นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 815

“เอ๋? หรือว่าข้าพูดอะไรผิดไป? หรือชิงเฉินชอบทำเรื่องพวกนี้ในห้องหนังสือ? ชิงเฉิน หากเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้ายินดีฝืนใจตนเองทำกับเจ้าในห้องหนังสือ ทำทุกอย่างเพื่อสนองความต้องการของเจ้า”

เสด็จอาเก้ากัดไปตรงใบหูของเฟิ่งชิงเฉิน มือของเขาเลื่อนขึ้นเลื่อนลง ทำให้ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินสั่นไหวครั้งแล้วครั้งเล่า ในตอนที่เตรียมจะปลดปล่อยอิสระ เสียงของพ่อบ้านก็ดังขึ้นมาจากด้านนอก “ท่านอ๋อง ตอนนี้ก็สายมากแล้ว ถึงเวลาอาหารแล้วขอครับ”

แม้จะยืนอยู่ในจุดที่เสด็จอาเก้ามองไม่เห็น แต่พ่อบ้านก็ยังคงอยู่ด้วยในท่าทางสุภาพ โค้งคำนับด้วยรอยยิ้มแห่งความนอบน้อม ยืนอย่างสงบอยู่นอกประตู เขาแอบชื่นชมตัวเองในใจว่าเป็นพ่อบ้านผู้มีมโนธรรม เห็นเจ้านายของตนเองโกรธ จึงเดินมาเชิญเจ้านายทั้งสองไปทานอาหารเพื่อบรรเทาความขัดแย้ง

แต่คิดไม่ถึงว่า......

“ออกไป!” เสียงของเสด็จอาเก้าระเบิดออกมาจากด้านใน ก็เห็นกันอยู่ว่าทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี แต่ดันถูกขัดจังหวะกะทันหัน ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเสด็จอาเก้าจะโกรธแค่ไหน

เอ่อ......

พ่อบ้านยืนตะลึงอยู่หน้าประตู เวลานั้นเขารู้สึกว่ามีฝูงกาบินวนอยู่ด้านบนศีรษะ อยากจะจิกหัวเขาให้ตาย พ่อบ้านรู้ว่าตนเองทำลายความสุขของเจ้านาย เขาจึงรีบเดินออกไป ก่อนออกไปเขาก็ไม่ลืมกวาดสายตามองเหล่าสายลับที่ซ่อนอยู่ด้วยความเกลียดชังที่ไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับเขา ทำให้สายลับเหล่านั้นหันหน้าหนีไปทางอื่น

เฮ้อ......เฟิ่งชิงเฉินตกตะลึงพร้อมหัวเราะออกมา ฉวยโอกาสตอนที่เสด็จอาเก้าโกรธกระโดดลงมาจากบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว หนีออกมาจากเอื้อมมือของเสด็จอาเก้า

แม้เนื้อจะกลับมาถึงมืออีกครั้ง แต่บรรยากาศมันถูกทำลายไปแล้ว ต่อให้เอากลับมาก็ไม่สามารถกินมันเข้าไปได้ ต่อให้กินเข้าไปมันก็รสชาติไม่อร่อย

เสด็จอาเก้าสาปแช่งพ่อบ้านในใจเป็นพันครั้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตึงเครียด ก้าวมาด้านหน้าและดึงเฟิ่งชิงเฉินซึ่งอยู่ไม่ไกลกลับเข้ามา “มานี่”

“ข้าหิวแล้ว” เฟิ่งชิงเฉินวางมือทั้งสองข้างไว้บนหน้าอกของนาง ใบหน้าเต็มไปด้วยความระมัดระวัง แววตาอันสดใสของนางจ้องมองไปตรงโต๊ะด้านหลังของเสด็จอาเก้า นี่มันโต๊ะหนังสืออย่างนั้นหรือ นางเกรงว่าจะไม่ใช่

กลัวเสด็จอาเก้าไม่เชื่อ เฟิ่งชิงเฉินกล่าวออกมาอีกว่า “ข้าไม่ได้ทานกินข้าวมาทั้งวันแล้ว ช่างหิวเหลือเกิน”

“ปัง......” เสด็จอาเก้าตบหน้าผากของเฟิ่งชิงเฉิน “เจ้ากำลังคิดอะไรของเจ้า ข้าแค่จะช่วยเจ้าจัดเสื้อผ้าเท่านั้น เจ้าจะร้อนรนไปทำไม เจ้าทนหิวแค่วันเดียว ข้าหิวโหยมากว่าสามเดือน หากความหิวของเจ้าเป็นของจริง ความหิวของข้าก็คงสามารถกินเจ้าเข้าไปได้ทั้งตัวแล้ว”

นี่คือการหยอกล้อ มันคือการหยอกล้อที่สร้างขึ้น แต่มันกลับแฝงไปด้วยความหลงใหลและรสชาติของความรู้สึก แต่......

ใบหน้าซึ่งเที่ยงตรงของเสด็จอาเก้า แสดงออกถึงความไม่ละเว้น ทำให้ผู้คนไม่กล้าตุกติก

เลวร้ายที่สุด!

เฟิ่งชิงเฉินทุบหน้าอกของเสด็จอาเก้า แต่เสด็จอาเก้าไม่มีการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด ส่วนทางด้านของเฟิ่งชิงเฉินกลับเป็นฝ่ายเจ็บมือแทน

ไม่ยุติธรรม ไม่ยุติธรรม เห็นได้ชัดว่านางเป็นหมอ เป็นหมอที่เข้าใจร่างกายมนุษย์ แต่ทำไมทุกครั้งที่นางถูกลวนลามหรือหยอกล้อ ใบหน้าของนางกลับเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยอารมณ์

เป็นเพราะเสด็จอาเก้าทำเกินไปหรือนางหัวโบราณ? เฟิ่งชิงเฉินกัดฟัน รอบนี้นางต้องชนะ ไม่อย่างนั้นคงแย่แน่ หลังจากจัดระเบียบร่างกายเป็นอันเรียบร้อย เฟิ่งชิงเฉินใช้แรงผลักเสด็จอาเก้าออกไป เดินไปหน้าประตู นางต้องการอยู่ห่างจากหมาป่าตัวนั้นให้มากที่สุด

“มานี่” เสด็จอาเก้าโบกมือเรียกเฟิ่งชิงเฉิน ตอนนี้เขายังไม่สะดวกจะเคลื่อนไหว

“ไม่เอา” เฟิ่งชิงเฉินจัดผมที่กระเซอะกระเซิง หากนางเข้าไปไม่เท่ากับว่าเป็นการยื่นเหยื่อให้หมาป่าอย่างนั้นหรือ

“เด็กดื้อต้องถูกลงโทษ” เสด็จอาเก้ากล่าวด้วยน้ำเสียงข่มขู่ แต่ไม่ได้ก้าวไปด้านหน้าแต่อย่างใด

“กลัวจังเลย” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง เปิดประตูห้องหนังสือทันที เตรียมพร้อมเดินจากไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ