หลังจากหวังจิ่นหลิงพาเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินไปส่งยังจวนเฟิ่ง จากนั้นก็เตรียมตัวกลับจวนของตนเอง แต่เมื่อรู้ว่ารถม้าของหวังจิ่นหลิงมีปัญหา ไม่ว่าพูดอย่างไรเฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ยอมให้หวังจิ่นหลิงนั่งรถม้าของตระกูลหวังกลับจวน นางสั่งให้คนของจวนเฟิ่งพาหวังจิ่นหลิงกลับจวน ส่วนรถม้าของตระกูลหวังจะให้คนขับรถม้าขับกลับไปหรือจะเอาไว้ที่จวนเฟิ่งก็ได้
เฟิ่งชิงเฉินยืนกรานเสียขนาดนี้ หวังจิ่นหลิงเองก็ไม่กล้าปฏิเสธ พยักหน้าตอบรับ คนขับรถม้ารู้อยู่แก่ใจว่าปัญหานั้นไม่ได้อยู่ที่รถม้า แต่เขาก็ไม่กล้าพูดออกไป ปล่อยให้ปัญหาตกอยู่ที่รถม้าตามที่เฟิ่งชิงเฉินกล่าว และในตอนเดินทางกลับ คนขับรถม้าเลือกที่จะขับรถม้ากลับไป หวังจิ่นหลิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เหลือบมองคนขับรถม้า เห็นด้วยตามสิ่งซึ่งคนขับรถม้าเลือก จากนั้นก็หันมายิ้มให้เสด็จอาเก้า
เฟิ่งชิงเฉินลังเลอยู่คู่หนึ่ง พยักหน้าและสั่งให้คนของนางไปส่งหวังจิ่นหลิงอย่างระมัดระวัง
ส่งหวังจิ่นหลิงกลับไปแล้ว เฟิ่งชิงเฉินหันมาถามเสด็จอาเก้าว่าต้องการกลับจวนอย่างไร ต้องการให้คนของนางไปส่งหรือไม่ อย่าคิดว่านางไม่รู้ เสด็จอาเก้าไม่ได้รอนางอยู่หน้าประตูพระราชวังตั้งแต่แรก แต่หากบอกว่าหวังจิ่นหลิงตั้งใจมารอนาง นางคงรู้สึกเชื่อมากกว่า
“เจ้าเป็นห่วงหวังจิ่นหลิงมากอย่างนั้นหรือ?” เสด็จอาเก้าไม่ได้ตอบคำถามเรื่องกลับจวนอย่างไร แต่ถามกลับไปแทน
เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้าและตอบกลับไปตามตรง “ใช่ ข้าไม่อยากให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเขา”
“หากเกิดเรื่องขึ้นกับข้าและเขาพร้อมกัน เจ้าจะช่วยใคร?” เสด็จอาเก้ายอมรับว่าตนเองหึง ตอนอยู่หน้าประตูวัง เฟิ่งชิงเฉินเลือกขึ้นรถม้าของตระกูลหวัง ซึ่งทำให้เสด็จอาเก้ารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
นั่นคือการแข่งขันระหว่างเขากับหวังจิ่นหลิง และผลลัพธ์ก็คือ เขาเป็นฝ่ายแพ้
“ช่วยหวังจิ่นหลิง” เฟิ่งชิงเฉินตอบกลับมาโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น ตอนแรกคิดว่าเสด็จอาเก้าจะมีสีหน้าเปลี่ยนไป แต่เสด็จอาเก้ากลับตอบกลับมาด้วยใบหน้าอันเยือกเย็น “เขาดีขนาดนั้นเลยงั้นหรือ เจ้าถึงเลือกช่วยเขา ไม่ช่วยข้า”
แก้วในมือถูกบีบแน่นขึ้น ชาในแก้วสั่นจนหกออกมาลวกหลังมือ แต่เสด็จอาเก้าไม่รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด เขาแค่จ้องมองเฟิ่งชิงเฉินและหวังว่าจะได้ยินอะไรบางอย่าง ได้ยินคำตอบที่ใจของเขาต้องการ
“ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ดีหรือไม่ดี สำหรับข้าแล้วจิ่นหลิงนั้นต่างออกไป ในตอนที่ข้าถูกดูหมิ่นจากคนภายนอก เขาเป็นเพียงคนเดียวที่มองข้าด้วยสายตาซึ่งต่างออกไป เขาปฏิบัติต่อข้าอย่างเท่าเทียม มีแค่เขาที่มอบโอกาสให้ข้า เจ้ากับหวังจิ่นหลิงนั้นไม่เหมือนกัน เจ้าคือคนที่ข้าชอบ หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับพวกเจ้าพร้อมกัน ข้าจะเลือกช่วยจิ่นหลิงก่อน แต่ข้าจะตายไปพร้อมกับเจ้า” หากไม่ใช่เพราะความเชื่อที่หวังจิ่นหลิงมีให้นางในตอนแรก ยอมเดิมพันชื่อเสียงของตระกูลหวังเพื่อให้นางรักษาดวงตาให้ นางคงไม่มีจุดยืนที่มั่นคงในเมืองจักรพรรดิอย่างในตอนนี้
หวังจิ่นหลิงเห็นว่านางเป็นผู้มีพระคุณ คิดว่าการที่นางรักษาดวงตาของเขา ทำให้เขามีชีวิตใหม่ แต่ในขณะเดียวกัน หวังจิ่นหลิงก็เป็นผู้มีพระคุณสำหรับนาง หากไม่มีความเชื่อใจของหวังจิ่นหลิง ต่อให้ทักษะทางการแพทย์ของนางสูงแค่ไหนก็ไม่สามารถแสดงออกมาให้ใครเห็นได้ และไม่มีใครจะมาเชื่อถือนาง
คนในใต้หล้าต่างกล่าวว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นผู้สร้างหวังจิ่นหลิง แต่ใครจะรู้ว่าหากไม่มีหวังจิ่นหลิงก็คงไม่มีเฟิ่งชิงเฉินในวันนี้ ไม่มีเวทีให้นางแสดงความสามารถ ต่อให้นางมีความสามารถมากแค่ไหนมันก็ไร้ประโยชน์
“เป็นเพราะเหตุผลนี้งั้นหรือ?” ความโกรธในใจของเสด็จอาเก้าลดลงไปไม่น้อย โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินว่าเฟิ่งชิงเฉินจะยอมตายไปพร้อมกับเขา เสด็จอาเก้ารู้สึกว่าทุกอย่างมันดีของมันอยู่แล้ว
สำหรับความพิเศษที่เฟิ่งชิงเฉินมีต่อหวังจิ่นหลิง เสด็จอาเก้าเองก็สามารถเข้าใจได้ ตอนนั้นเฟิ่งชิงเฉินเป็นศัตรูกับทุกคนในใต้หล้า ทุกคนต่างเหยียบย้ำนาง มีเพียงหวังจิ่นหลิงคนเดียวเท่านั้นที่ยื่นมือมาให้ความช่วยเหลือนาง เรื่องนี้ถือว่าเป็นความพิเศษอย่างหาที่สุดไม่ได้
เฟิ่งชิงเฉินยิ้มอย่างขมขื่น มองมายังเสด็จอาเก้าด้วยดวงตาที่ลุกโชนพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า “ไม่ใช่ ข้าปฏิบัติกับจิ่นหลิงต่างออกไปก็เพราะว่าตอนที่ทุกคนไม่เห็นคุณค่าของข้า เขาเป็นเพียงคนเดียวที่เห็นมัน และเป็นเพียงคนเดียวที่เห็นว่าข้าเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ทำให้ข้ารู้ถึงคุณค่าของการมีชีวิต ข้าเองก็มีศักดิ์ศรีมีความภาคภูมิใจ ไม่ใช่มดปลวกที่ใครก็สามารถเหยียบย้ำ”
นางในตอนนั้นยากลำบากแค่ไหน มีแค่นางเท่านั้นที่รู้ หากนางเดินผิดไปแม้แต่ก้าวเดียว ทุกอย่างทุกดับสลาย แม้เรื่องราวทั้งหมดจะผ่านไปแล้ว แต่มันก็เป็นเรื่องราวที่เจ็บปวดและติดอยู่ในหัวใจ เรื่องเหล่านั้นสำหรับนางแล้ว มันเป็นสิ่งซึ่งยากจะลืมเลือน
เสด็จอาเก้าจ้องมองเฟิ่งชิงเฉิน ความโกรธในใจของเขาจางหายไป อดีตของหวังจิ่นหลิงกับเฟิ่งชิงเฉิน เขาไม่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด ในสถานการณ์เช่นนั้นหากเปลี่ยนเป็นคนอื่นก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าหวังจิ่นหลิงเป็นคนดีโดยแท้จริง
“ข้าเข้าใจแล้ว” เข้าใจว่าทำไมเฟิ่งชิงเฉินถึงดีกับหวังจิ่นหลิงถึงขนาดนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...