เส้าหลินรู้ว่าจวนซุ่นหนิงโหวจงใจโยนความผิดให้พวกเขา เขาจะต้องไปหาเรื่องกับจวนซุ่นหนิงโหวเป็นแน่” ความคิดของเฟิ่งชิงเฉินช่างชั่วร้าย นางทำให้องครักษ์เสื้อโลหิตได้รับความสูญเสียอย่างหนัก ไม่รู้ว่าเมื่อพวกเขาเห็นนางแล้ว พวกเขาจะเข้ามาสังหารนางเลยหรือไม่

แน่นอนว่าจิ่นหลิงและชุยห้าวถิงไม่มีทางทำร้ายนาง แต่ซีหลิงเทียนเหล่ยกับลู่เส้าหลินนั้นยังไม่สามารถรับประกันได้ ทั้งสองได้รับความเสียหายอย่างหนัก ไม่แน่ว่าลู่เส้าหลินอาจมีอันตรายถึงชีวิต

เห็นเฟิ่งชิงเฉินกล่าวถึงบุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง พูดถึงขั้นว่าจะนำของขวัญอะไรไปเพื่อกล่าวขอบคุณหวังจิ่นหลิงและชุยห้าวถิง เสด็จอาเก้ากัดฟันรอ รออยู่นาน แต่เฟิ่งชิงเฉินก็ยังไม่สนใจเขา

เสด็จอาเก้าหดหู่ใจ พูดออกมาอย่างไม่มีความสุข “แล้วข้าเล่า?”

เขาเองก็ให้ความช่วยเหลือไม่ใช่หรือไง ซุนซือสิงได้รับรับบาดเจ็บที่สมองและระบบภายในอย่างรุนแรง สิ่งเหล่านี้เป็นฝีมือของจวนซุ่นหนิงโหว องครักษ์เสื้อโลหิตช่วยดูแลซุนซือสิงเป็นอย่างดี เขาเองก็ให้ความช่วยเหลืออันยิ่งใหญ่ เนื่องจากเขาเข้าใจการเคลื่อนไหวของจักรพรรดิชัดเจนกว่าเฟิ่งชิงเฉิน

“เจ้า? เจ้าเป็นคนของข้า ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ” นางจงใจเว้นชื่อของเสด็จอาเก้าไว้ ในยามอารมณ์ร้อน นางก็มักจะแกล้งเสด็จอาเก้า และในยามอารมณ์ดี นางก็ชอบแกล้งเสด็จอาเก้าเช่นกัน

มีปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีอยู่ ซุนซือสิงจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต และสามารถทำให้ซุนซือสิงเติบโตขึ้นได้ มีจักรพรรดิคอยให้การค้ำจุน นางก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการแก้แค้นขององครักษ์เสื้อโลหิตและจวนซุ่นหนิงโหว

ความยากลำบากทั้งหมดได้รับการแก้ไขหลังจากได้พบกับเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินจะไม่มีความสุขได้อย่างไร ยิ่งมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า แววตาของนางก็ดูมีรอยยิ้มมากขึ้น

มุมปากของเสด็จอาเก้าเผยให้เห็นรอยยิ้มเล็กน้อย คำพูดที่ว่า “เจ้าเป็นคนของข้า” ทำให้เขารู้สึกดีเป็นอย่างมาก แต่......

“คนของเจ้าก็จำเป็นต้องขอบคุณ และการขอบคุณนี้มันต้องมากกว่าคนอื่น” เสด็จอาเก้าพูดออกมาอย่างไร้ยางอาย

“ได้ งั้นเจ้าก็พูดมาว่าจะให้ข้าขอบคุณอย่างไร” ปัญหาได้รับการแก้ไขแล้ว เฟิ่งชิงเฉินเป็นคนพูดง่าย นอกจากนี้การแกล้งเสด็จอาเก้าก็ต้องมีขอบเขต

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ