อ่านสรุป บทที่ 835 ยืมแรง ผู้หญิงที่มีมลทิน จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
บทที่ บทที่ 835 ยืมแรง ผู้หญิงที่มีมลทิน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อาช้าย อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ข่าวว่ารถม้าของหวังจิ่นหลิงพลิกคว่ำในย่านใจกลางเมืองแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว บางคนดีใจที่หวังจิ่นหลิงโชคดีที่ไม่ได้นั่งรถม้าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และบางคนก็แอบเสียใจอยู่ลับ ๆ โอกาสอันดีเช่นนี้ ทำไมถึงผิดพลาดได้ พวกเขาคำนวณมาเป็นอย่างดี หากหวังจิ่นหลิงได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ พวกเขาก็สามารถกักขังหวังจิ่นหลิงได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ......
หากล้มเหลวในความสำเร็จ ปัญหาก็จะเกิดขึ้นทันที......
หวังจิ่นหลิงกลับมายังตระกูลหวัง ส่วนจะตัดสินใจจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร คนนอกไม่จำเป็นต้องรู้ เนื่องจากนี่คือเรื่องของตระกูลหวัง ต่อให้หวังจิ่นหลิงลงมือ มันก็จะไม่เอะอะ ไม่ทำให้ตระกูลหวังต้องขายหน้า
เฟิ่งชิงเฉินมองไปที่เสด็จอาเก้า เห็นใบหน้าอันเยือกเย็นของเสด็จอาเก้า นางรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่พูดออกไปเช่นนั้น เรื่องซึ่งผ่านไปกับเสด็จอาเก้า นางไม่เก็บเอามาคิดมาก เวลานั้นผู้คนที่มองเห็นนางเป็นแค่หนอนแมลงมีอยู่มากมาย เสด็จอาเก้าไม่ได้ทำอะไรเกินกว่าเหตุ แค่มองนางจากเบื้องบนโดยไม่เห็นนางอยู่ในสายตาเท่านั้น
แต่นางก็เป็นแค่คนธรรมดา เสด็จอาเก้าไม่เห็นนางอยู่ในสายตา เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ อีกอย่างในเวลานั้น ผู้ซึ่งทิ้งความกลัดกลุ้มไว้ในใจส่วนลึกของนางไม่ใช่หวังจิ่นหลิง แต่เป็นตงหลิงจิ่ว
เห็นเสด็จอาเก้าเม้มริมฝีปาก เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าเรื่องบางเรื่องหากอธิบายออกไปไม่ชัดเจนก็อาจทำให้เป็นความสับสนระหว่างทั้งสองฝ่าย ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งนางจึงกล่าวออกไปว่า “ในเวลานั้นข้าไร้ซึ่งกำลัง หมดหนทาง สับสน ไม่สบายใจ ในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น เวลาแบบนั้นไม่ว่าใครก็ตามที่เข้ามาทำดีกับข้า มันจะตราตรึงอยู่ในหัวใจ ไม่ว่าคนผู้นั้นจะช่วยเหลือแค่เล็กน้อยแค่ไหน แต่ข้าก็ต้องคืนให้เขากลับไปเป็นสิบเท่า
ซาลาเปาหนึ่งลูก เจ้ามอบให้คนที่กำลังจะตาย คนผู้นั้นจะรู้สึกขอบคุณเจ้าราวกับผู้ช่วยชีวิตของเขา จดจำเจ้าไว้ในใจทั้งชีวิต แต่หากเจ้านำมันไปให้ผู้ที่มีอันจะกินอยู่แล้ว คนผู้นั้นก็แค่มองเห็นความดีของเจ้า แต่ไม่ได้สนใจอะไร ในเวลานั้นข้าคือคนที่กำลังหิวตาย แม้เพียงเล็กน้อยแต่มันก็ทำให้ข้าเห็นหนทางแห่งการมีชีวิตรอด
ข้าชอบเจ้า ชอบโดยไม่สนใจความเยือกเย็นหรือว่าไม่แยแส ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับที่ข้าได้กล่าวมา เจ้าเข้ามาในเวลาที่ข้าเป็นทุกข์ มอบเสื้อผ้าปกปิดร่างกายให้แก่ข้า ปกปิดความโสมม ปกคลุมความหนาวเหน็บ ทำให้หัวใจที่เย็นชาและสิ้นหวังของข้าอบอุ่นขึ้น วินาทีนั้นมันทำให้ข้าหวั่นไหว” แม้หลังจากนั้นไม่นานจะรู้ว่าเจ้ามอบเสื้อตัวนั้นให้ข้าเพราะการให้ทาน แต่ข้าก็ยังจดจำมันไว้ในหัวใจ ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว เสื้อตัวนั้นสำหรับข้าแล้วมันก็เหมือนซาลาเปาที่ช่วยชีวิต
ประโยคหลังเฟิ่งชิงเฉินไม่ได้พูดออกไป แต่เสด็จอาเก้าเข้าใจดี เขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา เมื่อมองไปที่ดวงตาสีเข้มของเฟิ่งชิงเฉินพร้อมกล่าวว่า “หากให้ย้อนกลับไปอีกครั้ง ข้าก็ยังคงทำเช่นนั้น และยังคงมีทัศนคติเช่นเดิม”
การมอบเสื้อให้เฟิ่งชิงเฉินถือเป็นขีดจำกัดสูงสุดของเขาแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเห็นคนธรรมดาอย่างเฟิ่งชิงเฉินอยู่ในหัวใจ ในเวลานั้นเฟิ่งชิงเฉินไม่ได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ นางไม่สามารถเปลี่ยนชะตากรรมที่นางกำลังเผชิญในตอนนั้นได้
“ข้าเข้าใจ ดังนั้น เห็นได้ชัดว่าเจ้าเห็นข้าเป็นเพียงตัวตลก แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ยังรู้สึกหวั่นไหว” แค่คนผ่านทาง อย่าว่าแต่เสด็จอาเก้าเลย ต่อให้เป็นเฟิ่งชิงเฉินเอง นางก็อาจจะไม่ยื่นมือเข้าช่วย
เพราะโดยธรรมชาติแล้วพวกเขาเป็นคนเยือกเย็น ใบหน้าใจดีไม่เหมาะกับเขา เสื้อผ้าหนึ่งชุดสำหรับพวกเขาแล้วถือว่าเกินพอ คนผู้น่าสงสารในโลกนี้มีมากมายราวเม็ดทราย ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ช่วยเหลือได้เพียงไม่กี่คน
“ข้าควรจะขอบคุณเสื้อผ้าชุดนั้นดีหรือไม่ หากไม่มีเสื้อผ้าชุดนั้น......” หากไม่มีเสื้อผ้าชุดนั้น ความเป็นไปได้ของเขากับเฟิ่งชิงเฉินก็อาจจะมี แต่ทุกอย่างก็คงไม่ราบรื่นถึงเพียงนี้
“หากไม่มีเสื้อผ้าชุดนั้น ระหว่างพวกเราก็ไม่มีทางเป็นไปได้ เจ้าคือเสด็จอาเก้าผู้สูงส่ง ข้าเป็นเพียงราษฎรผู้ต่ำต้อย พวกเราไม่มีทางสัมพันธ์กันได้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เจ้าคือเสด็จอาของตงหลิงจื่อลั่ว เสด็จอาเก้า เจ้าเองก็น่าจะเข้าใจ เวลานั้นข้าอัปยศมากแค่ไหน ไม่สนว่าเจ้าจะมีความเกี่ยวข้องกับตงหลิงจื่อลั่วหรือไม่ แต่เมื่อเจ้าแซ่ตงหลิง ข้าก็จะเกลียดเจ้า”
ไม่สำคัญว่านางจะระบายความโกรธหรือสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล หากไม่ใช่เพราะเสื้อชุดนั้น นางไม่มีทางหวั่นไหวให้กับเสด็จอาเก้า ต่อให้เสด็จอาเก้าจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ เป็นเพราะตงหลิงจื่อลั่ว ทำให้นางไม่มีความรู้สึกกับผู้ชายแซ่ตงหลิงทั้งหมด
เสด็จอาเก้าผงะ นึกถึงความเยือกเย็นที่เฟิ่งชิงเฉินมีต่อหลานจิ่วชิง เขาก็เข้าใจในทันที เรื่องที่ทำให้เฟิ่งชิงเฉินหวั่นไหวในตอนนั้น มันก็จะทำให้นางหวั่นไหวตลอดไป หากตอนนั้นนางไม่รู้สึกหวั่นไหว ต่อให้เขาคิดกับเฟิ่งชิงเฉินอย่างไรมันก็แทบไม่มีทางเป็นไปได้
ต้องรู้ก่อนว่าที่เขารู้สึกหวั่นไหวให้กับเฟิ่งชิงเฉินนั่นเป็นเพราะเฟิ่งชิงเฉินเข้ามาพัวพันกับเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ความดื้อรั้นของเฟิ่งชิงเฉินทำให้เขาประทับใจ ความสามารถและพรสวรรค์ของเฟิ่งชิงเฉินทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง หากไม่ใช่เพราะเสื้อชุดนั้น เขาก็คงไม่ถูกล่อลวงด้วยเฟิ่งชิงเฉิน
โชคชะตาเป็นสิ่งที่วิเศษมาก
เสด็จอาเก้ารู้สึกโล่งใจในทันที เขาโชคดีที่เขามีเฟิ่งชิงเฉินอยู่ในตอนนี้ ไม่อย่างนั้นตอนนี้เขาก็คงเหมือนกับหวังจิ่นหลิง ไม่สามารถรักได้ ต่อให้เขาแข็งแกร่งก็ไม่สามารถทำลายกำแพงนี้ไปได้
“ถือว่าข้าโชคดีมาก” เสด็จอาเก้าลูบถ้วยชาในมือ แววตาของเขาเผยให้เห็นรอยยิ้ม
เขาโชคดีกว่าหวังจิ่นหลิงเล็กน้อย อยู่เหนือกว่าหวังจิ่นหลิงหนึ่งก้าว ในช่วงเวลาที่เฟิ่งชิงเฉินต้องการมากที่สุด เขาได้ป้องกันเฟิ่งชิงเฉินจากมรสุมอันรุนแรง
“มันคือเรื่องของเวลาและโชคชะตา ไม่เกี่ยวกับความโชคดี เป็นเพราะเจ้า ข้าถึงหวั่นไหว” หากผู้ที่มอบเสื้อให้กับนางเป็นตงหลิงจื่อลั่ว นางคงโยนเสื้อนั้นทิ้งต่อหน้าตงหลิงจื่อลั่ว
อาและหลานขู่นาง หากนางทำให้เกิดความวุ่นวาย พวกเขาจะลงมือกับน้องสาวของนาง แม่นางลิ่วอดทนมาโดยตลอด จนกระทั่งนางพบว่า ความอดทนของนางนั้นไร้ประโยชน์ อาและหลานคู่นั้นยังคงวางแผนจะลงมือกับน้องสาวของนางอยู่ดี แม่นางลิ่วต่อสู้อย่างสิ้นหวัง ดูจากท่าทางของนาง เกรงว่านางคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ตั้งนานแล้ว” แม่นางลิ่วผู้นี้น่าสงสารและน่าสมเพช แต่เสด็จอาเก้าก็ยังไร้ซึ่งความรู้สึกอยู่ดี
“เรื่องนี้ ซุ่นหนิงโหวรับรู้หรือไม่? แล้วฮูหยินของซุ่นหนิงโหวรู้หรือไม่?” แววตาของเฟิ่งชิงเฉินเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ผู้หญิงในยุคนี้ช่างน่าเวทนาเหลือเกิน ชีวิตของพวกนางทำได้เพียงพึ่งพาผู้ชาย หากผู้ชายไม่สนใจพวกนาง พวกนางก็ทำได้แค่ทนอยู่ต่อไปอย่างทุกข์ทรมาน มีชีวิตอยู่ไม่ต่างอะไรกับสัตว์
“รู้ เรื่องตอนที่แม่นางลิ่วถูกข่มขืนครั้งแรก ซุ่นหนิงโหวและฮูหยินรู้เรื่องนี้ดี ซุ่นหนิงโหวกำชับนางว่าอย่างเปิดปากเป็นอันขาด ทำเหมือนว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น และฮูหยินก็เตือนนางว่าอย่างรนหาที่ตาย มิฉะนั้นนางสาวของนางก็อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ใช่แล้ว แม่นางลิ่วเกิดจากนางบำเรอของซุ่นหนิงโหว ไม่ได้เกิดจากสนมหรือฮูหยินของซุ่นหนิงโหว และคนที่ข่มขืนแม่นางลิ่วก็คือลูกชายที่เกิดจากฮูหยินของซุ่นหนิงโหว” แม่นางลิ่วต้องเผชิญหน้ากับโศกนาฏกรรมอันเลวร้าย ต่อให้แสดงตัวออกมาแล้วมันมีประโยชน์อันใด แน่นอนว่าไม่มีใครสนใจนางอยู่แล้ว
“ช่างเป็นเรื่องที่น่าเวทนาเหลือเกิน” เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกเหมือนมีบางอย่างกดทับหัวใจของนาง มันหนักจนแทบทำให้นางหายใจไม่ออก
ความไร้เดียงสาเป็นชะตากรรมของผู้หญิงในยุคนี้ หากตอนนั้นนางถูกซีหลิงเทียนเหล่ยข่มขืน ชีวิตของนางจะเป็นเช่นไร?
นางอาจจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ แต่ไม่มีทางมีชีวิตที่ดีเหมือนทุกวันนี้แน่นอน เสด็จอาเก้าไม่มีทางนำผู้หญิงที่มีมลทินมาเป็นผู้หญิงของตนเอง
ทันทีที่ดวงตาของเฟิ่งชิงเฉินเคลื่อนไหว เสด็จอาเก้ารู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ ขมวดคิ้วและกล่าวออกไปว่า “คิดอะไรของเจ้า นางก็คือนาง โศกนาฏกรรมทั้งหมดเกิดขึ้นจากตัวของนางเอง หากนางมีสมองสักเล็กน้อย ชีวิตของนางคงไม่จบลงเช่นนี้”
เก็บตัวอยู่ในวังหลัง ทนให้อาและหลานข่มขืนมาเป็นเวลาหลายปี แม่นางลิ่วผู้นี้ถือเป็นคนซึ่งมีความอดทน แต่ก็เห็นได้ชัดว่านางไร้ซึ่งสมอง ทำให้ถูกอีกฝ่ายเร่งงานอยู่ฝ่ายเดียว
“ข้าไม่ได้คิดอะไร ข้าแค่รู้สึกสงสารแม่นางลิ่วเท่านั้น ผู้หญิงที่เติบโตในวังหลังจะมีสมองได้อย่างไร แม่ใหญ่ของนางทำกับนางเช่นนี้เห็นได้ชัดว่านางเป็นคนอย่างไร แม่นางลิ่วผู้นั้นทำเพื่อปกป้องน้องสาวของตนเอง นางอดทนได้นานถึงเพียงนี้มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่านางเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง”
มีความคิดจะปกป้องผู้อื่น ถึงทำให้มีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยความกล้าหาญ เสด็จอาเก้ากล่าวว่าแม่นางลิ่วนั้นไร้ซึ่งปัญญา แต่นางมองว่าแม่นางลิ่วนั้นไม่สามารถทำอะไรได้นางจากยอมรับกับความเวทนาที่ต้องเผชิญ......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...