ตอนแรกเฟิ่งชิงเฉินคิดว่าการที่จักรพรรดิเรียกตัวเสด็จอาเก้าไปเข้าเฝ้าในพระราชวังกลางดึกเช่นนี้ เป็นเพราะจักรพรรดิไม่พอใจเสด็จอาเก้า และต้องการตักเตือนเสด็จอาเก้า แต่เมื่อกลับมาถึงจวนเฟิ่ง เฟิ่งชิงเฉินถึงเข้าใจว่า ที่จักรพรรดิเรียกเสด็จอาเก้าเข้าวังนั้นไม่ได้เพียงเพราะต้องการตักเตือนเสด็จอาเก้า แต่เป็นการตักเตือนนางด้วย
ช่วงเวลาที่นางไม่อยู่ในพระราชวัง มีผู้กล้ามากมายลงมือเพื่อเอาชีวิตนาง จักรพรรดิเรียกเสด็จอาเก้าเข้าไปในพระราชวังเช่นนี้ มันก็เหมือนปิดประตูการช่วยเหลือของนาง
ทันทีที่กลับมาถึงจวนเฟิ่ง สิ่งที่ต้อนรับการกลับมาของเฟิ่งชิงเฉินนั้นไม่ใช่รอยยิ้ม แต่มันเป็นใบหน้าที่มืดมน ทันทีที่เฟิ่งชิงเฉินก้าวเข้ามาในประตู ทงจือและทงเหยาก็เหมือนกับได้เห็นผู้กอบกู้ พวกเขาวิ่งไปด้านหน้าด้วยดวงตาอันแดงก่ำ “คุณหนู คุณหนูกลับมาแล้ว คุณหนูกลับมาแล้ว”
“คุณหนู หากคุณหนูยังไม่กลับมา พวกข้าก็ไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไรต่อไป”
สาวใช้สองคนร้องไห้อยู่อย่างนั้น ชิวฮว่า เซี่ยหว่าน ชุนฮุ่ย และตงชิงเองก็ร้องไห้ไม่ยอมหยุด ทุกคนในจวนเฟิ่งไม่มีใครแสดงรอยยิ้มออกมาเลย
ในตอนนั้นเฟิ่งชิงเฉินไม่มีเวลาจะไปสนใจจั่วอั้น นางรีบถามสาวใช้ทั้งสองไปทันที “เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทำไมพวกเจ้ายังไม่นอน? ซือสิงอยู่ที่ไหน?”
นางกลับมาจวนยามดึกโดยไม่ได้แจ้งให้ใครรู้ล่วงหน้า แต่คนในจวนกลับยังไม่หลับนอน เฟิ่งชิงเฉินไม่ต้องคิดก็รู้ว่าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้น ไม่อย่างนั้นทงจือและทงเหยาสองคนนี้คงไม่ตื่นตระหนกจนผิดสังเกต
และสิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินกังวลมากที่สุดก็คือ ทุกคนในจวนเฟิ่งต่างอยู่ที่นี่ แล้วทำไมซุนซือสิงถึงไม่อยู่
“คุณหนู” ทงจือเช็ดน้ำตาและกล่าวว่า “คุณหนู คุณชายซุน? เกิดเรื่องขึ้นแล้ว คุณชายซุน? ถูกองครักษ์เสื้อโลหิตพาตัวไป ถูกขังอยู่ในคุกแห่งองครักษ์เสื้อโลหิต”
“ซือสิง? เจ้าบอกว่าซือสิงถูกคนขององครักษ์เสื้อโลหิตจับตัวไป? มันเกิดอะไรขึ้น?” มือและเท้าของเฟิ่งชิงเฉินเย็นขึ้นในทันที เลือดบนใบหน้าจางลง ประกอบกับความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ทำให้เฟิ่งชิงเฉินดูซีดเซียวเป็นพิเศษ
จั่วอั้นยักไหล่ รู้สึกสงสัยเล็กน้อยว่า “ซือสิง” เป็นใคร
แม้ว่าเขาจะเคยตรวจสอบเกี่ยวกับเฟิ่งชิงเฉิน แต่เรื่องที่เฟิ่งชิงเฉินรับศิษย์เข้ามาเลี้ยงดูนั้นไม่ได้แพร่งพรายออกไปด้านนอก ผู้ที่รู้เรื่องนี้ ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนสนิทที่เฟิ่งชิงเฉินเชื่อใจ
เห็นน้ำตาที่หลั่งไหลลงมาของเฟิ่งชิงเฉินเหมือนกับสูญเสียเลือดเนื้อของตนเองไป ทงจือหยุดร้องไห้ในทันที และเริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น “คุณหนู ช่วงระยะเวลาที่คุณหนูไม่อยู่จวน พวกข้าระมัดระวังกันเป็นอย่างมาก แทบจะไม่ออกไปนอกจวนเลย เนื่องจากว่ากลัวจะทำให้เกิดเรื่องขึ้น แต่ไม่ว่าพวกเราจะระวังตัวมากแค่ไหน สุดท้ายก็ถูกจับได้อยู่ดี
สามวันก่อนหน้านี้มีคนจากจวนซุ่นหนิงโหวเดินทางมาเพื่อพบคุณชายซุน ต้องการให้คุณชายซุนไปรักษาหนิงโหวของพวกเขา แน่นอนว่าคุณชายไม่ยินยอม จนกระทั่งคนของจวนหนิงโหวพูดออกมาว่า หนิงโหวของพวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีกับหมอหลวงซุน ก่อนหมอหลวงซุนจากไป เขาได้วางบางสิ่งบางอย่างไว้ในจวนหนิงโหว บอกว่าวันใดที่หนิงโหวผู้นี้มีปัญหาสามารถมาหาคุณชายซุนได้ทุกเมื่อ เอาของสิ่งนั้นมา บอกว่าหลังจากคุณชายซุนได้เห็นของสิ่งนั้นแล้วก็จะเข้าใจทันทีว่าทำไมหมอหลวงซุนถึงจากไป
เมื่อข้าได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรไม่ชอบมาพากล ตอนแรกข้าอยากบอกจะบอกกับคุณชายซุนว่าอย่าไป จนกระทั่งคุณชายซุนกล่าวว่าหมอหลวงซุนมีมิตรภาพที่ดีกับจวนซุ่นหนิงโหวจริง เขาเคยพูดต่อหน้าคุณชายซุน ว่าซุ่นหนิงโหวเป็นบุคคลที่ควรค่าแก่การผูกมิตรด้วย ดังนั้นข้าจึงรู้สึกโล่งใจ และเดินก้าวออกไปพร้อมกับคุณชายซุน
จนกระทั่งถึงจวนซุ่นหนิงโหวทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี หล่าวหนิงโหวร่างกายไม่แข็งแกร่ง คุณชายซุนบอกว่าเขาเป็นโรคหอบหืด จึงได้จัดยาให้เพื่อรักษาอาการ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...