บทที่ 877 เจ้าเป็นหมอ แต่ก็เป็นสตรีของข้า – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ตอนนี้ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 877 เจ้าเป็นหมอ แต่ก็เป็นสตรีของข้า จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เฟิ่งชิงเฉินคิดได้ถูกต้องแล้ว เสด็จอาเก้าโกรธมาก เดิมทีเสด็จอาเก้าไม่ได้สนใจเรื่องเสื้อผ้าของเฟิ่งชิงเฉิน เพราะถึงอย่างไรก็เป็นเพียงเสื้อผ้าชิ้นเดียว เพียงแค่เฟิ่งชิงเฉินมีความสุขก็พอ แต่เมื่อรวมเข้ากับสิ่งที่เขาเพิ่งเห็น ประกอบกับคำอธิบายของเฟิ่งชิงเฉิน เสด็จอาเก้าก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาจริงๆ
“ชิงเฉิน แม้ว่าเจ้าจะไม่ชอบชุดนั้น แต่มันเป็นของกำนัลจากข้า เจ้าไม่คิดจะสนใจเลยหรือ? เช่นนั้นทำเจ้าจงลายมันเสีย”
แม้ว่าจะเป็นเพียงเสื้อผ้าชิ้นหนึ่ง แต่ก็เป็นของขวัญจากเขาและมีความหมายมากมาย แต่เพื่อจัดการกับตงหลิงจื่อลั่ว เฟิ่งชิงเฉินคิดจะทำลายก็ทำลายเอาง่ายๆ นางไม่รู้สึกเสียดายบ้างหรือ?
เสด็จอาเก้ามองไปที่เฟิ่งชิงเฉินอย่างเย็นชา รอให้นางอธิบายว่าเหตุใดจึงไม่สนใจสิ่งของที่เขามอบให้
“มิใช่ว่าข้าไม่สนใจ องครักษ์เสื้อโลหิตกำลังทำงาน ไม่ต้องพูดถึงการทุบจวนเฟิ่ง แม้แต่การเผาจวนเฟิ่งก็ไม่ผิด มีเพียงชุดนั้นเท่านั้นที่สามารถทำให้ตงหลิงจื่อลั่วทนทุกข์ทรมานได้ และให้ตงหลิงจื่อลั่วได้รับการลงโทษที่เขาสมควรได้รับ” เฟิ่งชิงเฉินกลืนน้ำลายลงคอ แววตาของนางดูไม่สบายใจนัก
นางไม่คิดว่าเสด็จอาเก้าจะโกรธมากเช่นนี้ ในความคิดของนาง มันเป็นเพียงเสื้อผ้าชิ้นหนึ่ง ซึ่งเป็นเสื้อผ้าที่ไม่มีประโยชน์สำหรับนางเลย
มีปิ่นปักผมฟีนิกซ์ของฮองเฮาพระองค์ก่อน แต่ชุดนี้แทบไร้ประโยชน์ แทนที่จะปล่อยให้กลายเป็นขี้เถ้า คงดีกว่าถ้ามอบมันมาให้นาง
“หากเจ้าต้องการค้นหาตงหลิงจื่อลั่ว มีโอกาสมากมายในอนาคต เจ้าจำต้องใช้วิธีนี้หรือ? ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าไม่มีทางเลือกอื่นในตอนนั้น" เสด็จอาเก้าไม่ยอมปล่อยมือ
เสื้อผ้าไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือทัศนคติของเฟิ่งชิงเฉิน
อาจเป็นเพราะในเวลานั้นนางมองไปที่จวนเฟิ่งที่ถูกปกคลุมด้วยเปลวไฟแห่งสงคราม และนางก็โกรธจนแทบบ้า นางไม่คิดว่าเสด็จอาเก้าจะโกรธหรือไม่ นางรู้เพียงนางโกรธเป็นยิ่งนัก
แต่เสด็จอาเก้าโกรธมาก เฟิ่งชิงเฉินจะกล้าพูดได้อย่างไรว่านางทำเกินไป ทำโดยไม่ได้คำนึงถึงความคิดของเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินสูดลมหายใจเข้า เดินไปทางเสด็จอาเก้าที่โต๊ะ นางก้มหัวให้เสด็จอาเก้าและยอมรับความผิดพลาดของตน "ข้าขอโทษ ข้าทำได้ไม่ดีในเรื่องนี้ และข้าสัญญาว่าจะไม่มีครั้งต่อไป”
“แล้วหากมีครั้งหน้าเล่า?" เฟิ่งชิงเฉินยอมรับความผิดพลาดของตนแล้ว เขาจะทำอะไรได้อีก ถึงอย่างไรก็เป็นเพียงเสื้อผ้าชิ้นหนึ่ง หากเอาเรื่องความรู้สึกมาเกี่ยวโยง เกรงว่าจะทำเกินไป เพียงแค่เฟิ่งชิงเฉินได้รับทบเรียนก็พอ
ผ่านแล้ว!
เฟิ่งชิงเฉินผ่อนคลาย ใบหน้ายิ้มแย้มมองไปทางเสด็จอาเก้า "หากมีครั้งต่อไป ข้าจะให้เจ้าจัดการได้ตามใจ โดยข้าจะไม่ขัดขืน”
“จงจำสิ่งที่เจ้าว่าไว้และอย่าเสียใจในภายหลัง" แม้ว่าเขาจะดูไม่ใส่ใจ แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเสด็จอาเก้าก็ปรากฏขึ้นเล็กน้อย
“ข้าสัญญากับเสด็จอาเก้าว่าข้าจะไม่มีวันลืมมันแน่” ครั้งต่อไปต่อให้นางต้องใช้ตัวเองในการระบายความโกรธ ก็จะไม่เอาของที่เขาให้มาระบายแน่นอน
ชายคนนี้ใจแคบเหลือเกิน!
เสด็จอาเก้าพยักหน้า แต่ความเย็นชาบนร่างกายของเขาไม่ได้บรรเทาลง เฟิ่งชิงเฉินตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติไป จึงรีบหุบยิ้ม "มีอะไรอีกงั้นหรือ?"
“เกิดอะไรขึ้นในห้องไม้นั่น เจ้าต้องการอธิบายให้ข้าฟังมิใช่หรือ?" เสด็จอาเก้าไม่มีอารมณ์วกไปวนมา เขาเอ่ยถามนางอย่างตรงๆ
แม้ว่าเขาจะไม่อยากยอมรับ แต่ถ้าเขาไม่พูดเฟิ่งชิงเฉินก็จะไม่มีทางรู้ว่าเขาโกรธอะไรไปตลอดทั้งชีวิต เพราะเฟิ่งชิงเฉินไม่คิดว่านางทำผิดเลย
“กระท่อมไม้นั่น? เรื่องใดหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินถามด้วยความงุนงง
เสด็จอาเก้าตัวแข็งทื่อ ความโกรธของเขาจางหายไป เขาคือคนที่ทำผิดต่อเฟิ่งชิงเฉิน เขาไม่สามารถให้ตำแหน่งชื่อเสียงแก่เฟิ่งชิงเฉินได้ แต่ยังขอให้เฟิ่งชิงเฉินทำหน้าที่ในฐานะผู้หญิงของเขาต่อไป
เสด็จอาเก้าสูดลมหายใจและพูดอย่างใจเย็นว่า "ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้น ข้าเพียงเตือนเจ้า หากเจ้าไม่สนใจ ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นไม่สนใจ เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าสามารถเพิกเฉยต่อมารยาทเหล่านี้ได้ แต่ต้องมีเขตจำกัด เจ้าไม่อาจให้ทุกคนเป็นเหมือนเจ้า ถือว่าจริยธรรมเป็นเพียงสิ่งว่างเปล่าที่จับต้องมิได้ ตอนนี้หวางชีหมดสติ หากเขามีสติ เจ้าคิดว่าเขาจะเต็มใจทำสิ่งนี้หรือไม่?”
“ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่ในภายภาคหน้า" เฟิ่งชิงเฉินสูดจมูก นางก้มศีรษะลงเพื่อซ่อนความขมขื่นในดวงตาของเขา
นางเข้าใจและเข้าใจข้อกล่าวหาของเสด็จอาเก้า ด้วยการวัดตามมาตรฐานของโลกนี้ นางก้าวไปไกลเกินควรแล้ว แต่ใครจะรู้ถึงความคับแค้นใจและความสิ้นหวังของนางเล่า?
ในฐานะปมอ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่สัมผัสร่างกายกับคนไข้ สิ่งที่นางทำได้คือหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด และไม่ทำให้คนเข้าใจผิด
เฟิ่งชิงเฉินกะพริบตาเสียจนน้ำตาในดวงตาของนางไหลริน แล้วมองไปที่มือของตนอย่างเงียบ ๆ ......
นางไม่รู้อะไรเลยนอกจากทักษะทางการแพทย์ หากนางต้องการรับผิดชอบจวนเฟิ่ง เป็นหัวหน้าตระกูลเฟิ่ง นางก็จำเป็นต้องเป็นหมอ นางจะไม่สามารถเป็นเหมือนบุตรสาวตระกูลอื่นๆ ในชีวิตนี้ ไม่อาจอยู่แต่ในบ้านในเรือน คอยดูแลสามีกับลูกๆ
“เอาละ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะตำหนิเจ้า ข้าเพียงบังเอิญพบเรื่องนี้เข้า หาดคนอื่นเห็น อาจเป็นเรื่องร้ายแรงกว่า เจ้าควรจะระวังตัวเองเข้าไว้”เสด็จอาเก้าเห็นเฟิ่งชิงเฉินเป็นเช่นนี้ เขาก็ได้แต่ปลอบโยน
หลังจากสงบสติอารมณ์แล้ว เสด็จอาเก้าก็ยอมรับว่าเขาอารมณ์ร้อนเพราะเห็นภาพในกระท่อมไม้เมื่อครู่นี้ จึงได้กล่าวรุนแรงไป
“ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณเสด็จอาเก้า” เฟิ่งชิงเฉินเอ่ยอย่างอ่อนแรงไปชั่วขณะหนึ่ง นางรู้สึกว่าเรี่ยวแรงทั้งหมดสิ้นลง หากนางไม่ต้องการรักษาท่าทีศักดิ์ศรีของตนต่อหน้าเสด็จอาเก้าละก็ นางคงจะล้มลงสู่พื้นไปแล้ว......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...